NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ....

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย JINTAWADEE, 11 พฤษภาคม 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    Screenshot_20180521-101440.png
    ข้อความเก่าจากกระทู้ New Age (เปิดโดย Little Duck) หน้า 107 จาก หนุมาน ผู้นำสาร

    *** โลก ****


    โลก มีอายุยาวนานกว่าที่คิดมาก
    โลก พัฒนาเกิดอารยธรรมและล่มสลายเป็นยุคๆ

    โลก ดำรงอยู่บน "หลักสัจจะธรรม"
    คือ ผลการกระทำไม่สูญสลาย เป็นตัวกระทำที่ติดไปกับผู้กระทำ
    และมีผลย้อนกลับมาตอบแทน

    ทุกสิ่งที่เกิดมา จึงต้องอยู่บนสัจจะธรรม
    เมื่อเกิดเป็น มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ ล้วนมีจิตวิญญาณ

    เมื่อตายไป แต่กิเลสนิสัยยังไม่หมดสิ้นจากจิตใจ
    ผลการกระทำ คือตัวกระทำ จึงจัดสรรให้มาเกิดเป็นสังขารใหม่

    ศาสนศาสตร์ แก่นสารของศาสนามีหนึ่งเดียว
    คือใช้ความจริง เป็นการเรียนรู้ "หลักสัจจะธรรม"
    หลักในธรรมชาติ ที่เที่ยงแท้แน่นอน

    การตั้งใจทำความดี ตั้งใจลดกิเลสนิสัย
    จึงมีผลให้เกิดการกระทำใหม่ในชีวิตของตนเอง
    และ เกิดเป็นตัวกระทำที่ไม่สูญสลาย ติดตัวตลอดไปกับจิตวิญญาณของผู้กระทำ

    มนุษย์ สามารถพิจารณาได้ จึงเลือกทำดีทำชั่วได้
    มนุษย์ ต่างจากสัตว์และต้นไม้ ที่ต้องชดใช้รับผลกรรมด้วยสังขารและสันดาน
    มนุษย์เท่านั้น จึงมีโอกาสหลุดพ้นจากการเกิดใหม่ได้ ด้วยการกระทำของตนเอง

    ศาสนาที่นำพาให้สัตว์หลุดพ้น จะคอยสอนให้ฝึกฝนจิตใจตนเอง ให้ลดกิเลสนิสัยด้วยสัจจะ
    คือ สัญญาใจตนเองว่าจะทำสิ่งที่ดี ในช่วงกำหนดเวลาที่ชัดเจน

    มนุษย์ ผู้ที่ทำได้จริง ตามสัญญาใจตนเอง
    จึงเป็น ผู้มีศักยภาพเหนือมนุษย์และสัตว์ทั่วไป
    เพราะ มีตัวกระทำที่คอยช่วยเหลือ บอกเตือนตนเองให้ทำสิ่งที่ควรทำ ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
    จึงเกิดเป็นปฏิหาริย์ รอดพ้นจากผลการกระทำในอดีตได้ ในวันที่กรรมปรากฏ

    สิ่งที่กล่าวมา คือเรื่องราวของโลกุตตระธรรม
    เป็นธรรมเหนือโลก เพื่อนำพาให้สัตว์หลุดพ้นจากความทุกข์ จากการเกิดใหม่

    โลกุตตระ คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นำพาให้มนุษย์ผู้จะทำหน้าที่ศาสดาทุกยุค
    ได้พบหลักสัจจะธรรม และพบสัจจะเป็นคำสั่งสอน

    ฉะนั้น การสิ้นยุคแต่ละครั้ง คือ การสิ้นยุคอารยธรรมที่เต็มไปด้วยกิเลสนิสัยที่สะสมกันมานาน
    มีผลการกระทำไม่ดีมาก จึงเกิดการปรับตัวของธรรมชาติ คือ โลก ดินฟ้าอากาศ
    เพื่อคัดสรรให้เหลือเพียงผู้ที่มีผลการกระทำความดีติดตัว
    เป็นการคัดเลือกผู้ที่มีความเชื่อตามหลักสัจจะธรรม คนเห็นประโยชน์ของสัจจะ
    ให้เข้าสู่ยุคต่อไปที่อุดมสมบูรณ์ หลังการปรับตัวของโลกเรียบร้อยแล้ว

    โลกจึงหมุนเวียนสับเปลี่ยนเป็นยุคๆ มาแสนนาน
    สำหรับผู้ที่มีความคิดขัดกับหลักสัจจะธรรม ไม่มีความเมตตา โหดร้าย
    จิตวิญญาณจะถูกส่งไปอยู่ใต้โลกที่มืดมิด ไม่เห็นแสงเดือน แสงตะวัน ไปนานแสนนาน
    จนกว่าโลกจะเปลี่ยนยุค เปลือกโลกปรับตัวครั้งใหญ่ในครั้งต่อไป
    จึงจะมีโอกาสได้ผุดขึ้นมาเกิดใหม่เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ ในสังขารใหม่เป็นมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้อีกครั้ง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้อความเก่าจากกระทู้ New Age (เปิดโดย Little Duck) หน้า 148 จาก Little mermaid

    มี คำสั้น ๆ ที่จะบอกกล่าวไว้ให้ไปพิจารณาดูกันเอง ปัญญาของมนุษย์นั้นเปรียบเสมือนดอกบัว คราเมื่อจะบานต้องได้รับส่วนผสมของน้ำของดินของแสงอาทิตย์ ตามกำลังอันสมควร เมื่อส่วนผสมเหล่านี้ เป็นปัจจัยที่เอื้อในความเจริญงอกงามได้ส่วนสมดุลกันดีแล้ว ความปรารถนาของบัวนั้นที่จะพุ่งขึ้นโผล่พ้นน้ำ บัวเหล่าใดกอใดก็ตามขาดแรงปรารถนาที่จะพ้นจากน้ำขึ้นสู่เบื้องบน บัวเหล่านั้นกอนั้นก็ไม่สามารถโผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้ ด้วยความคิดที่มีอยู่เพียงสิ่งที่มองเห็น คือผิวน้ำพื้นน้ำที่ตนอาศัยอยู่ คิดว่ากว้างใหญ่แล้ว ดีแล้ว เหมาะสมแล้ว สะอาดแล้ว ไม่มีแรงที่จะพุ่งตัวเองขึ้นให้พ้นจากนี้ บัวเหล่านั้นกอนั้น แม้จะได้ส่วนผสมของธรรมชาติที่สมดุลแล้ว ก็ไม่สามารถขึ้นพ้นน้ำได้ ด้วยเหตุฉะนี้นั่นเอง เปรียบเสมือนมนุษย์ เมื่อใดที่มนุษย์ปรารถนาที่จะพบเห็นความจริงที่ตนไม่เคยได้รับรู้มาก่อน ปรารถนาที่จะพิสูจน์ธรรมชาติที่แท้จริง มนุษย์ก็มีแรงผลักดันให้กระทำในสิ่งที่ถูกที่สมควร ปฏิบัติธรรมในทางอันเป็นเส้นทางของการหลุดพ้น เสมือนดอกบัวที่มีแรงพุ่งตัวเองขึ้นพ้นผิวน้ำ มนุษย์อีกบางพวกก็เหมือนบัวที่จมอยู่ใต้น้ำ มองเห็นสภาพปัจจุบันคือ สิ่งที่ถูกแล้วเพียงพอแล้ว ก็รังแต่จะตกตมอยู่ในโลกของมนุษย์ต่อไป หากเผลอพลั้งพลาดคราใด ประมาทในการใช้ชีวิตเมื่อใดก็หลุดล่วงไปจากภพภูมิของมนุษย์เมื่อนั้น ความสุขที่แท้จริงไม่มีที่ไหนหรอก นอกจากดินแดนแห่งความสงบสุขสูงสุด นั่นคือ ภาวะโมกษะ การกลับคืนสู่แหล่งกำเนิดของพลังอันบริสุทธิ์ หรือพระเป็นเจ้าเป็นผู้ก่อเกิดธรรมชาติ ณ พลังสูงสุดย่อมพ้นจากการเกิด - ดับหรืออย่างเช่น ในศาสนาของพุทธเรียกว่า นิพพานนั่นเอง ก่อนอื่นใดมนุษย์ผู้ก้าวเดินสู่เส้นทางอันประเสริฐ จะต้องมีความรู้ความคิดที่ถูกต้องเรียกว่า ระลึกชอบ มีสายตาที่รู้จักมองในความเป็นจริงตามสมควร แม้จะได้ดวงตาเห็นธรรม หรือยังไม่ได้ดวงตาเห็นธรรมก็ตาม หากผู้ใดปราศจากความระลึกชอบแล้ว ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากบ่วงนี้ได้ข้อคิดเล็กน้อยเพียงเท่านี้ขอประทานให้ มนุษย์ หรือผู้ที่สูงกว่ามนุษย์กลับไปพิจารณามองดูตนกันต่อไป ก่อนที่จะมองผู้อื่นก็มองตนเองก่อน ผู้ที่มองตนเองเห็น ระลึกรู้ดีของตน ระลึกรู้ชั่วของตน ระลึกรู้ความแข็งของตน ระลึกความรู้อ่อนของตน ผู้นั้นเรียกว่า ได้สติ ผู้ใดมองเห็นทางถูกต้องในการปฏิบัติ ผู้นั้นเรียกว่า มีความระลึกชอบ ใช้โอม.. อย่างนี้เป็นเสมือนพาหนะที่จะนำไปสู่มรรคาที่ประเสริฐ ขอฝากเอาไว้เพียงเท่านี้ โอม..
     
