..ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการครับ..

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ได้โอนเงิน ๘๑๕๐บาท เมื่อ๒เมย.เวลา๑๑.๑๗ น.เป็น ค่าบูชาพระ ๗.รายการ ที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ

 

2028. เหรียญรุ่นแรก ญาท่านเภา จันทธัมโม วัดบ้านเวินโพนพิสัย จ.หนองคาย เกจิดังสองฝั่งโขง ผู้สืบทอดวิชาสายธาตุหลวงใต้(สปปลาว) หายากสุดๆครับ



เปิดตำนานพระอภิญญาลุ่มน้ำโขง'ญาท่านเภา'วัดบ้านเวินโพนพิสัย

จ.หนองคาย เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในแถบลุ่มน้ำโขง มีพระเถราจารย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นครูบาอาจารย์ ต้นธาตุ ต้นธรรม หลายรูปด้วยกัน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องคาถาอาคมและไสยเวทย์ จนเป็นที่เลื่องลือเล่าขานเป็นตำนานสืบทอดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
อาทิ ญาท่านป้อง บ้านหนองกุ้ง, หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม, หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย ฯลฯ ซึ่งส่วนมากท่านเหล่านี้ได้ล่วงลับไปแล้ว
แต่ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในขณะนี้ และผู้เขียนอยากแนะนำคือ “ญาท่านเภา” วัดบ้านเวิน ซึ่งผู้เขียนเองไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านมาก่อน จนได้พูดคุยกับคุณเอก นาครทรรพ พี่ชายใจดี ผู้ที่สนใจในศาสตร์เดียวกัน ซึ่งปัจจุบันท่านได้พักร้อนงานการเมือง และได้หันมาศึกษาหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาในระดับปริญญาโท
คุณเอก เล่าว่า...ในช่วงเวลาที่ สปป.ลาว มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่ ทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบขึ้น ชาว สปป.ลาว ต่างต้องหาที่พึ่งทางใจ โดยเฉพาะ “ญาท่านเภา” ได้เป็นที่พึ่งทางใจให้แก่ชาวลาวได้เป็นอย่างดี โดยต่างแวะเวียนมาให้ท่านลงน้ำมันงา จารศีรษะ และฝังทองคำดิบ เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดคงกระพัน ทำให้ชื่อเสียงของ “ญาท่านเภา” ขจรขจายไปทั่วทั้งสองฝั่งโขง
ต่อมาท่านได้ลี้ภัยสงครามมายังเมืองไทย เหตุเพราะท่านได้สักยันต์ให้ทหารปฏิบัติการฝ่ายตรงข้ามกับทางราชการ ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า...ขณะที่ท่านฝ่าวงล้อมทหารออกมา ท่านได้ใช้วิชากำบังร่าง หนีออกมาฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันท่านมีอายุ ๘๕ ปี จำพรรษา ณ วัดบ้านเวิน จ.หนองคาย จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งชาว จ.หนองคาย ให้ความเคารพนับถือในตัวท่านเป็นอันมาก
“ญาท่านเภา” เกิดในสกุล “สาวรักษ์” เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๗๑ ณ บ้านดงกะลึม เมืองหาดทรายฟอง (ปัจจุบันขึ้นกับเมืองปากงึ่ม) แขวงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นบุตรคนที่ ๓ โดยมีพี่น้องทั้งหมด ๔ คน บิดาชื่อ “จารย์อุ่น” มารดาชื่อ “วรรณี”
ชีวิตในวัยเด็กของท่านก็เหมือนกับชาวชนบททั่วไป เป็นชาวนา เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ณ วัดบ้านเลิด เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๙๑ โดยมี “พ่อแม่บุ” เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “จันทธัมโม”
ท่านมีความสนใจใฝ่ในการศึกษา จึงเดินทางไปศึกษาหาความรู้ที่ตัวเมืองเวียงจันทน์ โดยฝากตัวเป็นศิษย์ “ญาพ่ออุ่น” ที่วัดพระธาตุหลวงใต้
ในช่วงที่ท่านศึกษาวิชากรรมฐานอยู่ที่วัดพระธาตุหลวงใต้นี้เอง ทำให้ท่านมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับ “ญาท่านป้อง” และญาท่านป้องนี่เองที่เป็นผู้สอนคัมภีร์มูลกัจจายน์ให้แก่ญาท่านเภา
คัมภีร์นี้ว่าด้วยหลักไวยากรณ์ของภาษาบาลี หรือภาษามคธ และข้ออธิบายจากคัมภีร์ต่างๆ ท่านได้จดรวบรวมไว้อย่างละเล็กละน้อย แล้วเขียนแปลเป็นภาษาไทยกำกับ
นอกจากนี้ ญาท่านป้อง ยังสอนไสยเวทย์วิทยาคมให้แก่ญาท่านเภา อีกด้วย
ญาท่านเภา เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขง ด้วยท่านเป็นที่พึ่งที่อาศัยของบรรดาชาวไทยและชาวลาว ด้วยอุปนิสัยที่รักสันโดษ มักน้อย ท่านชอบอยู่อย่างเงียบๆ ในกุฏิเล็กๆ มีปกติอยู่ในองค์ภาวนาพระกรรมฐาน “วิชาแก้วสี่ดวง” ซึ่งผู้ที่ฝึกสำเร็จจะสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ เป็นวิชาที่สืบทอดกันในดินแดนแถบนี้ จึงไม่แปลกที่ พระเถราจารย์ เหล่านี้จะมีอิทธิฤทธิ์ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินผิวน้ำ ย่นระยะทาง ห้ามฟ้าห้ามฝน เสกพยนต์รูปสัตว์ ฯลฯ
ญาท่านเภา ได้สร้างวัตถุมงคลเป็น นวด (สีผึ้ง), ปลัดขิก, พระคำตัน (พระที่หล่อจากทองคำบริสุทธิ์ทั้งองค์) เป็นของที่ประสิทธิ์ให้เฉพาะตัว มีอานุภาพเป็นที่เลื่องลืออย่างกว้างขวาง ถึงกับชาวลาวพูดกันติดปากว่า...“มีพระคำตันแอ่นอกให้ยิงได้เลย”
สำหรับเครื่องรางของท่าน อาทิ วัวธนู หรือ พญาช้างธนู ก็ไม่เหมือนของใคร และไม่มีใครทำได้เหมือน เป็นเครื่องรางอีกอย่างหนึ่งที่ลูกศิษย์ ต่างเสาะแสวงหากันมาก คนที่ได้รับมีเฉพาะลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น
ประสบการณ์ของ “พญาช้างธนู” นั้น โดดเด่นทางป้องกันบ้านเรือนและภยันตรายต่างๆ เป็นอย่างดี ป้องกันภูตผีปีศาจ และสิ่งอัปมงคลได้สารพัด นอกจากนี้ยังมีผู้เชื่อกันว่าสามารถล่องหนหายตัวได้ด้วย
ส่วนวัตถุมงคลประเภท เหรียญ มีอยู่ ๒ รุ่นคือ เหรียญรูปเหมือนหลังเต่า รุ่นแรก และเหรียญรุ่น ๒ พระอุปคุตมหาเถระ รุ่น “ปราบมารบันดาลสุข” ด้านหน้าเป็นรูปจำลองของพระอุปคุตมหาเถระเจ้า พระอรหันตสาวกผู้เป็นเลิศด้านการปราบพญามาร ขจัดอุปสรรคสิ่งชั่วร้าย และอุดมลาภ มือขวาทรงบัว มือซ้ายทรงบาตร ประทับบนเรือนแก้วบัลลังก์บัว อธิษฐานจิตปราบมาร ด้านหลังเป็นยันต์ "สายรกพระพุทธเจ้า" หรือสายแห่พุทธเจ้า เป็นตำราวิชาโบราณของชาวอีสาน ลุ่มน้ำโขง มีพุทธคุณทางด้านค้ำคูณคุ้มครองป้องภัย ขจัดอุปสรรค ป้องกันอันตราย แก้คุณ แก้ไสย เรียกโภคทรัพย์
ของเหล่านี้ไม่มีจำหน่ายใดๆ ทั้งสิ้น สร้างแจกเป็นที่ระลึกในหนังสือประวัติท่านชื่อ “เปิดตำนานพระอภิญญาศักดิ์สิทธิ์พระผู้มีฤทธิ์แห่งลุ่มน้ำโขง” ที่ท่านแจกให้เป็นทานเท่านั้น
วัตถุมงคลของ “ญาท่านเภา” ทุกรุ่นท่านสร้างไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นเหรียญหรือเครื่องรางของขลัง เพราะท่านมีความตั้งใจทำเป็นพิเศษ เรียกว่า “ไม่ดีไม่ทำ ไม่ขลังไม่แจก” ใครได้ครอบครองถือว่า โชคดีที่สุด
(ขอขอบพระคุณ คุณเอก นาครทรรพ และครอบครัว “นาครทรรพ” ผู้ให้ข้อมูลบทความนี้)


