NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ....

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย JINTAWADEE, 11 พฤษภาคม 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    เล่าสู่กันฟัง + รายงาน การ ตรวจสอบอารมณ์ ความรู้สึก

    เมื่อข้าพเจ้าได้สวดบริกรรมข้าพเจ้าขอนอบน้อมความเจริญ ข้าพเจ้าได้เห็นดวงอาทิตย์ สว่างเย็น จำได้ว่าข้าพเจ้าเคยเห็นดวงอาทิตย์ดวงนี้มาแล้ว ข้าพเจ้ามีความดีใจมากที่ได้เห็นอีก เพราะข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าข้าพเจ้าตามดวงอาทิตย์ดวงนี้มานาน ข้าพเจ้าเห็นภาพใบไม้เจริญงอกงาม ข้าพเจ้าบริกรรมเข้าไปแม้กระทั่งความฝัน ในความฝันนั้นข้าพเจ้าก็ยังเห็นต้นไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นร่มเงา และในขณะเดียวกันก็แปลเป็น เตียงนอนอันอ่อนนุ่มให้เราได้พักผ่อน และกลายเป็นอาหารเลิศรสให้เราได้กิน และเมื่อข้าพเจ้าได้ทำขั้นตอนที่ 4 นั่นคือการระลึกถึงคุณของพระอาทิตย์ ข้าพเจ้านึกถึงภาพที่ข้าพเจ้าได้เห็นในความฝันนั้น สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าสัมผัสได้คือความรู้สึกสงบ สบายผ่อนคลายและมีความสุข มันเป็นความสุขที่ทำให้ข้าพเจ้ายิ้มได้ มันเป็นความร่าเริงเบิกบาน ที่ไม่ต้องพยายามให้เกิด และเมื่อข้าพเจ้าระลึกบ่อยๆ มันเหมือนกับมีพลังงานบางอย่างกระจายออกนอกตัวเรา เด็กตัวเล็กๆมักมองข้าพเจ้าเหมือนมีแรงดึงดูด ข้าพเจ้ามักมีแรงดึงดูดกับเด็กน้อยเสมอ หลายคนเข้ามาหาข้าพเจ้าพร้อมด้วยอัธยาศัย น้ำใจไมตรีอย่างน่าแปลกใจ บางอย่างเป็นสิ่งที่ผู้ที่เจริญแล้วควรกระทำต่อกัน ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในกฎของธรรมชาติ หรือกฎแห่งความเจริญที่ยั่งยืน เมื่อข้าพเจ้านึกถึงแต่ความเจริญ ดังนั้น ความเจริญย่อมดึงดูดสิ่งที่เจริญ

    และเมื่อข้าพเจ้าเข้าสู่ขั้นตอนที่ 6 อาจจะยังใช้เวลาไม่มาก เพราะเพิ่งเริ่มต้น เนื่องจากสุขภาพของข้าพเจ้ามิได้แข็งแรงเช่นคนอื่น ข้าพเจ้าเข้าใจว่าท่านบัณฑิตผู้เจริญย่อมจะรู้เหตุและผลดี ข้าพเจ้ารู้สึกได้ถึง การหมุนของพลังงาน หรือบางคนเรียกว่าการหมุนของจักระ แต่อย่างน้อยมันก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่าร่างกายของเราประกอบไปด้วยพลังงานที่หมุนวน

    ข้าพเจ้ามิได้มีเจตนาที่จะแปลงสารของท่านผู้นำสารแต่อย่างใด แต่ข้าพเจ้าก็เชื่อว่าการที่ คุณ 999 phudit ได้นำบทเรียนมาทิ้งไว้ให้ ก็เพื่อที่จะให้ทุกคนได้ทำความรู้ความเข้าใจด้วยตนเองโดยไม่ยึดติดกับความเชื่อ หรือตัวบุคคล หรือจากการเล่าเรียนรู้ จากการอ่านมา แต่เน้นให้พิสูจน์ ทดลองและวิเคราะห์ ด้วยตัวเอง บัณฑิตบางท่านอาจจะเข้าใจได้ว่าข้าพเจ้ากำลังพูดถึงอะไร ท่านต้องการให้เรามีความเห็นถูกก่อน โดยตัดความมีตัวมีตนออกไปเสีย

    การบริกรรมคำพูดทั้งหลาย เป็นการสร้างความเคยชินให้อารมณ์แนบแน่นกับสิ่งที่บริกรรม ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าข้าพเจ้าเข้าใจเจตนาของ คุณ 999phudit เป็นอย่างดี ว่าท่านมีความต้องการให้เรา มีอารมณ์ยึดติดแนบแน่นกับความเจริญ และความรู้สึกเบิกบานจนกลายเป็นความเคยชินและนิสัย โดยไม่ยึดติดกับตัวบุคคล หรือ ความไม่มีตัวตน เพราะความมีตัวมีตนไปที่ไหนก็ย่อมจะสร้างแต่มิติของความเสื่อม เพราะความกลัว เกิดจากการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางเสมอ

