โทษในนรกขุมต่างๆ ของพระภิกษุ ทำผิดพระวินัย เรี่ยไรเงินทองชาวบ้าน และอาบัติอื่นๆ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมวินัย, 1 เมษายน 2008.

  1. ธรรมวินัย

    ธรรมวินัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +40
    *พระภิกษุ ที่เรี่ยไรเงินทองชาวบ้าน และอาบัติอื่นๆ ฯลฯ มีโอกาสใช้เงินทองในโลกนี้ไม่กี่ปี แต่ต้องไปโดนไฟนรก ทนทุกข์ทรมานยาวนานเหลือประมาณ
    - หากไม่รีบปลงอาบัติในทันทีที่กระทำผิดในครั้งแรก (ยกเว้นปาราชิก เพราะต้องหมดจากความเป็นพระภิกษุในทันที แล้วต้องไป "อเวจีมหานรก" สถานเดียวเท่านั้น)
    - ความผิดนอกเหนือจากปาราชิก หากไม่รีบปลงอาบัติ แล้วทำผิดในครั้งที่สองเป็นต้นมา การปลงอาบัติจะไม่มีผลใดๆทั้งสิ้น
    - พระภิกษุที่ทำผิดพระธรรมวินัย แล้วไม่รีบปลงอาบัติในทันที กรรมนั้นจะเป็นเครื่องกั้น ไม่ให้มรรคผลใดๆเกิดขึ้นได้เลย เมื่อจุติจิตเกิดขึ้น ต้องไปปฏิสนธิใน "มหานรก 8 ขุม"

    *วิธีปฏิบัติการปลงอาบัติ จะต้องปลงอาบัติในทันทีที่กระทำผิดในครั้งแรก และต้องทำให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ดังนี้
    - ต้องปลงอาบัติกับพระภิกษุอย่างน้อย 4 รูปขึ้นไป
    - การกลับมาเป็นพระภิกษุที่สมบูรณ์อีกครั้ง ต้องมีพระภิกษุลงมติเห็นชอบอย่างน้อย 20 รูปขึ้นไป

    #โทษในนรกขุมต่างๆ สำหรับพระภิกษุ ที่ไม่ปลงอาบัติในทันที หรือปลงอาบัติไม่ถูกต้อง ตามพระธรรมวินัย จากพระวินัยปิฏก

