..ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการครับ..

2014. ช้างโภคทรัพย์ หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง จ.อุดรธานี สร้างเป็นรุ่นแรก และรุ่นเดียว พ.ศ. 2555 เนื้อทองเเดง พร้อมกล่อง สภาพสวยงามมากครับ มากด้วยพุทธคุณผ่านการเมตตาจากพ่อเเม่ครูอาจารย์หลายรูปมากครับ

ราคา 450 บาท ท่าน supachaipnu

 

2015. ล็อกเก็ตรุ่นเเรก มหาอุบาสิกาคุณเเม่จันดี โลหิตดี วัดป่าบ้านตาด สีทอง ด้านหลังมีเกศาของคุณเเม่ หายากสุดๆครับ คุณเเม่จันดี ท่านเป็นพระอริยะสาวิกา เเละเป็นน้องสาวเเท้ๆ ขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ ครับผม



โอวาทธรรมคำสอนคุณแม่จันดี โลหิตดี

“..ผู้ใดหมั่นพิจารณาจิต ผู้นั้นจะพบธรรมแท้ สุขแท้ นั่นคือ ที่สุดของผู้หยุดวัฏฏะ..”

ประวัติและปฏิปทาคุณแม่จันดี โลหิตดี วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

คุณแม่จันดี โลหิตดี ท่านถือกำเนิดตรงกับวันพุธที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ ในครอบครัว พ่อแม่ และพี่น้องเดียวกันกับพระหลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด มีพี่น้องซึ่งมีชีวิตอยู่ จนโตคือ พี่ชาย ๔ คน พี่สาว ๔ คน และ น้องสาว ๑ คน ท่านเป็นคนที่ ๙ ท่านเป็นน้องสาวคนเดียวที่สละบ้านเรือนออกปฏิบัติ ถือศีลภาวนา ที่วัดป่าบ้านตาด

เมื่อเป็นสาวรุ่น มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะปฏิบัติ ถือศีลภาวนา จึงขอมารดาออกบวชเป็นแม่ชีแต่มารดาไม่อนุญาต และได้ให้แต่งงานมีครอบครัว ช่วงเวลาที่ครองเรือน มีบุตร ๔ คน ชาย ๑ คน หญิง ๓ คน โดยที่ยังตั้งใจภาวนาและถือศีลอย่างเคร่งครัด ยิ่งพระหลวงตามาตั้งวัดป่าบ้านตาดยิ่งได้กำลังใจปฏิบัติภาวนา ติดขัดอะไรก็กราบเรียนถามตอนท่านเข้ามารับบิณฑบาตรในหมู่บ้าน ด้วยมีอาชีพชาวนาซึ่งต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นา...ท่านจึงสร้างทางจงกรมเอาไว้ อาศัยทำนาไปด้วยภาวนาไปด้วยตลอด

เมื่อขึ้นจากการทำนา ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ท่านจะเดินจงกรมจนดึก...มีครั้งหนึ่งคุณแม่ชีแก้วไปเยี่ยมท่านที่นา เห็นทางจงกรมมีรอยเดินจนทางเป็นร่องเป็นมัน ท่านได้พูดไว้ว่า “จันดี เจ้าอยู่ไหน ก็มีเครื่องหมายของพระพุทธเจ้าอยู่ทุกที่ มิน่า..ข้าวของเจ้าถึงได้มากกว่าผู้อื่น”



เช้าวันหนึ่ง พระหลวงตาไปรับบิณฑบาตรในหมู่บ้านท่านได้ถาม “ภาวนา เป็นยังไง”

คุณแม่จันดีกราบเรียนว่า

“ฝันแปลกมาก ฝันว่าพระหลวงปู่มั่น ชวนให้ไปกับท่าน แต่ในฝันเป็นห่วงลูกคนเล็ก จึงขอไปดูลูกก่อน จะตามไปทีหลัง” พระหลวงตาให้อุบาย “เอ้า ให้มึงคิดตัดสินใจเอา ถ้าห่วงลูก ก็ตามพระหลวงปู่มั่นไปไม่ได้” คำพูดของพระหลวงตา ทำให้ต้องตั้งถามตัวเองว่า “พระหลวงปู่มั่นมาโปรดแท้ ๆ คนแปลความฝันก็เป็นพระหลวงตา เราติดคาอะไร ห่วงอะไร-อาลัยอะไร” นั่นทำให้ท่านคิดและตัดสินใจได้เร็วขึ้น ท่านจึงขออนุญาตสามีและลูก ๆ ทุกคน เพื่อออกมาปฏิบัติ ถือศีลภาวนา อยู่วัดป่าบ้านตาด เมื่อพ.ศ. ๒๕๒๔