ราคา 950 บาท ท่าน Livelight

 

2029. เหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียว แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ สำนักสงฆ์ห้วยทราย อำเภอ คำชะอี มุกดาหาร แม่ชีแก้วเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น และได้รับการอบรมธรรมะโดยหลวงตามหาบัวจนบรรลุธรรม เหรียญนี้ถูกจัดสร้างเพื่อแจกในงานฉลองเจดีย์คุณแม่ชีแก้ว โดยมีหลวงตามหาบัวเป็นองค์ประธาน ปลุกเสกโดยหลวงปู่จาม มหาปุญโญ และหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสโก วัดป่านาคำน้อย อุดรธานี ( ศิษย์หลวงตามหาบัว ) ท่านเป็นหลานแม่ชีแก้วครับ

มาเป็นคู่ครบชุด พิมพ์ใหญ่ + พิมพ์เล็ก สวยๆครับ



ส่วนหนึ่งของพระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๔๙ (บ่าย)
เทศน์อบรม ณ สำนักชีบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

แม่ชีแก้ว พูดตามภาษาของธรรม ไม่เอากิเลสมาแย่งมาชิงมากีดมาขวาง ก็พูดว่าแม่ชีแก้วนี้ ก็คือพระอรหันต์องค์หนึ่งนั่นเอง อัฐิของแกได้กลายเป็นพระธาตุอย่างละเอียดลออประจักษ์ใจให้เห็นแล้ว ทางสายตาประชาชนทั่วๆ ไป ทางด้านจิตใจก็สิ้นเสร็จลงไปแล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ เป็นปีที่แกผ่านพ้นอุปสรรค แดนนรกของวัฏจักร ไปเป็นเวลาจนกระทั่งถึงป่านนี้ นานมาแล้วแหละ นี่อัฐิของแกเวลาล่วงไปแล้ว ก็ได้กลายเป็นพระธาตุขึ้นมา จึงว่าเป็นผู้สมควรที่จะก่อเป็นเจดีย์ขึ้นมาให้ประชาชนทั้งหลายได้กราบไหว้บูชา