    ข้าพเจ้ากำลังพูดความจริง เพราะปัญหาทั้งหลาย
    ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม ทั้งปัญหาการแตกแยกในสังคม ระดับประเทศ และระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นสงครามศาสนา ไม่ว่าจะเป็น สงครามในศาสนาเดียวกันแต่เกิดจากความเชื่อของครูบาอาจารย์ที่นับถือแตกต่างกัน ล้วนเกิดจากการยึดมั่น ถือมั่นใน ตัวกูของกู หรือความมีตัวตน ยึดว่าเป็นของตน ทั้งสิ้น. หากเรามีความศรัทธาและความเชื่อมั่นที่ถูกต้องแล้ว เหตุใดเราจึงละเลยในแก่นแท้ของคำสอนของแต่ละศาสนานั้นเสีย

    ***พวกเราเองที่ขาดความรัก ความสามัคคีกันนั่นแหละ ที่เป็นต้นเหตุแห่งความเสื่อม และเป็นต้นเหตุของการทำลายที่แท้จริง***


    ข้าพเจ้าเข้าใจว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่อลุ้มอล่วย ให้มีการเตรียมพร้อมสำหรับพลังงานใหม่ซึ่งได้เริ่มขึ้นแล้ว ระบบจึงมีการจัดหาอุปกรณ์โปรแกรมที่จำเป็นให้ และอุปกรณ์โปรแกรมที่เป็นตัวช่วยนี้คือ D H L ที่ถูกจัดหามาอย่างทันเวลาเสมอ

    ข้อมูลของ คุณ 999phudit จึงเป็นอุปกรณ์โปรแกรมที่สำคัญในการเข้าสู่พลังงานใหม่ เมื่อเวลาผ่านไป การทำลายเพื่อสร้างใหม่จึงต้องเกิดขึ้น แต่จักรวาลก็คือจักรวาล ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ ความเจริญที่ยั่งยืนก็คือความเจริญที่ยั่งยืน ความเจริญย่อมดึงดูดความเจริญ สิ่งใดที่เป็นความเจริญอยู่แล้วย่อมคงอยู่ต่อไป เช่นเดียวกับท้องฟ้ายามเมื่อดวงตะวันฉายแสง พระจันทร์ก็ยังคงอยู่ในเงาพระอาทิตย์เสมอ

    ได้โปรดอย่าหมั่นไส้ข้าพเจ้าเลย

    ด้วยรัก T.T
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มิถุนายน 2018
  2. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
     
  3. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    เชื่อว่าเป็นจริง ความจริงจะปรากฎ
    แต่เชื่อนั่นต้องถูกต้อง และเจริญ

    หากเชื่อไม่ถูกต้องและไม่เจริญ(เสื่อม)
    ....เธอซวยแน่

    เพราะหากเธอเข้าใจหลักการดึงดูดกัน
    เธอก็จะเข้าใจ ... เปิดความเสื่อมเข้าหา
    มันก็จะมา ....

    น้ำที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนย้ายแปรเปลี่ยน
    เหมือนน้ำที่กำลังจะเน่า หรือเน่าแล้ว

    ...ความเจริญ...ที่ฉันให้คือการปล่อยให้เกิด
    ความเจริญหมุนเปลี่ยนถ่ายและปรับเปลี่ยน
    ด้วยความใผ่ในความเจริญ ด้วยคุณสมบัติของ
    ความเจริญ เองหากเธอยึดเกาะ สิ่งที่เจริญ แต่
    ไม่ปล่อย ไม่ปลดปล่อยตัวเธอเอง ยุคเวลาผ่านไป มันก็จะกลายเป็นสิ่งเน่า เหม็น ... สิ่งใดมีเสื่อม สิ่งเหล่านั้นควรละเว้น ควรปลดออก ...
    น้ำชาในถ้วยของเธอ เริ่มแรกก็ดูดี เมื่อเวลาผ่านไป ชาในถ้วยของเธอ ..ยังจะน่าทานอีกไหม

    สิ่งที่เจริญแบบยั่งยืน คือ ในความเจริญเหล่านั้นจะสืบสาน เกื้อหนุน เกื้อกูลต่อกัน

    สิ่งใดที่ ยังคงเจริญอยู่ ยังมีอยู่ และในอนาคต ไม่มีเสื่อม สิ่งนั้นคือของจริง

    สิ่งใดที่ มีอยู่ และในอนาคตจะมีเสื่อม สิ่งนั้นไม่ใช่ของจริง สิ่งนั่นไม่เจริญจริง สิ่งนั่นเมื่อนานไปจะเน่าเสีย
     
  4. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    สายพลังคู่ ...

    ในมิติแสง หรืออีกหนึ่งคือ มิติแรกเริ่มของมนุษย์

    เธอส่วนใหญ่ จะมาเป็นคู่ คือ คู่สายพลัง
    พลังจะถูกถ่ายทอดซึ่งกันและกันเป็นพลังงาน
    หล่อเลี้ยงให้ดำรง สดชื่นขึ้น ...

    มาปัจจุบัน เธอก็ยังได้รับพลังงานเหล่านั้นอยู่

    .....ที่เธอว่าอาการไม่สบาย ไม่แข็งแรง

    ....เพราะว่าเธอ ต้องแบ่งสายพลังให้กับคู่สายพลังของเธอ เพราะคู่สายพลังจำเป็นต้องใช้พลังงานเยอะขึ้น .....นี่ล่ะความเจริญที่ยั่งยืน ..เธอก็ต้องแบ่งพลังไปให้(เกื้อกูลต่อกัน) ให้แก่มนุษย์อีกตน(เรียกว่าตน เพราะไม่ใช่มนุษย์ที่บริสุทธิ์) เพราะคู่พลังของเธอกำลังป่วยอยู่ ...