  3. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้อความเก่าจากกระทู้ New Age (เปิดโดยกัสสป
    le Duck) หน้า 107 จาก Little duck


    *** ดวงดาวแจ่มจำรัส ****

    [​IMG]

    หนุมาน ผู้นำสาร

    Gaspar
    กัสสป


    Little mermaid

    จิตวิญญาณจะเป็นอิสระ (โบกบินดั่ง "นก")

    22-07-2011 = 22/7/2554 = 22+7+2+5+5+4 = 45 = DE = DATA ENERGY
    10:49 = 10+49 = 59 = EI = ENERGY INTELLEGENCE
    #2150 = 21+50 = 71 = GA = GRAND AVAILABLE


    Gaspar = 7+1+19+16+1+18 = 62 = FB = FREE BIRD
    62 = 8 = HUMANITY


    FREE = 6+18+5+5 = 34 =CD = CONECTING DATA
    BIRD = 2+9+18+4 =33 = CC = CONCERN
    34+33 = 67 = FUNCTION GRAND
    67 = 13 = AC = AIR CONDITION


    เมื่อดูความหมายของ Gaspar = 62 = FB= FREE BIRD อันหมายถึง จิตวิญญาณจะเป็นอิสระ โบยบินดังนก และยังหมายถึง มนุษยชาติ หากดูความหมายตามลำดัีบ FREE = 6+18+5+5 = 34 = CD =CONECTING DATA และ BIRD = 2+9+18+4 = 33 = CC = CONCERN

    เมื่อนำความหมายของ FREE BIRD มารวมกัน จึงแปลความหมายได้ว่า การเชื่อมต่อข้อมูลมายังผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยการนำสิ่งที่มนุษยชาติพึงปฏิบัติคือGRAND มาเป็นรูปแบบอันหมายถึง การปรับสภาพของมนุษยชาติ อันเหมือนเครื่องปรับอากาศ


    จะเห็นได้ว่าหมายเลขกระทู้ และ ข้อมูลอ้างอิงของ คุณ Little Mermaid ซึ่งโพสต์ข้อความมาเมื่้อวันเปิดกระทู้แล้วซึ่งมีความหมายสนับสนุน ข้อมูลของคุณหนุมาน ซึ่งต่างเป็นผู้ถือกุญแจสำคัญพลังงานใหม่

    ระดับพลังงานใหม่ โปรดสังเกตุวันที่ เวลา และหมายเลขกระทู้ของคุณหนุมาน จะเห็นได้ว่า วันที่ 22 = VICTORY , 7 = GRAND , 2554 = PLUS ซึ่งยืนยันและสนับสนุนกันอย่างเห็นได้ชัด

    NEW ! NEW AGE พลังงานใหม่


    Little duck
     
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    Screenshot_20180522-214553.png
    ชั่วขณะเดียว

    COLORS = สีหลายสี
    เมื่อนำทุกสีมารวมกันจะได้สีอะไร ?
    C = CHANGE
    O = OF
    L = LIVE
    O = OF
    R = RULE

    หากต้องการเปลี่ยนชีวิตก็ต้องเปลี่ยนกฎ หรือ ความเชื่อ
    ดังนั้น เมื่อเติม S จึงหมายถึงความหลากหลาย

    LOVE U

    LD411

    ข้าพเจ้าขอนำเอาข้อมูลเมื่อปี 2010 ที่ข้ามไปมาลงไว้ก่อน


    BALANCE. FORWARD
     
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สวัสดีทุกท่าน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกยินดีทุกครั้งที่เห็น 999phudit เข้ามาให้ความรู้ในกระทู้นี้ มันเป็นความรู้สึกของการที่เราได้เติมเต็ม.... ช่องว่างที่ขาดหายไป มันเป็นช่วงเวลาสำหรับผู้ที่มีความรู้อย่างแท้จริงมาทำงานสานต่อในส่วนที่ขาดหาย และสานสายสัมพันธ์ของธรรมชาติภายในช่องว่างทั้งหลาย ดังนั้นกระทู้นี้จึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่คุณ 999phudit จะได้มาทำหน้าที่ในการให้ความรู้อันเป็นสัจจะ ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่า มีอีกหลายท่านที่สนใจใฝ่รู้ และรอคอยข้อมูลในส่วนที่ขาดหายไปนี้อีกมาก เพราะถ้าหากความเชื่อที่เรายึดมั่นถือมั่นในปัจจุบันมันถูกต้องแล้ว เหตุใดความขัดแย้งจึงยังมีอยู่ในวงกว้าง

    ในขณะเดียวกัน ข้าพเจ้าก็อยากจะเรียนเชิญ หนุมาน ผู้นำสาร (๑๑๑)และผู้รู้ท่านอื่นมาให้ความรู้อันเป็นสัจจะในกระทู้นี้เช่นกัน

    สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ทุกท่าน คือครู

    ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า ความระลึกและกตเวที ต่อผู้ให้กำเนิด ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดเป็นสิ่งที่สมควรกระทำ ดังเช่นที่คุณ 999phudit ได้กล่าวไว้ ไม่ว่าจะเป็นบิดามารดาในมิติใดๆ ไม่ว่าจะเป็นครูในระดับใดๆก็ตาม ล้วนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระคุณ ที่เราควรจะแสดงกตเวทิตาเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ผู้ให้กำเนิด และครูบาอาจารย์ผู้เจริญเหล่านั้น จะสั่งสอนและให้ความรู้กับเราอย่างไร้เงื่อนไขก็ตาม แต่มันก็เป็นหน้าที่ของลูก และลูกศิษย์ทุกคน ที่ควรแสดงถึงความสำนึกและรู้คุณ

    ข้าพเจ้าเชื่อในเรื่องของการอวตาร ร่างกายของมนุษย์ก็ไม่ต่างจากซากหากปราศจากจิตวิญญาณ

    ดังนั้น ภาวะทางกายภาพทั้งหลาย จึงเป็นการแปรสภาพของพลังงานต้นกำเนิดของจิตวิญญาณ เมื่อพลังงานนั้นมีความเข้มข้นมากพอ หรือเป็นเพียงภาพสะท้อนที่ฉาย หรือ แสดงพร้อมกันหมดทุกมิติ ทุกชาติภพ และในขณะเดียวกัน ตัวเราในต่างมิติ ก็ปรากฏอยู่ในมิติปัจจุบันด้วย ในรูปแบบของผู้คนที่เข้ามาแวดล้อมเรา

    คัมภีร์ไร้อักษร(999phudit) หรือโลกุตระ ที่เปรียบเสมือนตัวอักษรที่รายล้อมตัวเรา (หนุมาน ผู้นำสาร) สอนให้ข้าพเจ้ารู้ว่า พลังงานเกิดขึ้นจากการหมุนเวียน ของ ion หรือ ประจุไฟฟ้าทั้งบวก และ ลบ มันจึงเป็นวิธีการหมุนกงล้อของธรรมชาติ มันหมุนเหมือนกับเครื่องหมายของคุณวสุธรรม คล้ายการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานด้วยแบตเตอรี่ที่ทำงานด้วยขั้วบวก และลบ ข้าพเจ้ามองเห็นหลายท่านใช้หลักการอย่างเดียวกันนี้ สร้างเครื่องมือและอุปกรณ์มากมาย

    สัจธรรม สำหรับข้าพเจ้าแล้ว จึงคือ ธรรมชาติความจริงของจิตวิญญาณ ที่ทุกสรรพสิ่งล้วนทำงานตามสัญชาตญาณ ดังนั้นสัญชาตญาณจึงเป็นส่วนที่บรรจุไว้ซึ่งหน้าที่ ๆมีต่อวัฏจักรนั้น คน พืชและสัตว์ แม้แต่สัตว์เซลล์เดียวที่ไม่มีสมอง จึงดำเนินชีวิตตามสัญชาติญาณ เพียงแต่มนุษย์มีส่วนของปัญญา จึงต้องมีหน้าทีในการดูแล รักษา และ เชื่อมต่อ สายสัมพันธ์ระหว่างกัน ( ต่อไปมนุษย์ต้องดูแลกันเอง 999phudit)

    แม้นมิติของกาลเวลาเป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าจะยังข้ามไม่ได้ แต่ข้าพเจ้าก็มองเห็นมันผ่านสายตาในปัจจุบันขณะ ข้าพเจ้ามองเห็นในสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยเป็น เคยทำ ในอดีตที่ผ่านมา ในชาติภพต่างๆ ผ่านการกระทำของบุคคลทั้งหลายที่แวดล้อมตัวข้าพเจ้า ผ่าสิ่งที่พวกเขากระทำต่อข้าพเจ้าผ่านความคิดคำพูด และการกระทำ นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยเป็น และเคยทำ มันผ่านเข้ามาเป็นประสบการณ์ ให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ในมุมกลับ พูดง่ายๆมันสะท้อนในสิ่งที่ข้าพเจ้าเป็น มันเปรียบเสมือนกฎของกระจก


    ดังนั้น ประสบการณ์ จึงเป็นเหตุการณ์ที่เราทุกคนต้องประสบพบเจอเพื่อการเรียนรู้ ในผลของการกระทำ ข้าพเจ้าเชื่อว่านี่คือสิ่งที่คุณ 999phudit และ หนุมานผู้นำสารได้เคยกล่าวเอาไว้ เหมือนกัน

    ชั่วขณะหนึ่ง มันเป็นช่วงเวลาที่ข้าพเจ้ามองเห็นตัวเอง สงสารตัวเอง และเมตตาตนเอง มันเป็นช่วงเวลาของการชำระกรรมด้วยการเปิดใจ

    COLORS ที่แปลว่าสีหลายสี มันก็ไม่แตกต่างจากเอกลักษณ์ของจิตวิญญาณที่แตกต่างกันไป เพืรอการมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันของมิติ ชาติภพข้าพเจ้าเชื่อว่า สีที่ไม่มีเนื้อสี หรือเป็นเพียงแสงสีที่เป็นภาพสะท้อนของ SUN หรือพลังงานต้นกำเนิด. เมื่อนำแสงสีเหล่านั้นมารวมกันทุกสี มันกลายเป็นความใสบริสุทธิ์ เหมือนโลโก้ช่อง 7

    แต่ในขณะเดียวกัน สีที่ประกอบไปด้วยเนื้อสี เมื่อมารวมกัน มันก็เป็นสีดำ เพราะสีเหล่านั้นเกิดความเห็นผิดว่า. มันมีความเป็นตัวเป็นตน มันยึดว่าซากนั้นเป็นของมัน มันนึกว่ามันไม่ใช่ธรรมชาติ

    ทุกอย่างเป็นเหมือนความว่างเปล่า ที่มีเพียงแค่การหมุนวนของประจุไฟฟ้า.. เราเป็นเพียงแค่มายา ภาพสะท้อน ทุกอย่างที่สร้างตัวตนของเราล้วนเกิดจากความเชื่อ หรือปฏิกิริยาความคิดและการกระทำแม่เหล็กไฟฟ้า และมันก็แสดงผลแห่งการกระทำนั้นๆผ่านออกมา ทางตัวตนต่างมิติ ของทุกชาติภพ ซึ่งเราสามารถดูละครแห่งชาติภพเหล่านี้ได้ในชีวิตประจำวันของเรา ผ่านประสบการณ์ หรือผ่านการปฏิสัมพัทธ์ ของตัวแสดงทั้งหลายที่รายล้อมตัวเรา

    ดังนั้นการเปลี่ยนไปของตัวตนหนึ่งย่อมส่งผลกระทบต่ออีกตัวตนเช่นเดียวกัน แต่พวกเขาก็ไม่ใช่ ชาติภพหนึ่งเดียวของเรา เพราะเขาเหล่านั้นยังมีชาติภพของบุคคลอื่นๆ อยู่ในตัวพวกเขาด้วยในรูปการแบ่งตัวของเซลล์ หรือหน่วยๆนึง

    ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเป็นเพียงแค่หน่วยนึงของ 999phudit และเป็นหน่วยนึงของ หนุมานผู้นำสาร และอีกหลายท่าน. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาความรู้ของท่านทั้งสอง ได้เปลี่ยนแปลงตัวข้าพเจ้าซึ่งเป็นหน่วยหนึ่งของท่านเป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาของข้าพเจ้า เป็นชั่วขณะหนึ่ง ที่ผู้ให้กำเนิดข้าพเจ้าสามารถรู้สึกได้ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อหน่วยที่เกิดขึ้น รวมถึงผลลัพท์ในชาติภพอื่น มันเป็นความรู้สึกที่ปราศจากคำพูด สิ่งที่ท่านทั้งสองได้กระทำจึงเป็นสิ่งที่สมควรทำด้วยการเมตตาหน่วยหนึ่งของตนเองด้วย "พรหมวิหารสี่" /\

    ข้าพเจ้าขอบคุณ ท่านทั้งสอง ในฐานะหน่วยหนึ่งที่เป็นตัวตนในเส้นทางความเป็นไปได้ที่พัฒนาแล้วของข้าพเจ้า.