วันนี้เราเป็นมงคลทั่วหน้ากัน แล้วมาทั้งใกล้ทั้งไกล เราสละชีวิตจิตใจ หน้าที่การงานทุกอย่างมาแล้ว เพื่อบูชาคุณกราบไหว้อัฐิธาตุของแม่ชีแก้ว โดยพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ นำหน้า หรือเป็นแกนนำอยู่ในนั้นด้วย เรียกว่าเราได้กราบทั้งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระสงฆ์ก็คืออย่างแม่ชีแก้วนี่ก็เป็น สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ โดยสมบูรณ์แล้ว ไม่ใช่ว่าผู้หญิงมาเป็นสรณะ ความบริสุทธิ์ของจิตดวงนั้น จิตดวงนั้นไม่นิยมว่าเป็นเพศหญิงเพศชาย นั่นละเป็นสรณะของโลก เราก็ได้มากราบไหว้บูชาสรณะอันนั้นเข้าสู่ดวงใจของเรา นับว่าสมมักสมหมายที่ได้พากันมาทั้งใกล้ทั้งไกล ไม่เสียท่าเสียที ไม่เสียเวล่ำเวลา มาได้มรรคได้ผลตามเจตนาของเราที่มา


ราคา 750 บาท ท่าน songsakth

 

2030. เหรียญรุ่นเเรก หลวงพ่อสมเกียรติ ชิตมาโร วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิต (ถ้ำตาลเลียน) บ้านทุ่งตาลเลียน ตำบลตาลเลียน อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี ปี 2558 สวยๆ สร้างน้อย หายากครับ ตอนนี้วัตถุมงคลของท่านกำลังเป็นที่เเสวงหาของลูกศิษย์ลูกหาครับ



ท่านถือกำเนิดเมื่อวันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม ๒๔๙๘ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม ท่านเกิดในสกุล “จันทร์วงศ์” เป็นบุตรชายคนที่ ๔ ในจำนวนพี่น้อง ๕ คน ณ บ้านสร้างเสี่ยน ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู สมัยเมื่อเกิดเป็นทารกแรกคลอดมีสายรกพันคอและเฉวี่ยงบ่าคล้ายสายสะพายบาตรออกมาด้วย บิดาท่านจึงอุทานออกมาว่า ลูกคนนี้ต้องได้บวชเป็นพระแน่นอน เมื่อเติบใหญ่ท่านพระอาจารย์สมเกียรติได้เคยบอกเพื่อน ๆ ว่า ถ้าอายุครบ ๒๑ ถึงอายุเกณฑ์ทหารแล้ว ถ้าจับไม่โดนใบแดง ติดทหาร ท่านจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ นี่เป็นสัจจะวาจาที่ท่านตั้งไว้เป็นคำสัตย์

หลังจากไม่ติดทหาร ท่านจึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ณ พัทสีมาวัดจันท์ประสิทธิ์ บ้านสร้างเสี่ยน ตำบลหนองบัวใต้ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีหลวงปู่บุญมา สุชีโว วัดป่าสุขเกษม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองสูน สุธัมโม เป็นพระผู้สอนนาค และเป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์จันทรลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ชิตมาโร” แปลว่า “ผู้พิชิตมาร”

ภายหลังอุปสมบทหลวงปู่หวัน จุลปัณฑิโต แห่งวัดถ้ำกลองเพล ได้ขอให้พระอาจารย์สมเกียรติ ชิตมาโร ขึ้นไปจำพรรษาที่วัดป่าภูเก้า บ้านดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าภูเก้า อยู่ถึง ๓ พรรษา จากนั้นในพรรษาที่ ๔ ท่านได้ไปอยู่ที่วัดป่าประสิทธิสามัคคี (วัดของท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม) บ้านต้าย อำเภอสว่างแดนดิน จังหหวัดสกลนคร พรรษาที่ ๕ อยู่ที่วัดญาณสังวร อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พรรษาที่ ๖ วัดป่าหมากแข้ง(วัดหลวงพ่อผจญ อสโม) อ.วังสะพุง จ.เลย พรรษาที่ ๗ วัดป่าทรายทอง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย พรรษาที่ ๘ กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดจันทร์ประสิทธิที่ท่านอุปสมบท พรรษาที่ ๙ วัดป่าสานตม ธรรมสถานของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย พรรษาที่ ๑๐-๑๑ วัดถ้ำพระเทพนิมิตบ้านทุ่งตาลเลียน อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี พรรษาที่ ๑๒- ๑๓ ท่านปฏิปัติธรรมอยู่ที่ภูลังกากับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ณ วัดถ้ำยานาโพธิ์ อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม พรรษาที่ ๑๔ ได้ติดตามหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ มาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านใหม่ ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี จากนั้นจึงได้กลับมาอยู่ที่วัดถ้ำพระตาลเลียนแห่งนี้ ตั้งแต่พรรษาที่ ๑๕ จนถึงปัจจุบันนี้ พรรษาที่ ๓๘ รวม ๒๔ ปีแล้ว และหลวงพ่อสมเกียรติ ชิตมาโร ท่านยังดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี แทนหลวงปู่คูณ สุเมโธ ที่ละสังขารไปเมื่อช่วงต้นปีด้วยครับ