โดยอาศัยที่กระท่อมน้อยในป่าทึบ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ยืนต้นเป็นเงาร่มครึ้ม พื้นเบื้องล่างเต็มไปด้วยต้นข้าว สารหนาแน่นท่านได้ถือศีล ๘ อย่างเคร่งครัด ท่านกล่าวไว้ว่า
“ท่านบวชใจแทนศีล คือใจที่มีเจตนางดเว้นการทำความผิดเมื่อใจมี เจตนา งดเว้นการทำความผิด เมื่อใจมีเจตนาทำความถูกต้อง ศีลเป็นอันเดียวกับใจ ใจรักษาศีล ดูศีลดูใจตัวเอง ศีลเป็นใจที่มีเจตนางดเว้นการทำความชั่วทั้งปวง ดูศีลดูใจ สำรวจความผิดที่เกิดจากใจของตัวเอง แล้วอบอุ่น หนักแน่น มั่นคง มั่นใจไม่มีที่ต้องติตัวเองเรื่องศีล”

คุณแม่จันดีเล่าว่า “การปฏิบัติภาวนา ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ช่วยแนะสอนจะช้าได้เพราะ ช่วงปฏิบัติภาวนา เรารู้เห็นอะไร มันก็ชวนให้หลงให้ติด เพราะเป็นความอัศจรรย์ ที่เราเกิดมาไม่เคยพบ-เห็นในชีวิต และไม่มีแสดงอยู่ที่ไหนในโลก นอกจากผู้ภาวนาแต่ละรายจะรู้เองเห็นเองจากการปฏิบัติของตัวเอง รู้ขึ้นในใจของตัวเอง เป็นสันทิฏฐิโกประกาศป้างขึ้นที่หัวใจ ไม่ต้องถามใคร... ไม่ต้องให้ใครมาโกหก เราได้ พิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ไม่ลี้ลับ ไม่ปิดบัง เปิดเผยเสมอ มีอยู่ตลอดกาล...ธรรมความจริง ธรรมไม่ตาย เปิดเผยสง่างามอยู่ทุกกาล ทุกสมัยตลอดมา และตลอด ไปเป็นแต่ผู้คนจะมีจิตยินดีและต้องการหรือไม่” ท่านให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติภาวนา ได้ถูกต้องแม่นยำไม่ผิดเพี้ยนจากหลักความจริงตามธรรมคำสอนของพระหลวงตามหาบัวทุกอย่างท่านเมตตาเล่าถึงการปฏิบัติของท่านที่ยากลำบาก แม้จะไม่ได้ขึ้นภูเขา เข้าป่า แต่ธรรมที่ท่านได้มาก็แลกด้วยชีวิต

ความตอนหนึ่ง ได้ประกาศขึ้นในจิตท่านว่า“ให้เอาชีวิตแลกธรรม” ตอนนั้นเอง พระหลวงตาก็บอกให้ท่านเร่ง “มึงอย่าเสียดายชีวิตนะ เร่งเลย ๆ ...”ท่านจะพูดเสมอว่า “พระหลวงตาสอนให้แม่ปฏิบัติมาอย่างนี้ ถ้าเป็นคำพูดของพระหลวงตาแล้ว ยิ่งการปฏิบัติภาวนา จะคลาดเคลื่อนไปไม่ได้เลย...”

ในคืนวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๕ เวลา ๕ ทุ่มครึ่งเป็นคืนที่ ฟ้าครึ้ม และลมพัดแรงมากท่านกราบพระแล้วนั่งภาวนาข้อธรรมได้ผุดขึ้นในจิตว่า
“อายะตะนะนั้นมีอยู่ แต่ไม่มีดิน-น้ำ-ไฟ-ลม ไม่มีจุติเคลื่อน ไม่มีที่ไป ไม่มีที่มา ไม่มีอารมณ์ ไม่มีอารมณ์ นั้นแหละคือที่สุดแห่งทุกข์”
จิตตอนนั้นจ่อเฉย ๆ เหมือนไม่พิจารณาอะไรเสียงต้นขนุนใหญ่ที่แห้งตาย อยู่ข้างกุฏิ สั่นไหวเสียงดังลั่นเพราะลมแรงท่านคิดว่าคงหักทับกุฏิ และท่านก็คงตายพร้อม ๆ กันอวิชขาดกระเด็นออกจากจิต ขณะนั้นรู้ว่า อวิชชาเหนียวแน่นมากพร้อมกับก้นกระแทกพื้นสูง ๑ ศอก โลกธาตุหวั่นไหวแผ่นดินสะเทือน เสียงดังสนั่น ถึด.. ถึด .. ถึด .. ถึด..แผ่นฟ้าม้วนกลับลงมา พันกันกับแผ่นดินม้วนรวมกัน แล้วจึงแยกออกจากกัน โลกธาตุหวั่นไหว พร้อมกับเสียงอนุโมทนาสาธุการ จากสวรรค์ทุก ๆ ชั้น ชั้นพรหมทุก ๆ ชั้น ลงถึงพื้นบาดาล ขวาซ้ายสถานกลาง ร่วมอนุโมทนา สาธุการ เสียงปี่พาทย์ บรรเลงขับกล่อม กระหึ่มก้องเสียงประกาศก้องขึ้นที่จิต

“ว่าง-วางเป็นจิตพุทธะ จิตบริสุทธิ จิตเป็นธรรมชาติ”

ขณะที่อวิชชาขาดออกจากจิต พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกทุก ๆ พระองค์โดยเฉพาะพระหลวงตาได้ช่วยหนุนจิตท่าน ทุก ๆ พระองค์ ทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน ไม่มีอะไรก่อน ไม่มีอะไรหลัง มีอะไรอีกมากที่ไม่สามารถพูดให้ฟังได้หมดเพราะของเหนือโลก เจอแล้วจะรู้เอง

ท่านบอกว่าไม่เหลือวิสัย มีอยู่ในใจของทุกคน อย่ากลัวตาย กิเลสมันกลัวตาย รอดตายจึงได้ธรรม มันไม่ตายหรอก คนกล้าตาย ไม่กลัวตาย มีแต่กิเลสนั่นหละจะตายจากหัวใจ... คืนนั้น ท่านกราบน้อมถึงคุณพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ถึงคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ โดยเฉพาะพระหลวงตา ทั้งเป็นครูอาจารย์ เป็นพ่อ เป็นพี่ชายในสายโลหิตเดียวกันในชาติปัจจุบัน

คืนนั้น ท่านไม่นอนทั้งคืน...เมื่อพบพระหลวงตาอีกครั้ง จึงได้กราบเรียนท่านถึงสภาวะธรรมทั้งหมด ที่เกิดขึ้น…พอกล่าวจบ พระหลวงตาพูดขึ้นว่า

“ อ้าย(พี่) หมดห่วงแล้ว...”



ราคา 1,750 บาท ท่าน shaj

 

ปิดรายการนี้ครับ

 

ปิดรายการนี้ครับ

 

ขอจองครับ

 

จอง2010. เหรียญหล่อรุ่นแรกตอกโค๊ต หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จังหวัด เลย ปี 2534 ที่ระลึกอายุครบ 90 ปี สวยๆ หายาก เป็นเนื้อทองระฆัง ผสมมวลสารหลายชนิคครับ น้ำทองเห็นชัด

สวยงามครับ

มี 2 องค์ ราคาองค์ละ 350 บาท

จอง 2 องค์ครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

2016. เหรียญรุ่นเเรก หลวงพ่อสมหมาย อตฺตมโน วัดป่าสันติกาวาส ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ปี 2553 เนื้อทองฝาบาตร สวยๆ หายากครับ ลูกศิษย์ตามเก็บจนหมดครับ




อัตโนประวัติ
“หลวงพ่อสมหมาย อตฺตมโน” หรือ “พระครูเมตตากิตติคุณ” เป็นพระผู้ใหญ่ที่ชาวบ้านชาวเมืองอุดรธานี กราบไหว้ยกย่องนับถือในวัตรปฏิบัติและปฏิปทา รวมทั้ง การเทศนาสอนธรรมกัมมัฏฐานแก่ญาติโยม ท่านบริหารจัดการวัดตามแนวของหลวงปู่บุญจันทร์ กมโล อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสันติกาวาส ด้วยการสร้างศรัทธาปสาทะให้ญาติโยมรอบวัดเลื่อมใสก่อน ส่วนการปฏิบัติธรรมได้ยึดตามแนวหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต คำเทศนาหรือบทธรรมของท่าน ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ภัยในชีวิตประจำวันของ ผู้คน