    1) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด ทุกกฏ-ทุพภาษิต / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 1 สัญชีพนรก" 1 ชั่วอายุ คือ 500 ปี ของชั้นนี้
    1 วัน ชั้นนี้ เท่ากับ 9 ล้านปีมนุษย์
    1 ปี ในชั้นนี้ เท่ากับ 3,285,000,000
    500 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 1,642,500,000,000 ปีมนุษย์
    *โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ 1,642,500,000,000 ปีมนุษย์ / ต่อทุกกฏ-ทุพภาษิต 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    2) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด ปฏิเทสนียะ / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 2 กาฬสุตตะ" 1 ชั่วอายุ คือ 1,000 ปี ของชั้นนี้
    1 วัน ชั้นนี้ เท่ากับ 36 ล้านปีมนุษย์
    1 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 13,140 ล้านปีมนุษย์
    1,000 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 13,140,000 ล้านปีมนุษย์
    *โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ 13,140,000 ล้านปีมนุษย์ / ต่อปฏิเทสนียะ 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    3) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด ปาจิตตี / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 3 สังฆาฏนรก" 1 ชั่วอายุ คือ 2,000 ปี ของชั้นนี้
    1 วัน ในชั้นนี้ เท่ากับ 144 ล้านปีมนุษย์
    1 ปี ในชั้นนี้ เท่ากับ 52,560 ล้านปีมนุษย์
    2,000 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 105,120,000 ล้านปีมนุษย์
    *โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ 105,120,000 ล้านปีมนุษย์ / ต่อปาจิตตี 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    4) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด นิสสัคคีย์ ปาจิตตีย์ / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 4 โรรุวะนรก" 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปี ของชั้นนี้
    1 วันในชั้นนี้ เท่ากับ 576 ล้านปีมนุษย์
    1 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 210,240 ล้านปีมนุษย์
    4,000 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์
    *โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์ / ต่อนิสสัคคีย์ ปาจิตตีย์ 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    5) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด มหานิสสัคคีย์ / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 5 มหาโรรุวะนรก" คือ 8,000 ปี ของชั้นนี้
    1 วันในชั้นนี้ เท่ากับ 2,304 ล้านปีมนุษย์
    1 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 840,960 ล้านปีมนุษย์
    8,000 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 6,727,680,000 ล้านปีมนุษย์
    *โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ 6,727,680,000 ล้านปีมนุษย์ / ต่อมหานิสสัคคีย์ 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    6) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด ถุลลัจจัย / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 6 ตาปนะนรก" 1 ชั่วอายุ คือ 16,000 ปี ของชั้นนี้
    1 วันในชั้นนี้ เท่ากับ 9,216 ล้านปีมนุษย์
    1 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 3,363,840 ล้านปีมนุษย์
    16,000 ปีในชั้นนี้ เท่ากับ 53,821,000,000 ล้านปีมนุษย์
    *โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ 53,821,000,000 ล้านปีมนุษย์ / ต่อถุลลัจจัย 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    7) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด สังฆาทิเสส / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 7 มหาตาปนะนรก" 1 ชั่วอายุ คือ ครึ่งอันตรกัปป์ (ไม่สามารถนับเวลาในโลกมนุษย์ได้) ของชั้นนี้
    โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ ครึ่งอันตรกัปป์ / ต่อสังฆาทิเสส 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    8) ผิดพระธรรมวินัย ในหมวด ปาราชิก / ต่อความผิด 1 ตัว
    ต้องตกนรกใน "มหานรกขุมที่ 8 อเวจีมหานรก" 1 ชั่วอายุ คือ 1 อันตรกัปป์ (ไม่สามารถนับเวลาในโลกมนุษย์ได้) ของชั้นนี้
    *โทษที่พระภิกษุต้องได้รับคือ 1 อันตรกัปป์ / ต่อปาราชิก 1 ตัว ต่อ 1 ลมหายใจเข้าออก หลังจากกระทำความผิด

    ------------------------------------------------------------------------------

    #ผู้โอนเงินให้พระภิกษุ ก็โดนนรกด้วย#
    ผู้โอนเงินให้พระภิกษุ และ พระปลอมก็ตาม (คนที่แอบอ้างว่าเป็นพระ) ก็โดนนรกด้วย มีไฟนรกรอเผาท่านแน่ๆ เพราะถือว่าส่งเสริมให้พระผิดวินัย มีส่วนทำลาย ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมโทรม จะมาอ้างว่าไม่รู้นั้นไม่ได้ กฏแห่งกรรมเป็นกฏธรรมชาติ ท่านจะรู้หรือไม่รู้ ท่านจะแก้ตัวอย่างไร กรรมมันก็ให้ผลไปตามธรรมชาติของมัน ไม่สามารถมาลบล้าง ไม่สามารถมาแก้กรรม ไม่สามารถมาสะเดาะเคราะห์ บุญก็ส่วนบุญ บาปก็ส่วนบาป คนละส่วนกัน อย่าคิดว่าทำบุญแล้วจะได้บุญเสมอไป อาจจะเป็นการทำบาปก็ได้ เชิญชมหลักฐานด้านล่าง*

    *พระภิกษุที่รับเงินทอง (ทั้งพระจริงและพระปลอม) อาบัติทุกลมหายใจเข้าออก ทุกลมหายใจเข้าออก 1 ครั้ง ไฟนรกเผานับเป็นพุทธันดร หรือเป็นอันตรกัปป์/ต่อ ลมหายใจเข้าออก 1 ครั้ง พระภิกษุไม่มีสิทธิ์ถือครองเงิน ไม่มีสิทธิ์ไปเปิดบัญชีธนาคาร ถ้ามีการครอบครองเงินทอง ถือว่าอาบัติทุกกรณี มีหลักฐานในพระไตรปิฏก ดังนี้*