ราคา 650 บาท ปิดรายการ

 

2031. เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อบุญอุ้ม อาภัสสโร วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม ปี 2551 พิมพ์เล็ก เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ พร้อมเลี่ยมเงินลงยา สวยๆ มากด้วยประสบการณ์ ท่านดังมากในหมู่ทหาร ตำรวจ ทุกปีทหารจะนิมนต์ท่านลงไปให้ขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ครับ


ภาพท่านอุ้ม และดูแลมารดาของท่าน ซึ่งบวชเป็นแม่ชีในวัด และกำลังป่วยอยู่ครับ

"พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร" หรือ "พระครูไพศาลธรรมมงคล" อดีตเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม และเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง หมู่ 5 ต.บ้านแพง อ.บ้าน แพง จ.นครพนม

เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ชาวนครพนมและจังหวัดใกล้เคียงให้ความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระป่าที่สืบสายธรรมจากหลวงปู่มหาเหรียญ ปภาคโร แห่งวัดบ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา

ปัจจุบัน สิริอายุ 55 ปี พรรษา 26




ปี พ.ศ.2551 นายกระจาย เกตุวัฒนเวสน์ พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้จัดสร้างวัตถุมงคล "เหรียญพระอาจารย์บุญอุ้ม รุ่น 1 ดั่งปรารถนา" เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน

การจัดสร้างเหรียญรุ่นดังกล่าว เป็นเนื้อทองคำ ให้ผู้สั่งจอง ก่อนนำรายได้ไปจัดสร้างเหรียญเนื้ออื่นๆ ไว้แจกญาติโยมที่มาร่วมสมทบทุนทำบุญในวัด

เหรียญรุ่นนี้มีเนื้อทองคำ 22 เหรียญ เนื้อเงิน 227 เหรียญเท่ากับศีลพระ เนื้อกษาปณ์และเนื้อตะกั่วชนิดละ 500 เหรียญ เนื้อทองแดงและเนื้อทองแดงมันปูชนิดละ 9,999 เหรียญ ลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงกลมรี เฉพาะเนื้อทองคำและเนื้อเงิน ไม่มีหูห่วง

ด้านหน้าเหรียญ ยกขอบเส้นสันนูน 2 ชั้น ตรงกลางขอบมีจุดไข่ปลาล้อมรอบ กลางเหรียญมีรูปเหมือนพระอาจารย์บุญอุ้มหน้าตรงครึ่งองค์ ซ้ายมือใกล้ใบหูตอกโค้ดตัว "นะ" นะปัดสู่นิพพาน ด้านขวาเหนือตัวเลขเหรียญใกล้ขอบเหรียญชั้นใน ลงจาร ด้านล่างขอบโค้ง เขียนคำว่า "พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภสฺสโร"

ด้านหลังเหรียญ ราบเรียบไม่มียกขอบ ตัวอักษรและรอยจารแกะลงเนื้อเหรียญ ขอบโค้งด้านล่างสลักตัวหนังสือ ระบุวันเดือนปี พ.ศ.สร้าง "๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๑" มีดอกจันประกบ ถัดลงมามียันต์ "สมปรารถนาเมตตามหานิยม" ประกบด้วยตัวเลขไทยจากซ้าย "๑๑๕๗" ด้านขวา "๑๘๒" เป็นเลขประกอบยันต์และมียันต์ประกอบด้านล่าง ถัดลงมาระบุชื่อรุ่น "ดั่งปรารถนา รุ่น ๑" กึ่งกลางวงรีเหรียญจากซ้ายไปขวา ระบุคำว่า "วัดป่าโนนแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม"

เหรียญรุ่นนี้ พระอาจารย์บุญอุ้ม ประกอบพิธีปลุกเสก ในคืนวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันลอยกระทง ในปี พ.ศ.2551 โดยตั้งอ่างน้ำมนต์กลางแจ้ง รอฤกษ์แสงจันทร์ส่องลงไปในอ่างพิธี ก่อนเริ่มพิธีสวดตามโบราณประเพณี


ราคา 950 บาท

 

2032 . เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข (วัดบ้านนาเมือง)
บ้านนาเมือง ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ปี 2530 เนื้อทองแดง สวยๆครับ



ในขณะเรียนชั้นประถมศึกษา โยมมารดาได้พาหลวงปู่บุญมีไปฝากเป็นลูกศิษย์วัดกับ หลวงปู่สีทา ชยเสโน (ซึ่งเป็นหลวงลุง) ณ วัดบูรพา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้ท่านได้มีโอกาสกราบนมัสการรับใช้ใกล้ชิด พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล และพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซึ่งท่านอาจารย์ทั้งสองได้แวะเวียนมากราบนมัสการเยี่ยมหลวงปู่สีทา ชยเสโน พระอุปัชฌาย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระในสมัยนั้น อยู่เสมอ

เมื่อสิ้นหลวงปู่สีทา ชยเสโน ในปีพุทธศักราช ๒๔๖๘ โยมมารดาจึงนำไปบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม) จังหวัดอุบลราชธานี และในระหว่างบรรพชาเป็นสามเณรนั้น พระอาจารย์มั่นได้เมตตานำสามเณรบุญมีติดตามไปจำพรรษาที่จังหวัดสกลนครด้วย สามเณรบุญมีจึงมีโอกาสได้เรียนรู้ ซึมซับปฏิปทาจริยาวัตรของพระวิปัสสนาจารย์อย่างใกล้ชิดตั้งแต่เยาว์วัย ถือได้ว่าท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่นอีกองค์หนึ่ง

เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี หลวงปู่บุญมีได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม) จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๔ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม จุลศักราช ๑๒๙๓ และตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันวิสาขบูชา โดยมี พระเดชพระคุณพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาสว่าง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เพ็ง เป็นพระอนุศาสนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “โชติปาโล” อันมีความหมายเป็นมงคลว่า “ผู้มีแสงสว่างในธรรม”
หลังจากอุปสมบท หลวงปู่บุญมีได้มีโอกาสกราบนมัสการ ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ซึ่งเป็นพระเถระผู้ใหญ่ผู้มีคุณูปการต่อกิจการคณะสงฆ์ภาคอีสาน และท่านเจ้าคุณฯ ก็ได้เมตตาต่อหลวงปู่บุญมี โดยอนุญาตให้ติดตามท่านไปอยู่จำพรรษา ณ วัดบรมนิวาส ราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร และวัดเขาพระงาม (วัดสิริจันทรนิมิต วรวิหาร) ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อีกด้วย

ในช่วงชีวิตสมณเพศของหลวงปู่บุญมี ท่านได้ออกจาริกธุดงค์ไปในสถานที่ต่างๆ ครั้งหนึ่งท่านได้ออกจาริกไปพร้อมกับ พระอาจารย์มหาสว่าง ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่าน โดยจาริกไปประเทศพม่า ลาว เวียดนาม และเลยไปถึงประเทศจีน เมื่อกลับจากประเทศจีน หลวงปู่บุญมีท่านได้ช่วย พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม สร้างวัดป่าสาลวัน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา อีกวัดหนึ่ง

นอกจากนี้หลวงปู่บุญมียังได้มีศรัทธาร่วมสร้างวัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับ ท่านพ่อลี ธัมมธโร เพื่อเป็นศูนย์วิปัสสนากรรมฐานแก่พุทธศาสนิกชน และยังได้ร่วมกับ พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร สร้างวัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ รวมทั้งได้ร่วมกับ พระอาจารย์ดี ฉันโน สร้างวัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี อีกวัดหนึ่งด้วย

ปีพุทธศักราช ๒๔๘๐ หลวงปู่บุญมีเดินทางกลับมายังจังหวัดอุบลราชธานี และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสระประสานสุข โดยท่านได้ทำการพัฒนาก่อสร้างวัดสืบต่อจากพระเดชพระคุณพระศาสนดิลก (เสน ชิตเสโน) เจ้าอาวาสวัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม) ซึ่งเป็นผู้นำพาในการสร้างวัดสระประสานสุขและเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน หลวงปู่บุญมีได้พัฒนาวัดสระประสานสุขซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านให้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาแก่พุทธศาสนิกชนในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียงทั่วไปเรื่อยมาตามลำดับ



วัตถุมงคลของ"หลวงพ่อบุญมี โชติปาโล" ท่านล้วนแต่ได้รับความนิยมหลายรุ่น โดยเฉพาะรูปหล่อรุ่นแรกหลวงพ่อบุญมี สร้างเมื่อปี 2530 มีทั้งพิมพ์ก้นตันและก้นกลวง นอกจาก นี้ วัตถุมงคลหลวงพ่อบุญมี ท่านได้สร้างไว้หลายแบบหลายชนิด อาทิ พระบูชาพระสีวลี หลวงพ่อบุญมี โชติปาโล, พระเนื้อผงรุ่นแรก พิมพ์พระสีวลี เป็นต้น ส่วนความนิยมประเภท เหรียญหลวงพ่อบุญมี รุ่นแรก วัดบ้านนาเมืองจัดสร้างปี 2530 เช่นกัน ปัจจุบันเนื้อทองคำเล่นหากันที่หลักหมื่น เหรียญทองแดงอยู่ที่หลักพัน

ลักษณะพิมพ์ทรงของ เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อบุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข เป็นรูปหยดน้ำมีห่วง ขอบเหรียญเป็นลายกระหนก ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อมีครึ่งองค์ มีตัวอักษรด้านล่างความว่า หลวงพ่อบุญมี โชติปาโล ด้านหลังมีตราสัญลักษณ์ ด้านล่างมีตัวอักษรความว่า วัดสระประสานสุข จ.อุบลราชธานี ด้านพุทธคุณ เหรียญหลวงพ่อบุญมี โด่ดเด่นในเรื่องของแคล้ว คลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม สยบสิ่งอัปมงคลใดๆ ทั้งปวง อยู่ยงคงกระพัน ลาภผลพูนทวี มั่งมีศรีสุข

ราคา 550 บาท ปิดรายการ

 

2033. เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ท่อน ญาณธโร จ.เลย ปี 2533 เหรียญนี้จัดเป็นเหรียญที่สวยเหรียญหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ ได้ทั้งผิวหิ้งและแห้งเก่าแบบผิวปีกแมงทับอมม่วงๆเลยครับ บล็อกนิยม "เหรียญบาง" ครับ

เหรียญนี้ศิษย์สร้างถวายเมื่อปี พ.ศ. 2533 ถือว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของท่านด้านหลังเหรียญเป็นยันต์ประจำองค์ท่านและมีคำมงคลว่า*เมตตา* และในขณะนี้หลวงปู่ท่อนได้รับโปรดเกล้าเลื่อนสมณศักดิ์ จากพระราชาคณะชั้นสามัญที่พระญาณทีปาจารย์เถระเป็น พระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชญาณวิสุทธิโสภณ เหรียญสภาพสวยเดิม ๆ ดูง่าย ๆ ......