หลวงพ่อสมหมาย อตฺตมโน มีนามเดิมว่า สมหมาย จันทรรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พุทธศักราช 2493 ตรงกับวันศุกร์ แรม 8 ค่ำ เดือน 8 ปีขาล ณ บ้านไชยวาน ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายขันตี และนางสุดี จันทรรักษ์ ปัจจุบัน สิริอายุได้ 66 พรรษา 46 (เมื่อปี พ.ศ.2560) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสันติกาวาส บ้านหนองตูม ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี

ทุกวันนี้ หลวงพ่อสมหมาย ยังปฏิบัติศาสนกิจได้เป็นตามแนวปฏิปทาของหลวงปู่บุญจันทร์ ยังปฏิบัติตามแบบอย่างที่ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นนำพาดำเนินไป

ปฏิปทาของหลวงพ่อสมหมาย จึงเป็นดั่งดวงประทีป ดวงชีวิต เป็นหลักชัยและหลักใจของลูกหลานชาวเมืองอุดรธานี และผองชาวพุทธตลอดไปตราบนานเท่านาน เป็นพระสุปฏิปันโนที่ควรค่าแก่กราบไหว้โดยแท้



มี 2 เหรียญ ราคาเหรียญละ 850 บาท

1. ปิดรายการ




2.ปิดรายการ

 

โอนเงินรายการ 2010. เหรียญหล่อรุ่นแรกตอกโค๊ต หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เรียบร้อยครับ
ที่จัดส่ง PM
ขอบคุณครับ

 

Close

2014. ช้างโภคทรัพย์ หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง จ.อุดรธานี สร้างเป็นรุ่นแรก และรุ่นเดียว พ.ศ. 2555 เนื้อทองเเดง พร้อมกล่อง สภาพสวยงามมากครับ มากด้วยพุทธคุณผ่านการเมตตาจากพ่อเเม่ครูอาจารย์หลายรูปมากครับ

ราคา 450 บาท

 

ได้รับพัสดุเรียบร้อยแล้วครับ
ขอบคุณครับ

 

รายการ2011,2012 เหรียญ ลป.ชอบ ลต.มหาบัว โอนแล้ว รายละเอียดแจ้งในกล่องข้อความแล้ว ขอบคุณครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ พอดีพึ่งกลับจาก กทม จะรีบดำเนินการให้ทุกๆท่านนะครับ

 

2017.พระกริ่งปัญญาบารมี พระกริ่งรุ่นแรก หลวงปู่เสน ปัญญาธโร วัดป่าหนองแซง จ.อุดรธานี ปี 2537 เนื้อนวะโลหะ ก้นเงิน พร้อมกล่องเดิม หายากครับ



หลวงปู่เสน ท่านเป็นลูกศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่บัว สิริปุญโณ วัดป่าหนองแซง ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่นครับ พอหลวงปู่บัว มรณะภาพลง หลวงปู่เสน ท่านก็รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าหนองแซงเป็นองค์ต่อมาเลยครับ หลวงปู่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ สายท่านพระอาจารย์มั่น มีข้อวัตรปฏิบัตรที่เคร่งครัด และท่านมีบารมีสูงมากครับผม



มี 2 องค์ ราคาองค์ละ 650 บาท

1. ท่าน j999




2. ปิดรายการ

 

2018. เหรียญหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ปี 2554 ที่ระลึกงานบุญประทายข้าว (งานบุญประจำปีวัดป่าบ้านตาด) เนื้อเงินลงยาสีน้ำเงินหลังเรียบ มีจาร + เงินลงยาสีเเดง รวม 2 เหรียญ มาเป็นชุดกล่องกำมะหยี่ สวยๆ สุดคุ้มครับ งานนี้พิธีใหญ่ พ่อเเม่ครูอาจารย์ร่วมพิธีเยอะมากครับ

ราคา 1,450 บาท ท่าน nataim

 