    #พระไตรปิฏก ของมหามกุฏ ชุด 91 เล่ม#
    1. เรื่อง วิธีปฏิบัติในเรื่องเงินทองที่เขาถวาย เล่ม 3 หน้า 863
    2. เรื่อง ไฟนรกเผาพระภิกษุรับเงิน เล่ม 16 หน้า 302, 308
    3. เรื่อง เปรตด่าผู้ที่อุทิศบุญ หลังจากถวายเงินให้พระภิกษุ เกิดไฟเผา เล่ม 23 หน้า 409 แถวที่ 19, 29
    4. เรื่อง โทษในนรกของพระภิกษุ ให้ Search ในพระวินัยปิฏก โดยใช้คำว่า ปาราชิก, สังฆาทิเสส, ถุลลัจจัย ฯลฯ เพราะเนื่องจากว่าข้อความไม่ได้เรียงกัน แต่จะกระจัดกระจายในส่วนต่างๆ ไม่เป็นระเบียบ
    *หมายเหตุ CD พระไตรปิฏก ของมหามกุฏ ชุด 91 เล่ม มีแจกตอนท้าย เพื่อให้ท่านใช้ตรวจสอบความจริง*


    *ศีลในหมวด นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ภิกษุห้ามรับเงินทอง (ดูข้อ 18 และ 30) เป็นอาบัติ ตกนรกเป็นพุทธทันดร หรือเป็นอันตรกัปป์/ต่อ ลมหายใจเข้าออก 1 ครั้ง พระภิกษุทั้งหลายหัดศึกษาพระวินัยกันบ้าง บวชเพื่อให้ละกิเลส ไม่ใช่บวชมาเพื่อเรี่ยไรชาวบ้าน ถ้าอยากหาเงินก็สึกออกไป เพราะไฟนรกมันรอท่านอยู่ รวมทั้งคนที่ให้เงินแก่พระภิกษุด้วย*

    #นิสสัคคิยปาจิตตีย์ มี 30 ข้อ ถือเป็นความผิดได้แก่ (ดูข้อ 18 และ 30)#
    1.เก็บจีวรที่เกินความจำเป็นไว้เกิน 10 วัน
    2.อยู่โดยปราศจากจีวรแม้แต่คืนเดียว
    3.เก็บผ้าที่จะทำจีวรไว้เกินกำหนด 1 เดือน
    4.ใช้ให้ภิกษุณีซักผ้า
    5.รับจีวรจากมือของภิกษุณี
    6.ขอจีวรจากคฤหัสถ์ที่ไม่ใช่ญาติ เว้นแต่จีวรหายหรือถูกขโมย
    7.รับจีวรเกินกว่าที่ใช้นุ่ง เมื่อจีวรถูกชิงหรือหายไป
    8.พูดทำนองขอจีวรดีๆ กว่าที่เขากำหนดจะถวายไว้แต่เดิม
    9.พูดให้เขารวมกันซื้อจีวรดีๆ มาถวาย
    10.ทวงจีวรจากคนที่รับอาสาเพื่อซื้อจีวรถวายเกินกว่า 3 ครั้ง
    11.หล่อเครื่องปูนั่งที่เจือด้วยไหม
    12.หล่อเครื่องปูนั่งด้วยขนเจียม (ขนแพะ แกะ) ดำล้วน
    13.ใช้ขนเจียมดำเกิน 2 ส่วนใน 4 ส่วน หล่อเครื่องปูนั่ง
    14.หล่อเครื่องปูนั่งใหม่ เมื่อของเดิมยังใช้ไม่ถึง 6 ปี
    15.เมื่อหล่อเครื่องปูนั่งใหม่ ให้เอาของเก่าเจือปนลงไปด้วย
    16.นำขนเจียมไปด้วยตนเองเกิน 3 โยชน์ เว้นแต่มีผู้นำไปให้
    17.ใช้ภิกษุณีที่ไม่ใช้ญาติทำความสะอาดขนเจียม
    18.รับเงินทอง
    19.ซื้อขายด้วยเงินทอง
    20.ซื้อขายโดยใช้ของแลก
    21.เก็บบาตรที่มีใช้เกินความจำเป็นไว้เกิน 10 วัน
    22.ขอบาตร เมื่อบาตรเป็นแผลไม่เกิน 5 แห่ง
    23.เก็บเภสัช 5 (เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย)ไว้เกิน 7 วัน
    24.แสวงและทำผ้าอาบน้ำฝนไว้เกินกำหนด 1 เดือนก่อนหน้าฝน
    25.ให้จีวรภิกษุอื่นแล้วชิงคืนในภายหลัง
    26.ขอด้ายเอามาทอเป็นจีวร
    27.กำหนดให้ช่างทอทำให้ดีขึ้น
    28.เก็บผ้าจำนำพรรษา (ผ้าที่ถวายภิกษุเพื่ออยู่พรรษา) เกินกำหนด
    29.อยู่ป่าแล้วเก็บจีวรไว้ในบ้านเกิน 6 คืน
    30.น้อมลาภสงฆ์มาเพื่อให้เขาถวายตน