    เธอหวังว่าจะเป็นอิสระ ... ยากนัก ... เพราะอดีตเริ่มต้นของมนุษย์ มาเป็นคู่ ... เริ่มต้นคู่สายพลัง ในยุคหนึ่งในมิติแสง .. ปัจจุบันคู่สายพลัง ก็ยังเชื่อมต่อกันอยู่ ... เธอจะอิสระได้อย่างไร? หากไม่ได้รับการอนุญาต ให้อิสระต่อกัน >>>>>

    คู่สายพลัง ไม่จำเป็นต้อง เป็นคู่กันตลอดไป ...

    พลังเกิดขึ้น .....แบบไหน..... ก็แบบหญิง ชายสัมผัสมือกัน รู้สึกอย่างไร ... ก็โทนนั้น

    สมัยก่อนไม่มีหญิงชาย ....มีแต่....

    เธออ่อนเพลีย แต่ไม่ได้หมายว่าไม่มีวิธีแก้ไข?

    ออ ...ช่องทางหนึ่งที่ จะส่งผลต่อเธอ หากคู่พลังของเธอ ปัจจุบัน เป็นคนบาป มาก ก็จะส่งผลต่อเธอเช่นกัน จะทำให้เธอรู้สึกไม่สบาย ..หาสาเหตุไม่เจอ .... เพราะสายพลังเชื่อมโยงหากันได้ พวกบาปมันก็จะเห็นเธอด้วย

    และเมื่อเธอชำระบาปของเธอหมด แต่คู่สายเธอไม่ได้รับการชำระบาป และยังมีบาปเพิ่มมาอีก ....บาปเหล่านั้นก็จะยังไหลมาหาเธอได้อีก ...

    การจะเป็นอิสระ ... ไม่ได้ทำได้แค่เธอคนเดียว ต้องมาเป็นคู่ ด้วย

    หากเธอเป็นหญิง สายคู่พลังของเธอก็ต้องเป็นชาย

    หากเธอเป็นชาย สายคู่พลังของเธอก็ต้องเป็นหญิง

    เธอเคยไหม อ่อนเพลีย ไม่สบายเป็นประจำ ... ทั้งๆที่ แวดล้อมของเธอก็ปกติ
     
  5. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ...............เธอหวังว่าจะเป็นอิสระ ... ยากนัก ... เพราะอดีตเริ่มต้นของมนุษย์ มาเป็นคู่ ... เริ่มต้นคู่สายพลัง ในยุคหนึ่งในมิติแสง .. ปัจจุบันคู่สายพลัง ก็ยังเชื่อมต่อกันอยู่ ... เธอจะอิสระได้อย่างไร? หากไม่ได้รับการอนุญาต ให้อิสระต่อกัน >>>>>.........

    คู่สายพลังยังคงดำเนินอยู่ต่อไป... ตราบใดที่เธอยังคงขาดความนอบน้อม ตราบที่เธอยังแสวงหาความเหนือมนุษย์อยู่ ตราบที่เธอยังคงไม่สำนึกต่อคุณของผู้มีคุณ ตราบที่เธอยังไม่สำนึกต่อธรรมชาติ ตราบที่เธอยังคงแสวงหาพลังและเห็นแก่ตัว(ไม่สร้างความดี เพื่อเกื้อกูลกันเอง)

    วิธีแก้ไข... มีพื้นฐานตามที่ฉันกล่าว ....

    และยังเหลือขั้นตอนสุดท้าย คือ การอนุญาตจาก ........ และ .........

    เธอจึงจะได้ถูกปลดออกจากสายพลังงานเก่า (สายพลังมีคู่ผสมอยู่) และได้รับพลังใหม่ ...

    ถามว่าเมื่อไหร่? ..... ก็ต้องรอสารจาก ....

    และก็ขึ้นอยู่กับเธอด้วยเช่นกัน ...

    เมื่อไหร่เหรอ? .... เมื่อพวกเธอเปลี่ยนความคิด เมื่อพวกเธอมีความเชื่อที่ถูกต้อง เมื่อพวกเธอสำนึก...(คงต้องหลายสำนึก)

    เพราะเธอยังคงอยู่ในเงามืด ...

    เพราะเธอยังเห็นแก่ตัว .... รักตัวเองมากกว่า

    เพราะเธอไม่มีใจที่ยิ่งใหญ่เพียงพอ

    เพราะใจมิดบอดเห็นแก่ตัวและความกลัว(ใจเล็กเห็นแก่ตัว จึงไม่กล้าหาญที่จะเผชิญความจริง คอยหลบแต่ในเงามืด ไม่เปิดเผยตนเอง)

    ก็จะมีแต่ผู้ที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะผ่านด่านไปได้ ที่เหลือ เมื่อหมดเวลา เพราะถูกครอบงำหมด ไม่สามารถพาตัวเองออกจากเงามืดได้ .... ก็เหมือนคอมพิวเตอร์ หมดกำลัง ...ผลคืออะไร ก็คงจะรู้กันไม่ต้องให้ฉันกล่าวซ้ำอีก
     
  6. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    เพราะขั้นตอนสุดท้าย ต้องอาศัยความเชื่อ...