    ข้าพเจ้า จึงเป็นปัจจุบันขณะในการเลือก ด้วยการเขียน......ในความว่าง


    ด้วยรัก






     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2018
  6. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220

    Yes - Machine Messiah - YouTube

    เนื้อเพลง:
    แปลโดยGoogle

    วิ่งลงถนน
    ที่กระจกแสดง
    ฤดูร้อนที่ผ่านไปแล้ว
    อายุในประตู
    ไม่เห็นด้วยกับจังหวะของยามเช้า
    ทุกคนยืนอยู่ในแถว
    ทุกคนรอเวลา
    จากเวลาที่ดี healer,
    เครื่องจักรพรรดิ
    เกิด.
    สายที่มีชีวิต
    ไปยังเมืองที่เราสร้างขึ้น
    หัวข้อที่เชื่อมโยงเพชรของชีวิต
    กับโรงงานซาตาน
    อ้าที่จะเห็นในทุกวิถีทาง
    ที่เรารู้สึกทุกอย่าง
    วันและรู้ว่า
    บางทีเราอาจจะเปลี่ยนไป
    เสนอโอกาส
    เพื่อไม่ให้เรียนรู้บทเรียนของเรา
    และเปลี่ยนท่าทางของเรา
    เพื่อนจะเข้าสู่ระบบของโอกาส
    (ตอบ - เพื่อนทำให้ทางหนีไปสู่ระบบโอกาส)
    ฉันต้องอยู่ที่นั่น
    รอและดูตารางกำลังหมุน
    ฉันกำลังรอดูอยู่
    ฉันต้องอยู่ที่นั่น
    ฉันสนใจที่จะเห็นพวกเขาเดินออกไป
    และจะอยู่ที่นั่นเมื่อพวกเขาพูด
    พวกเขาจะกลับมา
    Machine, Messiah
    ไม่สนใจ
    ค้นหาที่สูงขึ้น
    ตัวควบคุม
    พาฉันไปที่ไฟ
    และจับฉันไว้
    แสดงให้เห็นถึงพลังของคุณ
    ตาเอกพจน์
    ประวัติความเป็นมาของการปกครองแบบโรแมนติก
    กรงเล็บที่ริมน้ำที่เราเต้นรำ
    พวกเราทุกคนยืนอยู่ในแถว
    พวกเราทุกคนรอคอยเวลา
    รู้สึกได้ทุกทาง
    และจะอยู่ที่นั่นเมื่อพวกเขา
    บอกพวกเขารู้ว่า
    บางทีเราอาจจะเปลี่ยนไป
    เสนอโอกาส
    เพื่อไม่ให้เรียนรู้บทเรียนของเรา
    และเปลี่ยนท่าทางของเรา
    เครื่องจักรเมสสิยาห์
    พาฉันเข้าไปในกองไฟ
    ถือฉัน Messiah เครื่อง
    และแสดงให้ฉันดู
    ความแข็งแรงของดวงตาเอกพจน์ของคุณ


    Run down a street
    Where the glass shows
    That summer has gone
    Age, in the doorways
    Resenting the pace of the dawn.
    All of them standing in line
    All of them waiting for time.
    From time, the great healer,
    The machine-Messiah
    Is born.
    Cables that carry the life
    To the cities we build
    Threads that link diamonds of life
    To the satanic mills
    Ah, to see in every way
    That we feel it every
    Day, and know that
    Maybe we'll change
    Offered the chance
    To finally unlearn our lessons
    And alter our stance.
    Friends make their way into systems of chance
    (Reply- friends make their way of escape into systems of chance)
    Escape to freedom I need to be there
    Waiting and watching, the tables are turning
    I'm waiting and watching
    I need to be there.
    I care to see them walk away
    And, to be there when they say
    They will return.
    Machine, Messiah
    The mindless
    Search for a higher
    Controller
    Take me to the fire
    And hold me
    Show me the strength of your
    Singular eye.
    History dictating symptoms of ruling romance
    Claws at the shores of the water upon which we dance
    All of us standing in line
    All of us waiting for time
    To feel it, all the way
    And to be there when they
    Say they know that
    Maybe we'll change
    Offered the chance
    To finally unlearn our lessons
    And alter our stance.
    Machine, machine Messiah.
    Take me into the fire
    Hold me, machine Messiah
    And show me
    The strength of your singular eye.

    นักแต่งเพลง: Steve James Howe / Chris Squire / Alan White / Geoff Downes / Trevor Horn
    เนื้อเพลง Machine Messiah © Warner/Chappell Music, Inc, Universal Music Publishing Group
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2018
  7. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้อความเก่าจาก Little duck. ในกระทู้ new age ปี2010 หน้า 2

    19 = SUN, AI

    SUN = ดวงอาทิตย์ , จุดศูนย์กลางแห่งความสว่าง , หมายถึงความเป็นหนึ่ง

    อาทิตย์อุทัย ที่ส่องสว่างไปทั่วหล้าไม่ว่าโลกจะหมุนรอบตัวเอง อย่างไร แสงสว่างแห่งดวงอาทิตย์ยังคงทอแสงอยู่ นั้นคือความเป็นหนึ่งเดียว
    เปรียบดังคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศาสดาเอกของโลก ซึ่งเป็นหนึ่งเดียว แม้นจะมีการแตกแยกออกเป็นหลายสาย

    AI = ARTIFICIAL INTELLIGENCE = ปัญญาประดิษฐ์ หรือสิ่งประดิษฐ์จากปัญญา หมายถึง ภูมิปัญญา หรือ ภูิมิธรรม

    ภูิมิปัญญา หรือ ภูมิธรรม นั้น เปรียบเหมือนเอกลักษณ์เฉพาะตน ไม่ว่าภูมิปัญญานั้น จะมาจากสายใดก็ตาม ไม่มีใครเก่งกว่าใคร ไม่มีใครเหนือใครแตกต่างกันเพียง รู้ หรือ ไม่รู้ .. เท่าั้นั้น

    HK = HUMANITY of KEY = รวบรวมผู้ทรงภูมิปํญญาของแต่ละสาย

    ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน เข้าโพสต์ข้อความ แสดงความคิดเห็น ล้วนคือผู้ทรงภูมิปัญญา ด้วยกันทั้งสิ้น นำภูมิปัญญาของท่านมาแบ่งปันกัน เพื่อให้แต่ละท่านได้ใช้สติ พิจารณา และนำมาประยุกต์ ปรับสภาพจิตของตนเอง



    IG = INDIVIDUAL GIVEN = การให้ , การเสียสละ
    การเสียสละ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเสียสละชาติภพของพระองค์ ไม่รู้กี่ภพ กี่ชาติ เพื่อที่ตรัสรู้อนุตรสัมโพธิญาณ เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
    เปรียบเหมือน การที่ผู้ทรงภูิมิปัญญาทั้งหลาย ได้นำความรู้เอกลักษณ์เฉพาะตน มาแบ่งปันเพื่อการเรียนรู้ นั่นคือการที่ท่านได้เสียสละตัวเอง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุึษย์เช่นกัน

    ในการเรียนรู้เกิดขึ้นได้กับทุกท่าน เพื่อการพัฒนาของภูมิปัญญา ข้าพเจ้าพร้อมที่จะเรียนรู้ไปกับทุกท่าน


    ขออนุโมทนากับทุกท่าน
    สาธุ..