    ----------------------------------------
    #ข้อปฏิบัติเบื้องต้น เกี่ยวกับการถวายเงิน#

    1.ไม่ควรให้เป็นเงิน ควรให้ด้วยอาหาร เครื่องใช้ที่จำเป็น เพราะภิกษุไม่ได้เลี้ยงชีพด้วยเงิน มีญาติโยม ตักบาตร สร้างวัดให้ ให้พระอยู่ตามสมควรอยู่แล้ว บวชเพื่อละกิเลส ไม่ใช่บวชเพื่อหาเงิน อยากหาเงินก็สึกไป อย่าอยู่เป็นภาระสังคม และอย่าอยู่ให้หนักศาสนา อย่าอยู่ให้เป็นเสนียดจัญไร แก่พระพุทธศาสนาอีกเลย

    2. เป็นหน้าที่ของชาวพุทธ (พุทธบริษัท4) ที่ต้องตรวจสอบพระภิกษุว่าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือไม่ ผู้ที่รับทานจากเราก็เหมือนเนื้อาบุญ ถ้าเนื้อนาบุญดี เราก็ได้อนิสงค์มาก ถ้าเนื้อนาบุญไม่ดี เราอาจไม่ได้อนิสงค์อะไรเลย แถมยังเป็นบาปอีกด้วย อุปมาเหมือนการปลูกข้าว ถ้าปลูกในดินที่ดี ข้าวก็งอกงาม ถ้าปลูกในดินที่ไม่ดี ข้าวก็ไม่งอกเลย เมื่อข้าวไม่งอก การขาดทุนก็ตามมา ไม่ใช่ว่าการทำบุญแล้วจะได้บุญเสมอไป ชาวพุทธต้องศึกษาให้ดีก่อน ไม่งั้นท่านจะได้บาปแทน เป็นต้น

    3. ถ้าต้องการถวายเงินเพื่อบำรุงวัด ควรให้แก่ผู้ดูแลวัด ไม่ใช่ให้กับพระโดยตรง มันผิดพระวินัยร้ายแรง ไฟนรกรอท่านอยู่จริง ทั้งผู้รับและผู้ให้

    *หมายเหตุ สำหรับผู้ที่จะแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ ขอให้มีหลักฐานรองรับ ขอให้แสดงหลักฐานจากพระไตรปิฏกด้วย ไม่ใช่มานึกๆคิดๆตามสติปัญญาแบบคนที่หนาไปด้วยกิเลส กฏแห่งกรรมให้ผลไปตามธรรมชาติ คำว่า "ศาสนา" เป็นเพียงชื่อเรียกที่มนุษย์สมมุติกันขึ้นมาเท่านั้น ถึงจะนับถือศาสนาอะไรก็ตาม ยังไงก็ไม่พ้นกฏแห่งกรรมอยู่ดี สาธุ...
    -----------------------------------------