หลวงปู่ท่อน เป็นพระเถราจารย์สายกัมมัฏฐาน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจิตตภาวนา การเทศนา และวิทยาคมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

ปัจจุบัน หลวงปู่ท่อน หรือ พระญาณทีปาจารย์ สิริอายุ 78 พรรษา 58 เป็นเจ้าอาวาส วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย

อัตโนประวัติ มีนามเดิม ท่อน ประเสริฐพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2471 ที่บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายแจ่ม และนางทา ประเสริฐพงศ์ เป็นบุตรลำดับที่ 6 จากพี่น้องทั้งหมด 19 คน

ในวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนบ้านหินขาว แต่ด้วยฐานะทางบ้านยากจน ท่านได้ลาออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงาน

ต่อมาได้เรียนต่อที่โรงเรียนผู้ใหญ่ที่บ้านหินขาว สอบเทียบได้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4

หลังจากจบชั้น ป.4 ท่านไม่ได้เข้าศึกษาต่อ เพราะต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ต้องออกมาทำงานหาเลี้ยง

ช่วงวัยหนุ่มฉกรรจ์ เป็นคนติดเพื่อนฝูง กินเหล้าเมายา จีบสาวตามบ้านต่างๆ ในละแวกนั้น ทำให้โยมบิดา-มารดา เป็นกังวลใจมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป บุตรชายคงจะเสียคนเป็นแน่ จึงได้ปรึกษากัน ขอให้บุตรชายบวชเรียน

โยมบิดาจึงนำตัวบุตรชายไปฝากกับหลวงปู่คำดี ปภาโส พระเกจิชื่อดังแห่งวัดป่าชัยวัน จ.ขอนแก่น แต่หลวงปู่คำดีมีข้อแม้ว่า ก่อนบวชจะต้องรักษาศีล นุ่งห่มขาว เจริญภาวนา กินข้าวมื้อเดียวก่อน

ครั้นอยู่ทดสอบจิตใจได้ 5 เดือน หลวงปู่คำดีได้อนุญาตให้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2491 ณ พัทธสีมา วัดศรีจันทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระครูพิศาลสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูคัมภีรนิเทศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระมหาสุพจน์ อุตฺตโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ได้เดินทางไปอยู่กับหลวงปู่คำดี ณ วัดป่าชัยวัน โดยหลวงปู่คำดีเป็นอาจารย์กัมมัฏฐาน คอยสอนให้ทำภาวนา นั่งสมาธิกัมมัฏฐาน เน้นเรื่องสติ สมาธิ และปัญญา

ระยะเวลาผ่านไปนานพอสมควร ท่านได้ช่วยครูบาอาจารย์ แบ่งเบาภาระในการสอนคนที่จะมาบวช ด้วยการสอนขานนาค เป็นต้น ครั้นถึงช่วงออกพรรษา ได้เป็นหัวหน้าเดินธุดงค์เข้าป่าเป็นกิจวัตร

ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสพบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า และได้รับโอวาทอันทรงคุณค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ จากหลวงปู่มั่น ให้เร่งทำความเพียร มิให้ประมาท ชีวิตนี้อยู่ได้ไม่นานก็ต้องตาย

หลวงปู่ท่อน ยังได้มีโอกาสไปกราบเยี่ยมครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต เป็นต้น

หลังจากช่วยงานการครูบาอาจารย์เสร็จสิ้น หลวงปู่คำดี ได้นำหมู่คณะออกวิเวกไปทาง จ.เลย ตอนนั้น หลวงปู่ท่อนบวชได้ 7 พรรษาแล้ว

พ.ศ.2497 หลวงปู่คำดี นำคณะเข้าป่าและถ้ำต่างๆ ได้ภาวนาทำความเพียร ญาติโยมมาฟังธรรมะ และในพรรษานี้ หลวงปู่ท่อนได้อยู่จำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่กับหลวงปู่คำดีด้วย

หลวงปู่ท่อนอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ได้ 2 พรรษา มีญาติโยมมาขอให้ไปโปรดที่วัดถ้ำตีนผา อ.เชียงคาน 1 พรรษา ต่อมาหลวงปู่คำดีเกิดอาพาธเจ็บป่วยด้วยโรคชรา ท่านจึงกลับมาเยี่ยมและช่วยสร้างวัดถ้ำผาปู่ไปด้วย จวบกระทั่ง หลวงปู่คำดีมรณภาพลงอย่างสงบ

พ.ศ.2500 ญาติโยมได้นิมนต์ให้หลวงปู่ท่อนไปอยู่ที่ป่าช้านาโป่ง และได้สร้างเป็นวัดศรีอภัยวัน ในเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ รวมทั้งรักษาความเป็นป่าอย่างสมบูรณ์ไว้

จากนั้นมา หลวงปู่ท่อนได้จำพรรษาที่วัดศรีอภัยวัน จ.เลย ตราบจนถึงปัจจุบัน


ราคา 2,450 บาท ปิดรายการ

 

2034. เหรียญรุ่นเเรกหลวงปู่สีลา อิสสโร วัดป่าอิสระธรรม บ้านวาใหญ่ อำ เภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร ปี 2510 เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง จัดเป็นเหรียญรุ่นเเรก เเละรุ่นเดียว ที่ทันท่าน อัฐิของหลวงปู่กลายเป็นพระธาคุแล้วและเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นแรกๆ ปัจจุบันหายากมาก