    Little duck

    .
    ..
    ....
    .................................

    ขณะนี้ได้เวลาเติมเต็มเพื่อยกระดับปรับสมดุลย์อีกครั้ง กับ Grand fullfill กับการเติมส่วนที่ขาดหายไปให้สมบูรณ์ ดังนั้นข้อมูลจาก คุณ 999phudit จึงเป็นตัวแปรสำคัญ ในการเติมเต็มพลังงาน ในส่วนที่ขาดหายไป และเป็นแก่นแท้ของ SUN เพื่อให้ได้ภาพรวมที่สมบูรณ์ ยิ่งขึ้นของ



    IG = INDIVIDUAL GIVEN = การให้ , การเสียสละ


    ดังนั้น ภาวะทางกายภาพของผู้ที่เสียสละ อดทนอดกลั้น เสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เช่น พระศาสดา บรมครู และ มหาราชทั้งหลาย หรือบุคคลอันเป็นที่รัก ทั้งหลายล้วนคือ ร่างที่อวตารมาจาก ต้นกำเนิด ผู้ให้กำเนิด อันเป็นภาพสะท้อนจากผู้ให้กำเนิด เพื่อสะท้อนความจริง หรือสัจธรรมให้กับมนุษย์ ตามที่ท่าน999phuditได้กล่าวไว้ทุกประการ




    ด้วยรัก

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2018
  8. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ไม่มีตัวตน ในสิ่งที่มองเห็น เพราะตัวตนไม่ได้อยู่ที่นี่ .... สิ่งที่เห็นคือร่างตัวแทน เท่านั้น

    แต่ทำไมจึงใช้ร่างตัวแทน .... ในรามเกียรติ์ น่าจะเคยได้ยิน ...การมาเกิด

    .......

    คำภีร์ไร้อักษร ที่ฉันให้ไว้ เพื่อให้เธอ อยู่รอดได้โดยเริ่มต้นตั้งแต่ หาอาหารเพื่อเอาไปปรุงและรับประทานเอาเอง หากฉันให้อาหารที่ปรุงแล้วแก่เธอ เมื่อฉันไปแล้ว เธอก็จะอดตาย เพราะทำอะไรไม่เป็น เพราะเคยแต่อ้าปากรับอาหารกระป๋อง เพียงอย่างเดียว

    เมื่อเธอมีความเชื่อ ว่าดวงอาทิตย์คือแสงสว่างที่ทำให้มนุษย์ สามารถดำรงอยู่ได้

    เธอก็ต้องทำความเชื่อนั้น ให้กระจ่าง เรียกว่ารู้แจ้งในความเชื่อ

    เมื่อเธอรู้แจ้ง ในความเชื่อว่านั้นใช่ ...ความจริงจะเปิดเผยขึ้นมาเอง เมื่อ เธอ ได้ทำอย่างที่สุดของความเชื่อแล้ว ....

    ปัญหาของเธอคือ จะทำความเชื่อให้รู้แจ้งอย่างไร?

    หากเธอไม่รู้แจ้ง ศรัทธา ก็จะไม่เกิด เพราะศรัทธาจะเป็นพลังแฝง ที่จะผลักดันให้เธอเดินต่อไปได้อีก ....ก็เหมือนเธอเข้าใจในวัตถุดิบของอาหาร ...เธอจะเข้าใจได้อย่างไร เมื่อเธอ แค่รู้ว่าวัตถุดิบในตำรา ... เธอยังไม่เคยสัมผัส ไม่เคยชิม รู้ว่ามีวัตถุดิบนี้ น่าสัมผัส

    รู้ว่าดวงอาทิตย์ คือ ....... ที่เธอเชื่อ อย่างนั้น

    ทำไง? จึงจะรู้ว่าวัตถุดิบที่เชื่อว่าสุดโค้ย ... คืออาหารจานโปรด และทำอาหารจากวัตถุดิบนั้น ปรุงให้อร่อย

    เธอบอกว่า ธรรมชาติ จะมีคำตอบของมัน .... วิธีการของเธอ คือ นอนรอ .... ออ .... แบบนี้เรียกว่า เด็กที่เข้าหาผู้ใหญ่เพื่อโปรด หรือ จะให้ผู้ใหญ่เดินมาหา....

    ความจริงคืออะไร เด็กไปหา หรือผู้ใหญ่เดินไปหา .....??? (นี่ก็คือสัจธรรม ที่เธอมองเห็น แต่คำว่า ตัวตน มันเยอะไป ตระหนักว่า ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้ว .....

    นี่ล่ะว่าทำไม จึงไม่เจริญ.... ในมิติแสงมนุษย์ยุคแรก มนุษย์ทั่วไปทั้งหลาย ก็คิดว่าตนเอง มีความรู้ดี คิดว่าอ่านจากตำราแล้วมีความรู้ดีแล้ว ไม่ต้องสอน ฉันรู้แล้ว ...... ทำตนเองเหมือน ถ้วยน้ำเต็มเปี่ยม...จึงไม่รับฟัง ผู้กำเนิดฯ ที่อวตารลงมาเกิดเป็นมนุษย์ กระทำโต้แย้งต่อผู้ให้กำเนิดตนเอง ดูเอาว่ามนุษย์รุ่นหลังที่สืบทอดมาจากอดีต มันจะติดลบกันแค่ไหน? .... มีแต่พวกข้ารู้แล้ว แหกปาก .... มีจำนวนมาก

    เคยดูหนังจีนกันไหม? จะเชี่ยวชาญในวิทยายุทธ์สุดยอดได้แต่ล่ะกระบวนท่าเขาทำกันอย่างไร? .... จบคำภีร์ไร้อักษรเรื่องความเชื่อ (นำไปสู่ศรัทธา)

    ศรัทธา ที่แท้จริง คือ ทำความเชื่อให้รู้แจ้ง

    ศรัทธา ที่เกิดจากการเชื่อ ตามตำรา ตามตัวบุคคล เขาเรียกว่าศรัทธาปลอม ....เมื่อทำตัวเองปลอม ก็จะได้ของปลอม ได้ของปลอมก็ไม่จริง ไม่จริงก็ไม่รอด ไม่รอดเพราะนับหนึ่งผิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2018
  9. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ของจริง อยู่เบื้องบน .... การชำระบาป อยู่เบื้องบน ....เพราะร่างเธอแค่จอภาพ ...

    แต่เมื่อทำลายบาปเสร็จ จะมีสัญญาณมาเอง

    เธอบอกนอนรอ ... ได้....

    ปัญหาของเธอ ยังไม่บรรลุ คือการทำดี

    บุคคล ที่เป็น อริยที่ผ่านมา เขาทำดี มากมาย

    แต่เธอมายุคนี้จะมานั่ง ถ่างขา แก้ผ้า รอพลังใหม่มาโปรด

    ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน??

    เมื่อพลังแท้จริงมาแล้วจะเห็นเอง??