    *แจก CD พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด 91 เล่ม (ม.ม.ร.)-PDF file*
    http://www.samyaek.com/media/viewtopic.php?t=5
    ---------------------------------------
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2008
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขออนุโมทนาสำหรับความรู้จากพระไตรปิฎกครับ

    ก็ขอให้เพื่อนๆที่จะมาตอบโปรดใช้วิจารณญาณในการตอบด้วยนะครับ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลี่ยงที่จะตอบกระทู้นี้นะครับ

    สำหรับเจ้าของกระทู้ ถ้าปั่นกระทู้ หรือ ท้าทาย เพื่อให้เกิดความแตกแยก ผมในฐานะผู้ดูแลห้องก็ขออนุญาตลบทิ้งครับ

    พระพุทธองค์สอนให้เรามีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ครับ เรียนรู้ที่จะเคารพผู้อื่นด้วยกาย วาจา และใจครับ

    ปล. เข้าใจว่าเพิ่งมาสมัครเล่นวันแรก ก็ขอความกรุณาศึกษามารยาทและข้อปฏิบัติในการใช้เว็บบอร์ดด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2008
  3. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    เถรใบลานเปล่า รู้ธรรมแต่ไม่นำมาปฏิบัติ ก็ไม่เกิดปฏิเวศ ไม่เกิดปัญญา ไม่รู้แจ้ง ไม่หลุดพ้น

    ถ้ามีขนม 1 ชิ้น ที่คุณไม่เคยรู้จัก เพื่อนก็บอกว่าขนมหวานอร่อย ความรู้ว่าขนมนั้นมีรสชาติเช่นใด เกิดจากเชื่อตามคำพูด หรือควรจะลองชิมเอง ให้รู้ว่า หวานแบบไหน น้ำผึ้ง น้ำตาล น้ำอ้อย ฯลฯ

    พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ให้ใช้ปัญญาพิจารณาก่อนจึงเชื่อ
     
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ขอให้รักษาบรรยากาศที่ดีในการตอบแบบนี้ต่อไปนะครับ
    ข้อความที่ดีก็มี ข้อความที่ต้องระวังก็มี
    วางกำลังใจให้ถูกในการอ่านและการตอบนะครับ
     
  5. ภัทรศักดิ์

    ภัทรศักดิ์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +3
    ตามเหตุ ตามปัจจัยครับ พระพุทธองค์ทรงมีเมตตาธรรมเสมอครับขอทำความเข้าใจหน่อยนะครับ คือว่าจะปาราชิกก็ดีหรืออาบัติน้อยใหญ่ก็ดี เมื่อลาสิกขาบทแล้วหรือออกจากเพศบรรชิตแล้วกรรมนั้นย่อมตกที่ผู้กระทำครับไม่ว่าหนักหรือเบา
    แต่ใช่ว่าจะไม่เบาบางครับหากท่านเหล่านั้นยังมีจิตที่เป็นกุศล ในการรักษาศีลก็ดี
    ทานก็ดี ภาวนาก็ดี โดยเฉพาะการทำสมาธิกรรมฐานครับ เพราะจิตเป็นใหญ่ครับเป็นภาวะของจิตครับ
    *หากผิดประการก็ขออภัย ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายต่อครับ ขอบคุณครับ
     
  6. ธรรมวินัย

    ธรรมวินัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +40
    ต้องกราบขออภัยต่อพระภิกษุที่ปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบด้วยครับ

    แต่เนื่องจากทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป ยุคนี้มีพระภิกษุไม่น้อยที่บวชเข้ามาแล้วไม่ปฏิบัติตาม พระธรรมวินัย
    บวชมาเพื่อแสวงหาเงินทองให้กับตนเองโดยการไปโพสต์ข้อความเรี่ยไรตามเว็บบอร์ดต่างๆจำนวนมาก