2019. พระผงว่าน 108 หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ที่ระลึกอายุ 94 ปี พ.ศ.2550 มากด้วยมวลสารพ่อเเม่ครูอาจารย์ครับ กล่องเดิม พร้อมใบรายละเอียดเดิมๆครับ รุ่นนี้หายากนะครับ ไม่ค่อยจะได้เจอกันบ่อยๆ

ราคา 450 บาท ท่าน nataim

 

2020. เหรียญหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลัง หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก พระลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโณ พระผู้มีอำนาจจิตอัศจรรย์หยั่งรู้อดีตและอนาคต พระบริสุทธิ์เปรียบประดุจดังทองคำ เป็นพระที่หลวงตามหาบัวยกย่องและกล่าวถึงบ่อยๆ และยังเปรียบเทียบ
ว่าถ้าหลวงตาคือแขนขวา หลวงพ่อสังวาลย์ คือแขนซ้ายของท่าน

เหรียญรุ่นนี้หลวงตาเมตตาอธิฐานจิตถึง 4 วาระ ครบ


ราคา 450 บาท ท่าน amarin1978

 

2021. เหรียญรุ่นเเรก หลวงปู่รักษ์ เรวโต วัดศรีเมือง จ.หนองคาย ปี 2511 **ศิษย์ยุคต้นพระอาจารย์มั่น เนื้อกระไหล่ทอง พิธีใหญ่ ซึ่งมีหลวงปู่ฝั้น อาจาโร , หลวงปู่ตื้อ อัจลธัมโม และ หลวงปู่เทศก์ เทสรังสี อธิฐานจิตปลุกเสก ร่วมกับพระสงฆ์สายกรรมฐานอีกหลายรูป ร่วมปลุกเสก เหรียญสายป่ายุคเก่าน่าเก็บมากครับ


หลวงตามหาบัว กับหลวงปู่รักษ์

-----------------------------------------------------------------------
พระธรรมไตรโลกาจารย์ (หลวงปู่รักษ์ เรวโต) เกิดเมื่อวันที่ 17 เมษายน พุทธศักราช 2450 ณ บ้านขุนตรา ต.ศรีฐานเหนือ อ.เมือง จ.นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว
เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2470 ณ พัทธสีมาวัดบรมนิวาสราชวิหาร ต.ถนนรองเมือง อ.ปทุมวัน จ.พระนคร (ปัจจุบันคือ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร) โดยมี ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมธีรราชมหามุนี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอมราภิรักขิต (ชัย ชิตมาโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระครูวินัยธร (ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และ เจ้าจอมมารดาทับทิม วังมหานาค (สะพานขาว) เป็นผู้ถวายความอุปถัมภ์ในการอุปสมบท หลวงปู่รักษ์เป็นศิษย์เอกพระอาจารย์มั่นที่ท่านพระอาจารย์มั่นร่วมอยู่ในพิธีอุปสมบทให้

พ.ศ.2547 พระธรรมไตรโลกาจารย์ ได้ละสังขารลงอย่างสงบ สิริอายุรวมได้ 98 พรรษา 77

หลวงปู่รักษ์ถือเป็นศิษย์รุ่นอาวุโสในหลวงปู่มั่น ที่เป็นที่เคารพในสายป่าด้วยกัน


ราคา 650 บาท ปิดรายการ

 

2022. เหรียญรุ่นแรก ญาท่านเภา จันทธัมโม วัดบ้านเวินโพนพิสัย จ.หนองคาย เกจิดังสองฝั่งโขง ผู้สืบทอดวิชาสายธาตุหลวงใต้(สปปลาว) หายากสุดๆครับ