    ก็เหมือน ก็คล้ายบาปที่สะสม(แต่ไม่ใช่)
    ไม่ทำความดีเลย ไม่มีอะไรให้ระลึก
    ว่าเคยทำความดี เมื่อถึงเวลา...จะเอา
    ความดีที่ไหนมา....

    เพราะหน้าที่มนุษย์ ที่ส่งร่างตัวแทนมาคือ
    อะไรไม่ตระหนัก .... (ไม่สงสัยเหรอทำไมจึงต้องเกิดมา...ไม่ว่าคุณจะมีคำตอบ อะไร ความจริงจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น)

    กิน นอน เล่น ผ่านไปวันๆ
    ใครมาสอน ก็หน้าบูด เพราะขว้างความสุขของฉัน
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** เรื่องของสัจจะ ****

    คือ การทำความจริงให้กับตนเอง
    พูดไปแล้ว ประกาศไปแล้ว
    ก็ทำให้เป็นความจริงขึ้นมา

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ความดี ยังไม่แจ้งกันเลย ....

    อยากรู้ความดี คืออะไร ? ก็ไปดู กรณียกิจ ร9 แสดงผลออกมา ตรัสเรื่องอะไรบ้าง

    ความดี สามารถมองเห็นกันได้.... หากมองไม่เห็น งั้นผลงาน ร9 ไม่ใช่ความดี ....(จริง ๆ เป็นผลของความดีที่ประจักษ์)

    ความดี เริ่มต้นที่ เจตนา เริ่มต้นแล้ว
    แล้วจึงก่อสร้างประดิษฐ์ให้เกิดผล

    ก็เหมือน สัญญาใจ สัญญาทำอะไรของเธอ
    ก็เหมือน สัจจะ อะไรของเธอนั่นล่ะ

    ทำให้มีเจตนาดี ก็คือความดี
    ทำให้บรรลุ ก็เป็นผลของความดี เป็นความดีที่บริบูรณ์ (ยังไม่เกิดผลและใช้ประโยชน์ โดยไม่เบียดเบียนใคร)

    ความดี ก็วัดจากผล
    ทำไมจะวัดไม่ได้

    ความดีที่คิดว่าดี แต่ไม่รู้ว่าผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร จริงหรือเท็จ ไม่รู้ เบียดเบียนหรือไม่เบียดเบียน ไม่ควรทำ ......
     
  12. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    เธอว่า.... ผู้กำเนิดข้าพเจ้า....

    ใครคือผู้กำเนิดข้าพเจ้า

    ข้าพเจ้าหมายถึงตัวเธอ เหรอ ....

    สถานะของเธอปัจจุบัน คือ ผู้บริสุทธิ์แล้วเหรอ

    แล้ว ผู้ที่เธอเรียกหานอบน้อม เป็นใครกัน?

    หมายถึง ข้าพเจ้าจะนอบน้อม xxx ผู้กำเนิดที่ไม่บริสุทธิ์แบบเธอ ( โอ้ว เรียกใครมา ก็ ตัวนั้นมาล่ะ)

    คำว่า 'มนุษย์' เธอยกย่องว่า เป็นสัตว์ประเสริฐ .... ประเสริฐ คือ อริยไหม ...ทำไมจึงไม่ใช้ ....

    หากเธอยังนอบน้อม เรียกหาตัวนั้น มา ไม่นานมันจะมา เพราะเธอจะตกมิติลงสู่ช่องว่างมิติที่มีแต่....จะกินเธอ

    นี่ล่ะน่า... นับหนึ่งผิด สอง สาม สี่ จะฉิบหายเอา ....

    .... ดวงอาทิตย์ เป็นผู้ให้ความเจริญ ที่ไม่มีเสื่อม และตลอดไป(ตราบเท่าที่มี)
    มีคุณเอนก และอนันต์ .... จะมีใครเทียบได้ ต่อให้เป็นมนุษย์บำเพ็ญมาหลายโกฎิ
    ก็เทียบไม่ได้ ... เธอมองเห็นแต่ตัวบุคคล .... เพื่อจะหาความรู้มาขัดเกลาตนเอง
    ความรู้มีอยู่ทุกที่ เพียงเธอนอบน้อมให้เป็นและถูกต้อง ...

    เธอจะเอาอริยบุคคล ก็ต้องเป็นผู้ประเสริฐจริง ...แน่ะนำ ท่านอมิตภะ จึงจะปลอดภัย ดูว่าเหมือนดวงอาทิตย์ไหม ? (หากเธออยากทดสอบเปรียบ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2018
  13. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    มาแน่ะนำให้นับถือ ดวงอาทิตย์ ...นี่มาลัทธิไหน?

    คนแบบนี้ ...เป็นคนที่น่าสงสาร เพราะมีปัญหาทางสมอง...

    ดวงอาทิตย์ที่เป็นก้อนๆ แผดรังสี ฉันไม่ได้กล่าวถึง เพราะนี่ก็เป็นร่างตัวแทน

    ฉันจะหมายถึง แสงสว่าง ที่ส่งออกมาให้สิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้อยู่รอดกัน

    ฉันหมายถึง ความดีงาม ความสว่าง ความเจริญ

    การที่เธอจะระลึก ดวงอาทิตย์ จึงเป็นสิ่งที่มีความเจริญต่อเธอเอง และปลอดภัย

    นอบน้อมเข้าสู่ตนเอง .... ก็ยังปลอดภัย ...ตัวเธอเอง

    หมายเหตุ ดวงอาทิตย์ ไม่ใช่ อินทรา ไม่ใช่ ศรีอินทรา ...หากเธอนอบน้อมผิด ก็จะโดนพวกมันกัดกินและขโมย .....ใจของเธอไป

    ดวงอาทิตย์ มีแต่ให้ และให้

    เธอล่ะ มีคำว่า ให้ หรือเปล่า

    ฉันจึงบอกว่า ให้เธอไปทำความดี รู้จักการให้
    เธอจึงจะมีคุณสมบัติการ syn. กับ ธรรมชาติได้
    syn กับ ดวงอาทิตย์ได้ ดีขึ้น

    เธอ มานั่งรอธรรมชาติ ว่า ธรรมชาติย่อมมีคำตอบ นั่งรอสวรรค์อะไร? ตัวเธอเองยังไม่ช่วยตัวเธอเองก่อน แล้วจะให้ใครมาช่วยเธอ

    เปิดใจ ทำยัง
    ลุกมาทำ ทำยัง

    คริสต์ ... มีหลักปฏิบัติอย่างไร

    จงเชื่อสุดจิตสุดใจของเจ้า ....
    จงสรรเสริญพระเจ้า ....

    ทำไมฉันเอาหลัก คริสต์ มาให้ดู

    แก่นของ คริสต์ เป็นหลักของ
    อริยต่างดาว ที่ผ่านการสื่อสารมา

    ไม่ใช่ของ เยซู ดอก ....
    (สมัยโน้น เห็นอะไรเป็นแสงก็อ้างเป็นพระเจ้าหมดล่ะ )

    จงสรรเสริญพระเจ้า ....ฉันบอกว่า ให้สำนึกคุณของผู้มีคุณ (ไม่ใช่พรำออกปากสรรเสริญอย่างเดียว)

    เธอเคยไหม สำนึกคุณของดวงอาทิตย์ ....