เหรียญรุ่นนี้พิธีใหญ่จัดสร้างขึ้นเนื่องในโอกาสงานผูกพัทธสีมาวัดอิสสระธรรม ระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม 2510 ..มีพระเถระสายกรรมฐานมาร่วมปลุกเสกมากมาย อาทิ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นต้น....หลวงปู่สีลานี้.ถ้าท่านไม่แน่จริง สมัยนั้นคงไม่ได้รับนิมนต์เข้าร่วมงานพิธีพุทธาภิเษกงานฉลอง 25 ศตวรรษ กึ่งพุทธกาลเป็นแน่แท้..ท่านเป็นศิษย์ชั้นผู้ใหญ่ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และมีสหธรรมมิก คือพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตตโก แห่งวัดโพธิ์ชัย สามผง ...ท่านมีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสมัยนี้ได้แก่ หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม,หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป,หลวงพ่อสูญย์ เป็นต้น



๏ อัตโนประวัติ

“หลวงปู่สีลา อิสฺสโร” เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กอปรด้วยศีลและธรรม มีศีลาจารวัตรที่งดงาม เป็นพระที่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าและปฏิบัติตามคำสั่งสอนของหลวงปู่ มั่น ภูริทตฺโต พระบูรพาจารย์สายพระป่า

หลวงปู่สีลา มีนามเดิมว่า สีลา กรมแสนพิมพ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2429 ณ บ้านวาใหญ่ ต.วาใหญ่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ท่านเป็นบุตรคนโต โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายจันทรชมภู และนางบัวทอง กรมแสนพิมพ์ อดีตเคยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอิสระธรรม บ้านวาใหญ่ ต.วาใหญ่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

๏ การอุปสมบท

ครั้นอายุย่างเข้าวัยหนุ่ม ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุในทางพระพุทธศาสนา ฝ่ายมหานิกาย ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ชัย ต.วาใหญ่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เมื่อปี พ.ศ.2452 โดยมีพระครูหลักคำ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูศรีธรรมา เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ครั้นอุปสมบทแล้ว ได้ออกแสวงหาที่สงบวิเวกในการบำเพ็ญสมณธรรม โดยไปตามป่าเขาลำเนาไพร ต่อมาได้เดินธุดงค์ไปพบหลวงปู่เกิ่ง อธิมุตฺตโก ซึ่งมีพรรษาแก่กว่า และได้เป็นสหธรรมิกอยู่ร่วมศึกษาสำนักเดียวกัน

พ.ศ.2469 หลวงปู่เกิ่ง อธิมุตฺตโก ชักชวนหลวงปู่สีลาไปอยู่ศึกษาธรรมและข้อวัตรปฏิบัติกับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ณ เสนาสนะป่าบ้านหนองลาด ต.หนองลาด อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ครั้นได้อยู่ศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านทั้งสองก็บังเกิดความเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก จึงได้ติดตามหลวงปู่มั่น ไปอยู่บ้านสามผง ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนมด้วย

๏ ญัตติเป็นธรรมยุต

หลวงปู่สีลา ได้เข้าญัตติเป็นพระธรรมยุต เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2469 ณ อุทกุกเขปสีมา (โบสถ์น้ำ) ที่หนองสามผง บ้านสามผง ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม โดยมีหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต นั่งเป็นประธานสงฆ์, พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระครูชิโนวาทธำรง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์มหาปิ่น ปญฺญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังจากที่ญัตติเป็นพระธรรมยุตแล้ว ท่านได้อยู่ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติกับหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต ณ เสนาสนะป่า บ้านสามผง รวมทั้งได้ออกเดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปตามป่าเขาลำเนาไพร เดินจงกรม นั่งสมาธิภาวนา จนได้รับผลการบำเพ็ญสมณธรรมสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา

๏ สร้างวัดอิสระธรรม

หลวงปู่สีลา มาตั้งวัดอิสระธรรม บ้านวาใหญ่ ต.วาใหญ่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร เพื่อให้เป็นสำนักปฏิบัติอบรมกรรมฐาน สอนศีลธรรมแก่ญาติโยม ให้รู้จักธรรมะคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนให้ชาวบ้านเลิกนับถือผี แล้วหันมาเคารพนับถือพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกสูงสุดแทน

๏ การมรณภาพ

หลวงปู่สีลา ได้ถึงแก่มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคปอด ณ โรงพยาบาลจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2510 สิริอายุรวม 81 พรรษา 41 ท่ามกลางความเศร้าสลดของบรรดาคณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นยิ่งนัก

หลวงปู่สีลา นับว่าท่านได้เสียสละอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา เป็นพระที่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย คำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อย่างเคร่งครัด สมควรที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายควรจะดำเนินตามแบบอย่างที่ท่านพาดำเนินมา เพื่อก่อให้เกิดความสงบสุข ร่มเย็นในการดำเนินชีวิต คิดและทำในสิ่งที่ถูกต้อง นับถือและเชื่อในสิ่งที่ถูกต้อง ดั่งคำสอนของท่าน


ราคา 1,750 บาท ปิดรายการ

เหรียญสภาพถือว่าสวย ยังไม่ผ่านการใช้ กระไหล่หลุดตามกาลเวลากว่า 51 ปีครับ

 