เปิดตำนานพระอภิญญาลุ่มน้ำโขง'ญาท่านเภา'วัดบ้านเวินโพนพิสัย

จ.หนองคาย เป็นดินแดนที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในแถบลุ่มน้ำโขง มีพระเถราจารย์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นครูบาอาจารย์ ต้นธาตุ ต้นธรรม หลายรูปด้วยกัน ล้วนแต่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในเรื่องคาถาอาคมและไสยเวทย์ จนเป็นที่เลื่องลือเล่าขานเป็นตำนานสืบทอดอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
อาทิ ญาท่านป้อง บ้านหนองกุ้ง, หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม, หลวงปู่ด่อน อินทสาโร วัดถ้ำเกีย ฯลฯ ซึ่งส่วนมากท่านเหล่านี้ได้ล่วงลับไปแล้ว
แต่ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในขณะนี้ และผู้เขียนอยากแนะนำคือ “ญาท่านเภา” วัดบ้านเวิน ซึ่งผู้เขียนเองไม่เคยรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของท่านมาก่อน จนได้พูดคุยกับคุณเอก นาครทรรพ พี่ชายใจดี ผู้ที่สนใจในศาสตร์เดียวกัน ซึ่งปัจจุบันท่านได้พักร้อนงานการเมือง และได้หันมาศึกษาหาความรู้ด้านพระพุทธศาสนาในระดับปริญญาโท
คุณเอก เล่าว่า...ในช่วงเวลาที่ สปป.ลาว มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบใหม่ ทำให้บ้านเมืองเกิดความไม่สงบขึ้น ชาว สปป.ลาว ต่างต้องหาที่พึ่งทางใจ โดยเฉพาะ “ญาท่านเภา” ได้เป็นที่พึ่งทางใจให้แก่ชาวลาวได้เป็นอย่างดี โดยต่างแวะเวียนมาให้ท่านลงน้ำมันงา จารศีรษะ และฝังทองคำดิบ เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดคงกระพัน ทำให้ชื่อเสียงของ “ญาท่านเภา” ขจรขจายไปทั่วทั้งสองฝั่งโขง
ต่อมาท่านได้ลี้ภัยสงครามมายังเมืองไทย เหตุเพราะท่านได้สักยันต์ให้ทหารปฏิบัติการฝ่ายตรงข้ามกับทางราชการ ลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า...ขณะที่ท่านฝ่าวงล้อมทหารออกมา ท่านได้ใช้วิชากำบังร่าง หนีออกมาฝั่งไทยได้อย่างปลอดภัย ปัจจุบันท่านมีอายุ ๘๕ ปี จำพรรษา ณ วัดบ้านเวิน จ.หนองคาย จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งชาว จ.หนองคาย ให้ความเคารพนับถือในตัวท่านเป็นอันมาก
“ญาท่านเภา” เกิดในสกุล “สาวรักษ์” เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๗๑ ณ บ้านดงกะลึม เมืองหาดทรายฟอง (ปัจจุบันขึ้นกับเมืองปากงึ่ม) แขวงนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว เป็นบุตรคนที่ ๓ โดยมีพี่น้องทั้งหมด ๔ คน บิดาชื่อ “จารย์อุ่น” มารดาชื่อ “วรรณี”
ชีวิตในวัยเด็กของท่านก็เหมือนกับชาวชนบททั่วไป เป็นชาวนา เมื่ออายุ ๒๑ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา ณ วัดบ้านเลิด เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๙๑ โดยมี “พ่อแม่บุ” เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “จันทธัมโม”
ท่านมีความสนใจใฝ่ในการศึกษา จึงเดินทางไปศึกษาหาความรู้ที่ตัวเมืองเวียงจันทน์ โดยฝากตัวเป็นศิษย์ “ญาพ่ออุ่น” ที่วัดพระธาตุหลวงใต้
ในช่วงที่ท่านศึกษาวิชากรรมฐานอยู่ที่วัดพระธาตุหลวงใต้นี้เอง ทำให้ท่านมีความสนิทสนมเป็นพิเศษกับ “ญาท่านป้อง” และญาท่านป้องนี่เองที่เป็นผู้สอนคัมภีร์มูลกัจจายน์ให้แก่ญาท่านเภา