    ไม่มีความเชื่อ ของที่มาของการเป็นมนุษย์ ....

    ไม่มีความเชื่อเกิดขึ้น การปฏิบัติก็จะไม่มี ....

    มีแต่ความดื้อด้าน มีแต่ความกลัว ....

    มีแต่ความระแวง ...

    เพราะ.... ติดอยู่ในวังวนของพวก อมนุษย์ อธรรม ...

    ที่แอบแฝงซ่อนเร้น และ ที่ติดตั้งอุปกรณ์ ทับซ้อนตลอด

    เมื่อเธอยังคงไม่กล้าออกจากวังวนเหล่านั้น .... เธอก็จะจม

    อยู่กับอดีตที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง .... ตาม ทบ นกย่างของอินทรา
     
  7. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    รายงานการสอบอารมณ์ระยะที่ 2

    ก่อนอื่นข้าพเจ้าขอขอบพระคุณ คุณ 999phudit เป็นอย่างมาก ในความใส่ใจ ชี้แนะแนวทางตลอดเวลา ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความเป็นส่วนนึงที่ขาดไม่ได้ของกระทู้นี้ อีกทั้งคุณ999phudit ทำให้ข้าพเจ้าคิดถึงนิทานในวัยเด็ก

    ข้าพเจ้าทำการบ้านข้อ 1 - 6 ในขณะที่ทำข้อ 6 ข้าพเจ้าก็นึกถึงข้อ 5, ในขณะที่ข้าพเจ้านึกถึงข้อ5, ข้อ 1 และข้อ 2 ก็ปรากฏตามด้วยเช่นกัน ข้าพเจ้ามิได้เห็นอะไรที่แปลกไปจากปกติ นอกเสียจากข้าพเจ้าจะได้เรียนรู้ถึงการหมุนวนของพลังงาน หรือ "ตถาคต" ตามความหมายในคลิปที่คุณสตธศร นำมาลง หรือหนทางสู่ความดี (ความเจริญ) ซึ่งมันทำให้ข้าพเจ้า คิดเองเออเองไปว่า แท้จริงแล้ว พระศาสดาไม่ได้พูดถึงตัวเอง แต่ท่านพูดถึงความเจริญ หรือความดีงามที่เป็นผู้ให้กำเนิดสรรพสิ่งต่างหาก เพียงแต่คนรุ่นหลัง ไม่ได้เข้าใจในที่มา หรือความหมายที่แท้จริง

    อีกทั้ง ข้าพเจ้ารู้สึกว่า บทเรียนนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักคำว่าการแยกสติออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนแรกที่ติดอยู่กับกาย ตรงจุดด้านหลังตรงกันข้ามกับกระเพาะอาหาร ส่วนอีกจุดหนึ่งนั้น อยู่เหนือกาย คืออยู่เหนือศีรษะขึ้นไป 1 ฝ่ามือ

    แรกๆ เพราะความไม่เคยชิน อาจจะทำให้เราจำเป็นต้องใช้สติจดจ่อ อยู่ทีละจุดก่อนสลับกันไป แต่เมื่อเราทำซ้ำซ้ำๆจนเกิดความเคยชิน ก็สามารถทำให้เราจดจ่อได้ 2 จุดพร้อมกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นที่คุณ 999 ไม่ให้เพ่งเหมือนกสิณ คงเพราะต้องการให้เกิดอารมณ์สบายไม่หนักจนเกินไป เพราะถ้าหนักอาจจะทำให้เครียด และหงุดหงิด ก็เป็นได้ แต่ข้าพเจ้าพอทำได้อารมณ์สบายแล้ว ก็โล่งดี

    ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน เมื่อได้ลองปฏิบัติตามดูแล้ว จะเห็นได้ว่า สิ่งที่ท่าน 999phudit ได้นำมาให้ปฏิบัติ เป็นกุศโลบายของการฝึกเป็นผู้ดูอย่างมีสติ อันนี้จะใช่หรือไม่ใช่ คงจะต้องให้คุณ 999phudit ได้เข้ามาแนะนำต่อไป

    ข้าพเจ้าเชื่อว่า นี่คือหนทางสู่ความรัก ความดีงามและ ความเจริญ และท่านกำลังสอนวิธีนอบน้อม และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องให้กับเราทุกคน ข้าพเจ้าเชื่อว่า บัณฑิตทั้งหลาย เมื่อเห็นวิธีปฏิบัติจะเข้าใจได้ว่าข้าพเจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใด

    ด้วยรัก

    ป.ล. ท่านอาจารย์เจ้าขา ลูกศิษย์คนนี้เป็นคนธรรมดาสามัญ จึงไม่เห็นอะไรเลยเจ้าค่ะ นอกจากการได้ทำ (Long do) ^o^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2018
  8. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ตำรา ไร้ตำรา.....กลยุทธ์ ไร้กลยุทธ์.....ขอบเขต ไร้ขอบเขต.....สูงสุดคืนสู่สามัญ
    ตำรา ไร้กลยุทธ์ ไร้ขอบเขต
    กลยุทธ ไร้ขอบเขต ไร้ตำรา
    ขอบเขต ไร้ตำรา ไร้กลยุทธ
    สูงสุดคืนสู่สามัญ