2035. เหรียญรุ่นเเรก เเละรุ่นเดียว หลวงปู่ศรีหมอก แห่งวัดพระบาทเวินปลา" หรือ พระครูพิมลชัยคุณ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ปี 2528 สุดยอดเหรียญดี ประสบการณ์สูงเเห่งลุ่มน้ำโขง เมื่อก่อนเคยถึง 3-4 พันบาทครับ

วันนี้ ขออนุญาตขึ้นต้นเป็นเจ้าบทเจ้ากลอนหน่อยครับ ช่วงนี้ชาวนักนิยมสะสมพระเครื่องเมืองนครพนม กำลังคึกคัก ตามเก็บเหรียญ "หลวงปู่ศรีหมอก แห่งวัดพระบาทเวินปลา" หรือ พระครูพิมลชัยคุณ ครับ ​

มีเสียงเล่าขานถึงประสบการณ์หลายๆ เหตุการณ์ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการตามลำแม่น้ำโขง หรือ หน่วย นปข. หรือหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ไโขงในปัจจุบันครับ รวมถึงประสบการณ์อื่นๆ เล่าต่อกันมา

เท่าที่ทราบ หลวงปู่ท่านมีประวัติเชื่อมโยงกับหลวงปู่คำพันธ์ โฆสะปัญโญ เกี่ยวกับเรื่อง พญานาค และปฐวีธาตุ วัดพระบาทเวินปลาอยู่ที่บ้านเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน มีรอยพระพุทธบาท ในโขดหิน บนเกาะกลางลำแม่น้ำโขง

"หลวงปู่ศรีหมอก" มีวัตถุมงคลเพียงไม่กี่รายการครับ ได้แก่ เหรียญ พระสมเด็จ และตะกรุด เท่านั้นครับ สร้างปี 2528 ท่าน มรณะภาพ เมื่อปี 2532 วัตถุมงคลของท่านเพิ่งจะมาคุ้นหู เล่าลือกันเมื่อไม่กี่ปีครับ แต่ละรายการล้วนแต่มีเสียงเล่าลือเรื่องประสบการณ์ ซึ่งในที่นี้จะขอละไว้ให้ผู้รู้มาเติมข้อมูลให้ครับ ไปไหนก็มีคนถามหา ราคาก็ไม่แพงครับแต่ไม่ค่อยมีพระให้เล่น

ตัดสินใจหาเก็บครับ ได้มาอย่างละอันก็มีความสุขมากแล้วครับ สำหรับ "หลวงปู่ศรีหมอก แห่งวัดพระบาทเวินปลา" ท่านที่มีข้อมูลดีๆ เชิญครับ ผมรู้พองูๆ ปลาๆ เท่านี้ครับ


ราคา 950 บาท ท่าน j999

 

2036. เหรียญหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ออกวัดป่าธรรมวิเวก อ.วังสะพุง จ.เลย ปี 2537 สวยๆ "ลาภผลพูนทวี" เหรียญสวยๆ ขนาดเท่าเหรียญรุ่นเเรก หายาก พร้อมเลี่ยม น่าเก็บครับ

ราคา 450 บาท ท่าน อาทิตย์03

 

ขอจอง 2029. เหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียว แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
มาเป็นคู่ครบชุด พิมพ์ใหญ่ + พิมพ์เล็ก สวยๆครับ

 

ขอจองครับ

 

จอง2028ค่ะ

 

รายการที่ 2010
เหรียญหล่อหลวงปู่ชอบ
เหรียญที่ 2 ยังอยู่ไหมครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ไม่อยู่เเล้วครับผม

 

2037. พระสมเด็จวัดผาสองห้อง รุ่น 2 จ.อุดรธานี สุดยอดพระสมเด็จมวลสารพ่อเเม่ครูอาจารย์ ประกอบด้วย เกษา หลวงปู่เกล้า หลวงปู่เเสง หลวงปู่สมศรี หลวงปู่คูณ หลวงปู่บุญมี หลวงปู่อุทัย หลวงพ่อจันทร์เรียน กระเบื้องหลังคากุฎิหลวงปู่มั่น ผงอังคารหลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่จันทร์โสม หลวงปู่ขาย หลวงปู่คำตัน ไม้สีฟันหลวงพ่อจันทร์เรียน ข้าวก้นบาตรหลวงตามหาบัว หลวงปู่ลี หลวงปู่เพียร หลวงปู่บุญมี หลวงปู่คูณ ชานหมากหลวงตามหาบัว หลวงปู่ลี ลูกประคบหลวงปูเพียร ว่าน108 ผงอิทธิเจหลวงปู่ประสิทธิ์ หินหยก หลวงพ่อนิพนธ์ เเร่ทองคำ เเร่เหล็กน้ำพี้ ดอกไม้บูชาพระ เเละผงธูป

ว่ากันว่า พระรุ่นนี้พระอาจารย์วัดผาสองห้องที่สร้าง ได้นำขึ้นขอเมตตาจากหลวงพ่อจันทร์เรียน วัดถ้ำสหาย เเละ หลวงปู่ลี วัดภูผาเเดง เเล้วเเจกญาติโยมที่วัด ส่วนใหญ่คนที่ได้จะได้จากวัดภูผาเเดงครับ

ราคา 400 บาท ท่าน จิตตานุปัสสนา

 

2037. พระสมเด็จวัดผาสองห้อง รุ่น 2 จ.อุดรธานี
จองครับ..

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