    ผมสงสารคนที่โอนเงินเข้าไปมากกว่าครับ เพราะคนที่โอนเงินไปให้พระพวกนี้ต้องได้รับโทษในนรกไม่น้อยเลย ทั้งๆที่ตั้งใจจะทำบุญแท้ๆ
    ผมจึงนำข้อความในพระวินัยปิฏกมาเตือนสติญาติโยมและพระภิกษุ ถ้วนหน้ากัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2008
  7. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วครับ
    จิตเราตั้งใจทำความดี แม้ผู้รับไม่บริสุทธิ์เราก็ยังได้บุญอยู่ครับ

    วางอุเบกขาเถอะครับ อย่าเสี่ยงกับการปรามาส เพราะจะเป็นการ "เปิด" อบายภูมิให้ตัวเองครับ

    ขออนุโมทนาครับ
     
  8. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    กระทู้หน้ากลัวมากเลย
    ตอบอะไรไป ก็โดน นรก รอทั้งนั้น
    อย่าแค่ตอบเลย แค่คิด นรก ก็กินหัวแล้ว
    คำว่า นรกกินหัว แปลว่า แค่คิดเราก็ไม่มีความสุขแล้ว

    ปล.คนไทยพุทธทั้งหลาย ก็ บริจาคเงินให้พระ ทั้งประเทศอะนะ
    ง่ายๆพระหลวงตามหาบัว ก็ ประกาศว่า เงินหมด รอเงินมาช่วยชาติ
    ขอให้มองเจตนาที่ ลึกสุดๆๆ ของพระที่ท่านกำลังบริจาคดีกว่า
    ว่าท่านนำเงิน ส่วนนี้ไปใช้ ส่วนตัว หรือ เพื่อ ส่วนรวมอย่างแท้จริง
    ผมเองก็ไม่บริจาคเงินให้พระแบบ สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะหน้ากลัว
     
  9. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,403
    ขอกรณีตัวอย่างที่มีมาในพระไตรปิฏกด้วยครับ....หากจำไม่ผิดหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ หรือหลวงปู่ปานไม่เคยสอนเช่นนี้ ท่านสอนแต่ว่า ปัจจัยที่บุคคลบูชาสงฆ์ด้วยบริสุทธิ์ใจ ผลนั้นเต็มที่ อย่างสังฆทาน สมมุติสงฆ์ท่านรับไป ท่านเอาไปใช้องค์เดียวโดยคณะสงฆ์ไม่รับรู้หรืออนุญาตท่านก็ลงนรกองค์เดียว...ผู้ให้ยังย่อมมีผลบริบูรณ์

    ความรู้นี้หากเข้าใจไปในวงกว้างใครเล่าจะกล้าร่วมบุญต่างๆ มิต้องคอยเป็นภาระให้จิตเสื่อมไปตามดูจนถึงที่สุดดอกหรือว่าพระท่านเอาไปใช้อะไร.....นั่นมิใช่เจตนาที่แท้จริงแห่งทานที่หวังเพื่อขจัดความโลภในใจ.....

    อย่างนี้ความรู้นี้ย่อมเป็นเหตุทำลายพระพุทธศาสนาได้เช่นเดียวกัน....

    ส่วนข้างต้นนั้นถูกต้องดี ผมขออนุโมทนาด้วย แต่วรรคที่ยกมาขอให้ตรวจสอบด้วย...ธรรมที่มีทั้งถูกและผิดผสมกันนี่แหละที่จะทำให้พระศาสนามัวหมอง....

    คุยกันอย่างบัณฑิตอย่างกัลยานมิตรนะครับ ล่วงเกินอันใดโปรดงดโทษด้วย......เราก็ลูกพระตถาคตด้วยกันทั้งสิ้น ยังคงเวียนว่ายในธารธาราแห่งทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2008
  10. ธรรมวินัย

    ธรรมวินัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +40
    ผมขออนุญาติบอกเล่ม-บอกหน้า ให้ไปพิสูจน์เองนะครับ มีกรณีตัวอย่างครบ เพราะว่าแต่ละสูตร ข้อความค่อนข้างยาวเหยียดมาก นำมาโพสต์ลำบาก อ่านเองจะได้รู้ว่ามาจากพระไตรปิฏกจริง ถ้าผม Copy มาโพสต์อาจจะมีคนมองว่า ผมแต่งขึ้นมาก็ได้ครับ