คัมภีร์นี้ว่าด้วยหลักไวยากรณ์ของภาษาบาลี หรือภาษามคธ และข้ออธิบายจากคัมภีร์ต่างๆ ท่านได้จดรวบรวมไว้อย่างละเล็กละน้อย แล้วเขียนแปลเป็นภาษาไทยกำกับ
นอกจากนี้ ญาท่านป้อง ยังสอนไสยเวทย์วิทยาคมให้แก่ญาท่านเภา อีกด้วย
ญาท่านเภา เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านทั้งสองฝั่งโขง ด้วยท่านเป็นที่พึ่งที่อาศัยของบรรดาชาวไทยและชาวลาว ด้วยอุปนิสัยที่รักสันโดษ มักน้อย ท่านชอบอยู่อย่างเงียบๆ ในกุฏิเล็กๆ มีปกติอยู่ในองค์ภาวนาพระกรรมฐาน “วิชาแก้วสี่ดวง” ซึ่งผู้ที่ฝึกสำเร็จจะสามารถแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้ เป็นวิชาที่สืบทอดกันในดินแดนแถบนี้ จึงไม่แปลกที่ พระเถราจารย์ เหล่านี้จะมีอิทธิฤทธิ์ ทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมหัศจรรย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินผิวน้ำ ย่นระยะทาง ห้ามฟ้าห้ามฝน เสกพยนต์รูปสัตว์ ฯลฯ
ญาท่านเภา ได้สร้างวัตถุมงคลเป็น นวด (สีผึ้ง), ปลัดขิก, พระคำตัน (พระที่หล่อจากทองคำบริสุทธิ์ทั้งองค์) เป็นของที่ประสิทธิ์ให้เฉพาะตัว มีอานุภาพเป็นที่เลื่องลืออย่างกว้างขวาง ถึงกับชาวลาวพูดกันติดปากว่า...“มีพระคำตันแอ่นอกให้ยิงได้เลย”
สำหรับเครื่องรางของท่าน อาทิ วัวธนู หรือ พญาช้างธนู ก็ไม่เหมือนของใคร และไม่มีใครทำได้เหมือน เป็นเครื่องรางอีกอย่างหนึ่งที่ลูกศิษย์ ต่างเสาะแสวงหากันมาก คนที่ได้รับมีเฉพาะลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น
ประสบการณ์ของ “พญาช้างธนู” นั้น โดดเด่นทางป้องกันบ้านเรือนและภยันตรายต่างๆ เป็นอย่างดี ป้องกันภูตผีปีศาจ และสิ่งอัปมงคลได้สารพัด นอกจากนี้ยังมีผู้เชื่อกันว่าสามารถล่องหนหายตัวได้ด้วย
ส่วนวัตถุมงคลประเภท เหรียญ มีอยู่ ๒ รุ่นคือ เหรียญรูปเหมือนหลังเต่า รุ่นแรก และเหรียญรุ่น ๒ พระอุปคุตมหาเถระ รุ่น “ปราบมารบันดาลสุข” ด้านหน้าเป็นรูปจำลองของพระอุปคุตมหาเถระเจ้า พระอรหันตสาวกผู้เป็นเลิศด้านการปราบพญามาร ขจัดอุปสรรคสิ่งชั่วร้าย และอุดมลาภ มือขวาทรงบัว มือซ้ายทรงบาตร ประทับบนเรือนแก้วบัลลังก์บัว อธิษฐานจิตปราบมาร ด้านหลังเป็นยันต์ "สายรกพระพุทธเจ้า" หรือสายแห่พุทธเจ้า เป็นตำราวิชาโบราณของชาวอีสาน ลุ่มน้ำโขง มีพุทธคุณทางด้านค้ำคูณคุ้มครองป้องภัย ขจัดอุปสรรค ป้องกันอันตราย แก้คุณ แก้ไสย เรียกโภคทรัพย์
ของเหล่านี้ไม่มีจำหน่ายใดๆ ทั้งสิ้น สร้างแจกเป็นที่ระลึกในหนังสือประวัติท่านชื่อ “เปิดตำนานพระอภิญญาศักดิ์สิทธิ์พระผู้มีฤทธิ์แห่งลุ่มน้ำโขง” ที่ท่านแจกให้เป็นทานเท่านั้น
วัตถุมงคลของ “ญาท่านเภา” ทุกรุ่นท่านสร้างไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นเหรียญหรือเครื่องรางของขลัง เพราะท่านมีความตั้งใจทำเป็นพิเศษ เรียกว่า “ไม่ดีไม่ทำ ไม่ขลังไม่แจก” ใครได้ครอบครองถือว่า โชคดีที่สุด
(ขอขอบพระคุณ คุณเอก นาครทรรพ และครอบครัว “นาครทรรพ” ผู้ให้ข้อมูลบทความนี้)


ราคา 950 บาท ท่าน j999

 

2023. เหรียญหยดน้ำรูปเหมือนเต็มองค์ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ปี 2517 นับเป็นเหรียญยุคต้นๆของท่าน สร้างเพียงเนื้อเดียว คือทองเเดงผิวไฟครับ ไม่มีเนื้ออื่น น่าเก็บ น่าใช้มากครับ

มี 2 เหรียญ เหรียญละ 450 บาท

1. ปิดรายการ



2.ท่าน อาทิตย์03