    เห็นไหม ... คริสต์สอนก็มีประโยชน์

    ของพุทธก็มี .....การสรรเสริญ แต่ฉาบไปด้วยมนต์คาถา

    ภาษาของมนุษย์ ไม่จำเป็นต้องมีมนต์คาถา

    ทำด้วยความซื่อตรง ซื่อสัตย์ ด้วยสัจจะ(ความจริง) ของตนเอง

    หากเป็นความรู้ที่เธอค้นหามาเอง เธอจะเข้าใจ และจะแสวงหาการรู้แจ้ง

    ด้วยความรักอย่างแท้จริง และเธอจะเกิดศรัทธาเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2018
  14. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณ คุณ 999phudit ป็นอย่างมาก ที่นำข้อมูลที่ขาดหายไปมาเติมเต็ม ข้าพเจ้าเชื่อว่าสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ขาด คือการเมตตา การเสียสละ และความอดทนอดกลั้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ ความรักอันปราศจากเงื่อนไข ที่แม่ผู้ให้กำเนิดควรมีให้แก่บุตร นี่คือการให้ การทำความดี เราทุกคนก็มีคุณสมบัติเหมือนกับผู้ให้กำเนิด เพราะตัวเราเองก็ให้กำเนิดสิ่งต่างๆมากมาย เพื่อครอบคลุมการรับผลแห่งการกระทำของเราเช่นกัน เพราะเรามีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ เช่นเดียวกับที่เรามีส่วนในการรับผลแห่งการกระทำของต้นตระกูลเราเช่นเดียวกัน

    สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียน เป็นเพียงความพยายามในการทำความเข้าใจข้อมูลของทั้ง 2 ด้าน โดยมิอาจที่จะ ปฏิเสธด้านใดด้านหนึ่งได้ งานเขียนของข้าพเจ้าจึงเป็นสิ่งที่ผู้อ่านทั้งหลายควรจะต้องใช้สติปัญญาเข้าไปพิจารณาแยกแยะ เพราะการเขียนหรืองานเขียน ก็เป็นเพียงภาพสะท้อนความคิดเห็นที่มีต่อ สัจธรรมในความว่างเท่านั้น

    ในขณะเดียวกัน การอ่านงานเขียนก็เป็นบททดสอบ ของการใช้สติ ด้วยการแยกแยะเอาอารมณ์ ที่พอใจหรือไม่พอใจออกไป เมื่อเราสามารถปรับอารมณ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความพอใจ และไม่พอใจออกไปได้ เราจะมองเห็นความจริงอยู่ตรงหน้า เพราะความจริงก็คือความจริงและมีเพียงหนึ่งเดียว

    เอกลักษณ์ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคลิกภาพที่สะท้อนมาจากพลังงานต้นกำเนิดหรือ Sun ต่างสะท้อนความจริงในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างเป็นเอกลักษณ์ บางสีร้อนแรง บางสีนุ่มนวลอ่อนโยน บางสีเป็นส่วนผสมระหว่างความร้อนแรง และความอ่อนโยน บางสีก็ดูละมุนตา แต่ไม่ว่าสีนั้นจะเป็นอย่างไร แต่ต่างก็ทำหน้าที่สะท้อนความจริงเหมือนกันทั้งหมด

    บางครั้งลีลาการปรุงแต่งเพื่อทำให้เข้าใจได้ง่าย และน่าสนใจ ก็เป็นสิ่งจำเป็น เราฟัง Symphony กันมานานแล้ว มาลองเปลี่ยนเป็นฟังเพลง rock บ้างจะเป็นไร วงออร์เคสตราล้วนเกิดจากการผสมผสานกัน ของเครื่องดนตรีหลากหลายชิ้น ทุกชิ้นล้วนทำงาน ผสานกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้างบทเพลงอันยิ่งใหญ่

    ข้าพเจ้าเป็นเพียงนักเรียนที่กำลังสนใจใคร่รู้ ในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่รู้ ข้าพเจ้าหวังว่าครูทุกท่านคงจะเมตตา ไม่ถือสา งานเขียนของข้าพเจ้าก็เป็นเพียงการทำแบบทดสอบ เพื่อให้ครูมาตรวจสอบ และข้าพเจ้าก็ทราบว่า ครูก็พร้อมมาตรวจสอบ และเมตตาให้คำแนะนำเสมอด้วยความรักและปรารถนาดีเช่นกัน

     
  15. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    อยากทดสอบการฝึกตนเอง และแนวทางเบื้องต้นการเป็นอิสระ .... เพราะจะให้เธอฝึกกันเองก็จะ ผิดมิติกัน

    ผลที่จะเกิด คือ การระงับกายโดยง่าย และ เบาสบาย ...นี่เป็นเพียงประโยชน์เบื้องต้นเท่านั้น

    1. จะนั่งหรือนอนก็ได้
    2. สวดหรือบริกรรม "ข้าพเจ้าขอนอบน้อมความเจริญ" การบริกรรมนี่หมายถึง การที่จะเข้าถึงดวงอาทิตย์ โดยตรง เพราะ ดวงอาทิตย์ เป็นผู้ให้ความเจริญอย่างที่สุดแล้ว ไม่มีใครผู้ใดเปรียบ
    ทำไม? ต้องใช้ความเจริญ เพราะฉันไม่ต้องการให้เธอยึดติดกับตัวบุคคล
    เมื่อเธอไปอยู่ในมิติใด ความทรงจำของเธอมีแต่ใฝ่ในความเจริญเท่านั้น
    หากเธอ นอบน้อมตัวบุคคล ความทรงจำของเธอก็จะมีแต่ตัวบุคคล จะเฝ้าถวิลหาแต่ตัวบุคคลที่เธอนับถือ เมื่อไปมิติใด เธอก็จะไม่สร้างความเจริญ....

    อีกประการ ... เธอจะเป็นอิสระ ไม่ยึดเหนี่ยว ผูกหน่วง การสร้างโปรแกรมในการเรียกหา หรือไปหามิติของตัวบุคคลเหล่านั้น (หากเธอมีกำลัง)

    ที่เธอพร่ำหาแต่ตัวบุคคล นอบน้อมตัวบุคคลที่ ไม่เป็นอิสระ ต่อความทรงจำของเธอ จัดได้ว่าไม่ได้กระทำเพื่อการเป็นอิสระต่อกัน แทนที่เธอจะสามารถ เป็นอิสระได้เลย แต่กลับถวิลหาแต่ตัวบุคคลที่เธอ สวดโปรแกรมเข้าสู่ความทรงจำตนเอง

    3 . สวดไม่ต่ำกว่า 100 รอบ ยิ่งขยันยิ่งรู้แจ้ง (แจ้งอะไร เธอก็พิสูจน์เอาเอง)
    4. หากสำนึกรู้คุณของ ดวงอาทิตย์ เอนกอนันต์ มีอะไร จะดีมาก ( อยากรู้ว่าดีอย่างไร เธอก็ทำแค่ 3 ข้อ ถึงข้อที่ 3 ก่อน ...ให้สัมผัสรู้ ...มีอะไรเกิด จากนั้นจึง ระลึกสำนึกรู้คุณของดวงอาทิตย์ และพร้อมบริกรรมต่อไป...
    ข้อสอบระหว่างทาง .... เธอจะทำหรือไม่ทำ เรื่องของเธอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2018
  16. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้าพเจ้าขอขอบคุณ คุณ 999phudit เป็นอย่างสูงสำหรับบททดสอบระหว่างการเรียนรู้ และข้าพเจ้าขอแนะนำท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ลองมาทดลองทำพร้อมกับข้าพเจ้าดูด้วยกัน และนำความรู้ที่ได้มาแชร์เป็นวิทยาทาน