    แค่เอาคำมาเล่น แค่เล่นคำ เอาแค่ขำๆ หัวจิต จิตใจ จะได้เบิกบาน
    ยิ้มไว้ โลกสดใสสดชื่น
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
     
  10. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    รายงานการสอบอารมณ์ ครั้งที่ 3

    ทำขั้นตอนที่ 6 วันนี้ ช่วงแรกรู้สึกถึงอาการหมุนวนทั้งที่เหนือศีรษะ และกลางหลัง ผ่านไปได้สักพักรู้สึกเย็นวาบที่กลางหลัง ลงไปข้างล่าง ผ่านไปได้สักพัก เหมือนจิตจะรวมไม่รู้สึกถึงอาการหมุนวนแล้ว. รู้สึกพลังงานความร้อนไหลลงสู่ปลายเท้า แล้วก็ลืมตาก่อนค่ะ @^^ พักก่อน ค่อยทำใหม่
     
  11. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ไม่ได้บอกว่าจะให้เห็นอะไร ... ให้รู้สึก ... ให้ทำ .... และให้รู้สึก
    เพราะ ตัวตนแท้ ไม่มีตา ที่จะให้เห็นเป็นรูปภาพ ...มีแต่ความรู้ และรู้สึก

    เธอปรารถนา จะพบอริยสัจ 4 ใช่มั๊ย .... ฉันก็ให้เธอได้เห็น

    ก็กำลังเปิดมิติเวลาย้อนยุคสมัย ไปหาเหตุ เหตุที่ทำให้เธอไปแก้ไข...

    ยุคสมัยผ่านมามี มากกว่า 5 ยุค ...

    แต่ละยุค ก็หลายชาติ นั้นก็แล้วแต่เธอ

    ใครย้อน.... ตัวตนแท้ของเธอ ....

    ตัวตนแท้ ... ก็เป็นทั้งรูป อรูป ก็แบบ ก้อนกลม ๆ คล้ายดวงอาทิตย์

    ไม่ใช่เป็นรูปร่างคนดอก ....

    จะให้เป็นรูปร่างคน ก็ต้องผ่านหน่วยกำเนิดรูปร่าง

    ไปดู อวตาร ...ก็น่าจะเข้าใจ ... ร่างที่มีแค่สมมติร่าง ... จะเลือกโปรแกรม

    แบบไหนก็แล้วแต่จะเลือก(มีให้เลือกแค่ไหนก็แค่นั้น)
     
  12. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ย้อนทำไม .... เพื่อ ทำลายสลาย ต้นเหตุ และ ที่ส่งผล ทำให้เธอห่างไกลจากธรรมชาติ ห่างไกลจากการเป็นมนุษย์(ที่ประเสริฐ=อริย)
     
  13. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ไปล่ะ .... ความดีกับความเจริญ ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน

    เพราะ

    ความดี เป็นเหตุ

    ความเจริญ เป็นผล

    ความดีเป็นทรัพยากร

    ความเจริญ เป็นผลลัพธ์

    ไปดูวงจรของระบบ เริ่มที่ ทรัพยากร Input
    จนเกิดผลและผลลัพธ์สุดท้าย .. Output และ Outcome และตามไปดู Ultimate Outcome

    การจะเกิดผลดี มาจาก ทรัพยากรดี แต่ก็ต้องมี Process

    ทรัพยากรไม่ดี แม้ว่า Process ดีเพียงใด ผลที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ดี เต็ม 100
    เผลอๆ จะใช้การไม่ได้ด้วย ....ผลผลิตแบบนี้ คือ จำหน่าย ...หรือไม่ก็เอาไปรีไซเคิล .. คือ หลอมและเอาไปใช้อย่างอื่น

    ความดี มีอะไรเป็นพื้นฐาน .... เธอรู้ไหม ....

    นี่ล่ะน่า...คิดเองเออเองจริงๆ

    เข้าใจผิด ... ฉันก็หงายให้ เปิดให้

    ปลูกต้นมะม่วง ... ให้ได้ผลดี เธอต้องทำไง?

    ปลูกต้นมะม่วง.... แล้วเธอจะให้ดินที่ปลูก เป็นอาหารให้ ... งอมืองอเท้า ให้คนอื่นมาทำให้โตออกผล ... เด็กน้อยปัญญาอ่อน มากที่คิดแบบนี้ ....สำหรับเธอจะทำอย่างไร .... หากเกิดปลูกในดินไม่ดี เธอจะทำไง .... รอสวรรค์มาโปรด งั้นเหรอ?