    #พระไตรปิฏก ของมหามกุฏ ชุด 91 เล่ม#
    1. เรื่อง วิธีปฏิบัติในเรื่องเงินทองที่เขาถวาย เล่ม 3 หน้า 863
    2. เรื่อง ไฟนรกเผาพระภิกษุรับเงิน เล่ม 16 หน้า 302, 308
    3. เรื่อง เปรตด่าผู้ที่อุทิศบุญ หลังจากถวายเงินให้พระภิกษุ เกิดไฟเผา เล่ม 23 หน้า 409 แถวที่ 19, 29

    *แจก CD พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด 91 เล่ม (ม.ม.ร.)-PDF file*
    http://www.samyaek.com/media/viewtopic.php?t=5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2008
  11. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ...

    ข้อมูลดีครับ แต่การนำเสนอดูมันเครียด ๆ ไปสักนิดครับ
     
  12. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    สงสัยจะ Hardcore ตรงหมายเหตุสุดท้ายนี่แหละ ดูท้าทายไปนิด อิอิ
     
  13. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,403

    ได้ทดลองหาดูแล้ว แต่จนความสามารถที่จะหาอ่านได้ ผมหาได้แต่เพียง พระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม จากเว็บ http://www.84000.org/ เท่านั้น ซึ่งน่าจะมีกล่าวไว้เช่นกัน หรืออย่างไรรบกวนคุณ ธรรมวินัย หรือผู้รู้ช่วยลงข้อมูลดังกล่าวด้วย เพื่อการผมใช้เป็นคำสำคัญในการสืบค้นอีกที .....

    หรือบอกชื่อ พระสูตร ผมมาก็ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 เมษายน 2008
  14. countdown

    countdown เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +3,165
    จงจำไว้ พระสงฆ์รับเงินไม่ได้ ผู้ให้พระสงฆ์โอนบุญให้ใคร เป็นไฟไปหาเขาทันที แล้วจะให้กันอยู่หรอ... อย่างที่คุณ ธรรมวินัย โพสอยู่ แล้วทุกวันนี้เขานับถือศาสนาอะไรกัน ไม่ศึกษาดีดี ผมยึดถือพระไตรปิฏก ครับ ของพระพุทธเจ้าชัวว์ ๆ
     
  15. lex30000

    lex30000 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +30
    หมวดตัวหนังสือ เป็นข้อจำแนกโทษของศีล 227 ที่แยกโทษของการล่วงละเมิด เป็นข้อๆ มีมาในหนังสือธรรม เก่ามาก ถึงรุ่นผมสมัยบวชเป็นคนชอบอ่าน ก็ได้หยิบมาอ่าน ก็เตือนสติดี อาจจะเป็นพระอริยะสงฆ์ในยุคเก่าๆท่านจำแนกไว้และสืบทอดกันมา หลายร้อยปีหรือกว่า ก็เป็นไปได้ แต่เนื้อหาข้อความสีชมพูลงมา ดูจะเข้มขัง ตึงเครียดไปสักนิด มันไม่ได้เลวร้ายหรือร้ายแรงขนาดนั้น แค่คุณหายใจเข้าพุท ออกโธ สัก 1 วินาที ผมเชื่อว่าคุณเก็บความดีได้แระ เมื่อเราจะหาโจษหาโทษความเลวจากคนนั้นคนนี้ เมื่อไหร่คุณจะเจอคนดีจริงๆ โลกมันมีทั้งดีทั้งเลว ผสมกัน ถ้าวันนี้เราทำไม่ได้ แต่จะบังคับใครๆให้เป็นเหมือนหนังสือเล่มนึง ต้องตรงเป๋ง เปะทุกอย่าง ถ้าคุณทำได้ จะไม่มีคำถาม คำตอบในนี้เลย จริง จงมองที่ตัวเรามองกว่ามองห่างตัว มันจะเครียด คนนั้นทำไม่ถูกใจ คนนี้ทำไม่ถูกใจ นั่นแหละคือนรก ในใจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...