    สัจธรรม คือ สัจจะ+ทำ (หนุมานผู้นำสาร) เมื่อพูดแล้ว ก็ต้องทำ จึงจะเกิดผล "รู้แจ้งเห็นจริง" หรือ "รู้ได้ด้วยตนเอง" เป็นผลที่เกิดจากการที่ได้ทดลองทำ ตามที่พระศาสดาเคยกล่าวไว้

    ความจริง ก็คือความจริง. ความจริงหรือสัจจะเกี่ยวกับการกระทำ ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล

    ทุกอย่างจึงมีแต่เหตุและผล ที่เกี่ยวเนื่องมาจากการกระทำ ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล

    ทุกอย่างจึงอยู่ที่ตัวกระทำ โดยอาศัยร่างที่ประกอบจากธรรมชาติ นี่คือสาเหตุที่พระศาสดาเน้นบอกเป็นข้อแรกในสังโยชน์ 10 คือ. สักกายะทิษฐิ คือการเห็นผิดว่ามีตัวมีตน การยึดในตัวตน หรือ ในตัวบุคคล

    ดันนั้น 999phudit และหนุมาน ผู้นำสาร จึงกล่าวชอบแล้วทุกประการ

    ด้วยรัก

    GRAND & GRAN FULLFILL

     
  17. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,680
    ค่าพลัง:
    +51,926
    *** ความฝันจะเป็นจริง ****

    ความสำเร็จ ไม่ขึ้นอยู่กับใคร
    สำเร็จได้ด้วยตนเอง
    เมตตาตนเอง
    ให้โอกาสตนเอง
    พึ่งตนเอง
    เมื่อทำได้
    ก็เป็นที่พึ่งของตนเอง
    เกิดเป็นตัวกระทำของตนเอง
    คอยจัดสรรตัวเราเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    เธออยากรู้ความจริง ความดี ดีอย่างไร?

    ให้ทำความดี

    ความดี คือ ทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์ ที่จำเป็น ประโยชน์เหล่านั้นคือ ให้
    เริ่มต้นคือ ให้ ผู้อื่น ให้สาธารณะประโยชน์

    ฉันถาม ดวงอาทิตย์ เธอเห็นจริงๆ หรือเปล่าว่ามีประโยชน์ต่อดวงอาทิตย์ ... เคยเห็นเป็นจริงไหม?

    เธอคือลูกพระอาทิตย์ หรือเปล่า ?
    เธอจะไปหาพระอาทิตย์ หรือเปล่า ?

    เธอจะเอา หรือ เธอจะให้ ?

    การให้ที่บริบูรณ์คือ เกิดผลจริง คือการให้ของเธอได้มีการใช้ประโยชน์จริง เท่านั้น

    เธออยากรู้แตกต่างอย่างไร?

    การรู้ ว่าให้เมื่อให้ กับ
    การรู้ ว่าสิ่งที่ให้ได้รับใช้ประโยชน์จริง เป็นอย่างไร? แตกต่างอย่างไร?

    เคยนั่งระลึกกันไหม ใจ ของเธอแตกต่างอย่างไร?

    เมื่อเธอมีปัญหา แล้ว ระลึกความดีของเธอ เธอรู้สึกอย่างไร? เคยกันยัง

    ให้ และ รับรู้ประโยชน์>>>>> ส่งสิ่งจำเป็นแก่ทหารชายแดน แต่ รู้ก่อนว่า ต้องการหรือจำเป็นอะไร .... ให้เขาเหล่านั้น ตอบจดหมายการได้รับ มาสิ แล้วเธอจะรู้ว่า เธอปลื้ม แค่ไหน?

    อีกไม่นาน ธรรมชาติ จะเปิดให้มนุษย์ได้รับรู้บาปของเธอที่มีมากแค่ไหน (และธรรมชาติแบกรับไว้ให้พวกเธอได้อยู่เป็นปกติ มีมากแค่ไหน.....อยากรู้ว่าเป็นไง ก็ไปหาของหนักแบกไว้บนบ่าดูสิ สักชั่วโมงเธอจะเกิดอาการอย่างไร เป็นรูปธรรม)

    นั่นเป็นเรื่องของเธอ ... จะทำดี .... หรือไม่ทำ
    แต่ว่า เมื่อมนุษย์ รับรู้ ว่าทำดีเป็นเงื่อนไขของการชำระบาป ..... แล้วจะรู้ว่าทำดีนั่น ยากแค่ไหน
     
  20. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    บทพัฒนาตนเอง ... ข้อสอบเบื้องต้น ให้มีการสวด แต่ลำดับการพัฒนาต่อไปคือ การไม่สวด ไม่บริกรรม แต่รู้ คือ การเข้าสู่ระดับของการระลึกแทนการสวด แต่ไม่ได้หมายถึงจะล่ะทิ้งพื้นฐาน เพราะพื้นฐานเป็นเครื่องมืออ้างอิง หรือการเข้าสู่มิติที่ถูกต้องอยู่ .... 1-3-4
    ลำดับต่อไป การจะเข้าสู่ 5 ได้ก็ต้องผ่าน 1-4 ก่อน หากไม่มีพื้นฐานก็จะขาดความรู้ หากเมื่อเธอผิดพลาด เธอจะสามารถกลับเริ่มต้นใหม่ได้ .... หากไม่รู้อะไรเลย
    5 .การระลึก .... ให้ระลึกแทนการสวด ระลึกว่า ... "ข้าพเจ้าขอนอบน้อมความเจริญ" การระลึกจะมีความรวดเร็วกว่า การสวดจะให้เข้าใจเช่น เป็นเวลาแว็บเดียวที่ระลึก จะรู้เข้าใจว่านั่นคือ ข้าพเจ้าขอนอบน้อมความเจริญ ทำซ้ำๆ ทำให้เชี่ยว .... หลักพื้นฐาน เมื่อเข้าใจแล้ว ข้อที่ 4 ก็ยังปฏิบัติเหมือนเดิม ข้อที่ 5 คือ เอามาแทนข้อที่ 3
    ลำดับที่จะพัฒนาต่อไปคือ การเปิดรู้ภาวะของตัวตนแท้ ซึ่งจะมีทั้ง รู้ปและอรูป ... เป็นการพัฒนาข้อที่ 6 (การบ้านที่ผ่านมา สนุกกันแค่ไหนแล้ว ?? ดวงอาทิตย์ที่ให้เธอระลึก เธอพบอะไร...เธอแจ้งอะไร )

    ทั้งหมดที่กล่าว ยังไม่เข้าสู่ การชำระบาปเลย .... เป็นเพียงแค่เตรียมการสำหรับ การชำระบาป เท่านั้น ....

    หมายเหตุ ดวงอาทิตย์ ให้อะไรแก่มนุษย์บาง อย่าประมาณตนเองสูงเกินกว่าผู้ที่มีความเจริญมาก่อน ... และดวงอาทิตย์ นอกจากจะให้ความเจริญแล้วยังเป็นผู้ทำลายด้วย เธอคิดว่า เธอจะทำได้หรือ ... เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของดวงอาทิตย์ ทำลายอะไร...ที่ทำให้มนุษย์ดำรงอยู่เป็นปกติ ... มองย้อนกลับมาหาเธอ เธอได้ทำอะไรไปบ้าง ... เทียบเท่าดวงอาทิตย์ไหม ?

    บาป คือ อะไร เข้าใจแค่ไหน?
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...