    อะไรคือ เหตุ

    อะไรคือ กระบวนการ

    อะไรคือ ผล

    เธอเรียนรู้อะไรบ้าง จากการปลูกต้นมะม่วง

    นั่งรอสวรรค์วิมาน ....ใช่ไหม? (เพราะบางคนจะคิดว่า ธรรมชาติ ย่อมมีอะไรดี ... เข้าใจธรรมชาติยังไม่ถูกต้อง แถมยังงอมืองอเท้า ให้สวรรค์มาโปรด .... คิดว่าเดี๋ยวก็ดีเอง ....ตนยังไม่ขยับจะให้ตนเองดีขึ้นเลย ....แล้วธรรมชาติจริงแท้จะทำงานได้อย่างไร? ..... คอมพิวเตอร์ จะทำงานอย่างไร? จะแสดงผลลัพธ์ได้อย่างไร เพราะคนพิมพ์ คนออกคำสั่ง มันยังนั่งฝัน สติแตก อยู่เฉยๆ อยู่เลย เพราะมัวแต่พร่ำความรู้ที่ฉันมี ที่ฉันรู้ แต่ขาดการปฏิบัติที่ถูกทาง ....รอแต่สวรรค์ รอศรีอริยมาโปรด .....ฝันไปเถอะ .... ไม่มีทายาท พุทธะ หรือ ศรีอริย มากำเนิดหรอก ลมๆ แล้งๆ กับตำนานที่พิสูจน์ไม่ได้ และตนเองก็ไม่มีปัญญาจะพิสูจน์ ..... นั่งรอกันไปเถอะ เวลาผ่านไป เดี๋ยวเธอก็จะเน่าเอง ....อย่างไร ความคิดจะเห็นผิดมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสะสมบาปมากขึ้นเรื่อยๆ )

    หรือจะนั่งรอสวรรค์วิมาร

    ได้มะม่วงแล้วไงต่อ .....เธอรู้มั๊ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  14. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    วันนี้เอาเพลงเพราะมาฝาก

    Little Mermaid เป็นนิทานที่ข้าพเจ้าไม่ชอบตอนจบนัก นิทานที่ข้าพเจ้าอ่านเป็นเวอร์ชั่นเดิมๆ ที่ตอนจบเงือกน้อยต้องกลายเป็นเพียงฟองน้ำในทะเล เพราะเงือกน้อยไม่เชื่อฟังบิดา และนางก็ตกหลุมรักเจ้าชาย นางเลือกการเสียสละ และหัวใจรัก บางคนก็บอกว่าเงือกน้อยแสนจะโง่ จะมีใครรู้บ้างว่าทุกย่างก้าวของนาง คือ ความเจ็บปวด เผื่อได้ใกล้ชิดกับบุคคลอันเป็นที่รัก แต่สุดท้ายเจ้าชายก็ติดปีกบินกลับไป เงือกน้อยถูกทำลายกลายเป็นฟองคลื่น.

    ปล. แต่เวอร์ชั่นใหม่ Little mermaid สมหวังนี่นา^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  15. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ให้เธอปิด..สายพลังคู่ ... ที่เชื่อมต่อเธอก่อน ...
    แล้วค่อยมาดูกัน หลังปิดแล้ว .. เธอจะเป็นไง?
     
  16. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    รายงานการสอบอารมณ์ครั้งที่ 4

    เริ่มต้นจากข้อ 1, 2, 3, 4-5, 6, เมื่อถึงข้อที่ 6 แยกสติออกมาอีกหนึ่ง เป็นสามจุด คือ
    - 1. เหนือศีรษะ 1 ฝ่ามือ
    - 2. สันหลังตรงกันข้ามกะเพาะอาหาร
    - 3. บริกรรมขอนอบน้อมความเจริญ 30 จบ

    อันนี้ข้าพเจ้าก็ไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือเปล่า และต้องใช้ความพยายามในการจำให้ได้อย่างยิ่งว่าท่องครบ 30 จบหรือยัง^^ เมื่อคิดว่าครบแล้วจึงขอพร.... แล้วกำหนดตรงจุดตรงข้ามสะดืออีก 5 นาที แบบเผินๆ ช่วงนี้สังเกตความรู้สึก ก็รู้สึกว่า โล่ง โปร่ง และเบาสบายกว่าเดิม มีคำถามเมื่อครบ 5 นาทีแล้วให้นั่งแบบไหนต่อไป หรือทำแค่ข้อ 6 อย่างเดียวคะ

    จริงๆแล้วข้าพเจ้าอยากจะบอกว่า ข้าพเจ้ารู้สึกว่า โล่งกว่าเดิมตั้งแต่เริ่มต้นฝึกบริกรรมตั้งแต่แรกแล้ว

    ในขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าค้นพบอริยสัจ 4 ในทุกข้อความของคุณ 999phudit ผลลัพท์ทุกอย่างมาจากเหตุ

    Outcome มาจาก input เราใส่อะไรไปเราก็ได้อย่างนั้น. ดังนั้นสิ่งที่ใส่ คือทรัพยากร หรือโปรแกรม จึงต้องคัดสรรแต่สิ่งที่ดี เพราะทุกอย่างมันมาเป็นคู่ มันมีทั้งดีและไม่ดี เราจึงจำเป็นต้องคิด นำแต่สิ่งดีๆใส่เข้าไป ดังนั้นคุณ999phudit จึงแนะนำให้เราใส่ความเจริญด้วยการนอบน้อม และมันจะส่งผลต่อเราเอง และภาพรวมที่ยิ่งใหญ่กว่า

    ป.ล. ได้ลูกมะม่วง ต้องชิมรสชาติก่อนค่ะ เพราะรสชาติ จะบ่งบอกถึง กระบวนการปลูกหรือ process ได้เป็นอย่างดี หากผิดพลาดประการใด ได้โปรดแก้ไข ด้วยค่ะ

    ด้วยรัก และเคารพ^^
     
  17. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ทำที่...ตรงแนวสะดือ....แต่สำหรับคนที่ได้รับพรเท่านั้น ...เพราะ หากไม่ปิด "สายพลังคู่" ....เธอจะรับภาระบาปของคู่พลังของเธอด้วย ซวยหนักกว่าเดิม...

    ผ่านมาพอควร...เธอชื่นชมสรรเสริญดวงอาทิตย์...เคยไปตากสัมผัสแดดบ้างหรือยัง?...แสงดวงอาทิตย์มีคุณการทำลายด้วย...ตากแล้วรู้สึกอย่างไร..5-7 นาที ...บริกรรมในร่ม บริกรรมในแสงแดดต่างกันไหม...เปิดสัมผัสดูให้ชัดขึ้นอีก...ความชั่วร้ายย่อมกลัวแสงอาทิตย์...ลมหายใจโล่งขึ้นกว่าเดิมไหมเธอก็สังเกตุเอาเอง!!

    ออ...ปิดสายพลังคู่...แล้ว อาการสุขภาพแย่ ที่เธอเป็น เป็นอย่างไร?
     
  18. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ตอนเด้กๆหนูชอบมองดวงอาทิตย์มาก รู้สดชื่นมาก เท่าที่จำได้ แต่บางคร้งก้มากไปจนเหมือนตัวจาแตก 55 จำได้ว่าก็มีคนบอกว่าห้ามมอง แต่ก็ ทำใมหล่ะ? ทุกคนมีเหตุผล แล้วเหตุผลนั้นได้รับการพิสูจหรือไม่ ก็ไม่มี ง้นถ้าเราอยากทำอไร เราก็ลองทำดู พระท่านหนึ่งเคยสอนหนุว่า นักปฏิบติไม่กลัวการ ปฏิบติ ขอแค่เรากล้ารับผลที่ตามมา หากเราเลือกจะทำมัน หนูมองขึ้นไป เพรารู้สึกรัก
    ดวงอาทิตย์อย่างจริงใจ และไม่ได้คาดหวังว่าอะไรจะเป้นผลที่ตามมา สําหรับหนูนะ พระโลกุตร ตถาคต องค์ภควาน ความรัก ทุกๆอย่างมีสำเนียง รอยต่อที่ตถาคตบอก พี่ๆคิดว่าคืออะไร? หนูไม่ได้มีความกล้าอะไรเลย แต่หนูมีความรัก และความรักทำให้หนูยืน อยู่ในที่ที่มีอันตราย สําหรับผู้อื่น เพราพวกเขาทำพลาดไปก่อนน้น ฉะน้นในวิถีไหม่ สำเร็จหรือไม่ ทำตามหัวใจ แลสติ ตถาคต อยู่ในทุกสิ่ง เหมือนที่หนูรู้สึกว่า คริชณะ อยู่ในทุกสิ่งหรือไม่ หนูคิดว่า ภายในสถานที่ที่เป้นปัจจุบันที่สุด สถานที่ ที่อยุ่กึ่งกลางของสิ่งท้งหมดที่สุด จะมีคำตอบให้เราเอง นึกถึงเรื่อง
    จุดตัดแกน x

    ขอสมาภัย
    ด้วยรักและคิดถึง น้องศร

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2018
  19. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สวัสดีค่ะ ^^ ท่านบัณฑิต ผู้เจริญ. ข้าพเจ้ามีคำถามเพิ่มเติมค่ะ

    การทำสมาธิต่อไป ให้เริ่มที่การนอบน้อม 30 จบ อย่างเดียว โดยไม่ต้องทำ 1-6 ถูกต้องไหมคะ เพราะในการนอบน้อมมี 1-6 อยู่แล้ว ใช่ไหมคะ

    ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2018
  20. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    คิดถึงหนุมาน ตอนบอกว่า มีแต่พระรามอยู่ทุกที่ในตัว แล้วก็แหกอกให้ดู เพื่อเป็นการพิสูจน์ ว่ามี พระราม และ สีดาในนั้น เพราะ คนอื่นไม่เชื่อและคิดว่าหนุมานทำในสิ่งที่ไม่สมควรทำ

    คนอื่นอาจจะกลัว ใน process
    แม้แต่ตัวข้าพเจ้าเองก็มีความคิดเช่นกัน แต่ไม่ได้กลัวว่าตัวเองจะต้องไปรับบาปเพิ่ม หรือว่าจะต้องไปปันพลังชีวิตให้กับคู่สายที่เจ็บป่วยจนทำให้เราต้องอ่อนแรงลงไป ข้าพเจ้ากลัวแต่ว่า "ตัวเราเองนั่นแหละ จะไปเป็นภาระให้กับคู่สายเขาในการต้องปันพลังชีวิตมาให้เรา กลัวว่าเราต่างหากที่จะเอาภาระไปเพิ่มให้เขา" ฉะนั้นจึงไม่รีรอ หรือคิดมากนักที่จะปฏิบัติปิดคู่สายพลัง ตามที่แนะนำมา เพราะมีความเชื่อมั่น และศรัทธาในคำว่าความเจริญที่ยั่งยืน เรามีความศรัทธาในความเจริญที่ยั่งยืนที่แท้จริง ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรก็ย่อมเป็นความเจริญที่ยั่งยืนอยู่ดี

    input เป็นเช่นไร outcome ต้องเป็นเช่นนั้น

    บางครั้งในการเรียนรู้อะไรก็ตาม เราจำเป็นจะต้องปลดอุปกรณ์ และตัวช่วยทั้งหลายออกไปซะให้หมดก่อน แล้วเริ่มต้นเดินใหม่แบบคนปกติธรรมดาเขาทำกัน บางครั้งไอ้อุปกรณ์และตัวช่วยนี่แหละที่ทำให้เราไม่สามารถเดินต่อไปได้ เพราะหนทางตรงนั้นมันขรุขระ และมันแคบเกินกว่าที่อุปกรณ์เหล่านั้น จะนำพาเราเข้าถึงได้ อีกทั้งยังรกรุงรังไม่เรียบง่าย แต่วิถีของความเป็นธรรมดาสามัญกลับช่วยให้เราเดินข้ามไปได้อย่างสะดวกสบายมากกว่า

    สำหรับท่านอื่นๆ วิถีแห่งความฝัน อาจดูเป็นสิ่งที่ไร้สาระสำหรับนักปฏิบัติธรรมทั้งหลาย แต่สำหรับตัวข้าพเจ้านั้น วิถีแห่งความฝัน เป็นธรรมชาติของการเรียนและการสอนอย่างมาก วิถีแห่งความฝัน หากพินิจพิเคราะห์บางช่วงตอน จะบ่งบอกถึงปัญหาและวิธีการแก้ปัญหาได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นแนวทางที่เป็นธรรมชาติ

    บางทีข้าพเจ้าก็เกิดความสงสัยว่า "ข้าพเจ้าขอนอบน้อมต่อผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน" คือความหมายเดียวกับ "ข้าพเจ้าขอนอบน้อมความเจริญที่ยั่งยืน" ใช่หรือไม่ เพราะอาทิตย์ดวงนั้น เป็นภาวะที่ปราศจากร่างกาย เป็นภาวะของความรู้ที่คมชัด ซึ่งหมายถึงการตื่นจากอวิชชา และความรู้สึกร่าเริงเบิกบาน และข้าพเจ้าก็จำได้ว่าคุณ 999phudit ก็ได้เคยสอน และแนะนำไว้

    อริยสัจ 4 ในอดีตกาลก็มีความกล่าวถึง outcome (ทุกข์) แล้วจบลงด้วย input (มรรค)

    ในขณะเดียวกันที่ข้าพเจ้ายืนอยู่จุดกึ่งกลางของปัจจุบัน ระหว่างอดีตและอนาคต ระหว่างของ 2 สิ่ง

    ข้าพเจ้ามองเห็นคุณ 999phudit กล่าวถึง outcome คือความเจริญที่ยั่งยืน และ input คือสิ่งที่สมควรทำ ในการเป็นมนุษย์

    มันเหมือนกับการปลูกมะม่วงให้ได้ผล มีการกล่าวถึงกระบวนการ ( process) ที่ปลูกมะม่วงอย่างไรจึงได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี และมีการกล่าวถึงกระบวนการ (process) ที่ปลูกมะม่วงอย่างไรให้ได้ผลดี

    ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่ามันเหมือนกันเพียงแต่มันสอนมาจากคนละด้านเหมือน 1 กับ 9

    ในขณะเดียวกัน ความเสื่อมเกิดจากขั้นตอนที่ผ่านการตัดตกแต่งมากจนเกินไป หรือ มีอุปกรณ์เสริมมากจนเกินความจำเป็น และไม่เป็นธรรมชาติ หรือไม่สร้างความเจริญที่ยั่งยืน เช่นสารเร่งดอก เร่งผล จนทำให้ดินเสื่อมในที่สุด

    69 สลับที่ทำงาน ก็แค่มองมาจากคนละมุม เพียงแต่เราต้องมองความจริงที่เป็นแก่น ว่าทั้งหมดทั้งมวลเขาพูดถึงอะไร และความหมายที่แท้จริงของธรรม และชาติ นั้นคืออะไร

    ยอมรับ ปรับปรุงแก้ไข ทุกอย่างทำได้ที่จุดตัด แกน X ในปัจจุบัน


    ทุกวันนี้ข้าพเจ้ากราบ 3 ครั้ง
    กราบที่หนึ่งข้าพเจ้านอบน้อมต่อความเจริญที่ยั่งยืน

    กราบที่ 2 ข้าพเจ้านึกถึงบุญคุณผู้ให้กำเนิด และเลี้ยงดูข้าพเจ้า

    กราบที่ 3 ครูบาอาจารย์ ที่สอนให้มีการปฏิบัติ

    ด้วยรัก

    ป.ล. ไม่รู้ว่าผิดหรือไม่ เพราะข้าพเจ้าทำจากใจ และความรู้สึก ด่าได้ หนูสำนึกแล้วค่ะ ^^
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2018
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...