พระกรุ พระเกจิอาจารย์ เครื่องรางของขลัง หลวงพ่อปาน พิมพ์ขี่ปลากัดโบราณ วัดบางนมโค

จองพระขุนแผนหลวงพ่อกล้ายครับ

 

ลูกอมผงยาดำ เจ็ดพญาช้างสาร หลวงพ่อดิ่ง

1 ใน 5 เบญจภาคีสุดยอดลูกอม ของประเทศไทย ตัวจริงลูกเล็กเท่านิ้วก้อย..เท่านั้นเองครับ

ปิดการขายครับ
ลูกอมผงยาดำ เจ็ดพญาช้างสาร หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ลูกนี้สร้างจากผงคลุกรัก ผสมไคลพระเจดีย์ ๗ วัด ไคลพระอุโบสถ ๗ วัด ไคลเสมาอีก ๗ วัด ผสมกับผงวิเศษต่างๆที่หลวงพ่อดิ่งได้ทำการลบผงสูตรต่างๆ เก็บสะสมไว้ ผงใบลานจารอักขระเลขยันต์ต่างๆเผาไฟจนเป็นเถ้าถ่าน ผงใบลานนั่นเองครับ นำส่วนผสมต่างๆมาปั้นเป็นลูกกลมเม็ดประมาณปลายนิ้วก้อย ปลายนิ้วชี้ มีขนาดไม่แน่นอน นำไปผี่งลมจนแห้ง จากนั้นนำมาลงรักปิดทอง ที่ไม่ได้ทำการลงรักปิดทอง ก็มีเหมือนกันครับ แต่เป็นส่วนน้อย..ไม่ค่อยได้พบบ่อย แต่...ลูกนี้ลงรักน้ำเกลี้ยงปิดทอง ครบเต็มสูตร นะครับ

ลูกอมนี้..อาจจะเรียกไม่ค่อยเหมือนกัน บางท่านเรียกลูกอมผงยาดำ บ้างเรียกลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร ก็เรียกกัน เหตุที่เรียกเช่นนั้นเขาว่าใครที่มีลูกอมผงยาดำ หลวงพ่อดิ่งติดตัว เวลามีเหตุให้ต้องใช้กำลังประทะกับศัตรู จะมีเรี่ยวแรงพลังวังชา ดุจดั่งมีพญาช้างสารเจ็ดเชือกอยู่ในกายเรา สามารถแหวกวงล้อมของศัตรูออกมาได้ทุกคราวไป ดังนั้น ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร...จึงมีที่มาจากประสบการณ์จริง ของลูกศิษ์ลูกหา ที่นำไปใช้งานจริงได้พบประสบมา ครับท่าน

. .

พระพุทธคุณ เด่นทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มีพละกำลังดั่งมีเจ็ดพญาช้างสาร คุ้มครองป้องกันภัยต่างๆ เมื่อถึงยามคับขันสามารถเอาตัวรอดมาได้ อย่างปลอดภัยครับ ส่วนทางด้านเมตตามหานิยม..ในวัถุมงคลของหลวงพ่อดิ่ง ที่สร้างมาจากผงพุทธคุณ ผสมผงอาถรรพ์ต่างๆนั้น ย่อมมีเมตตามหานิยม อย่างแน่นอนครับ

 

พญาเต่าเรือน เนื้อผงผสมว่าน เก่ามากแต่ไม่ทราบที่ครับ

(เจ้าของเดิม...เคยบอกว่าเป็นของหลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย) พญาเต่าเรือน กว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 2.5 นิ้ว..ครับ

ปิดการขายครับ
ตำนานพญาเต่าเรือน ได้กล่าวว่าเมื่อครั้งพระพุทธเจ้าทรงเสวยชาติ เป็นพญาเต่ามีร่างกายใหญ่โตมาก ใหญ่เท่ากับบ้านเรือนขนาดใหญ่ จำศิลอยู่บนเกาะร้างกลางมหาสมุทรใหญ่แห่งหนึ่ง มีอายุยืนนานมานับร้อยๆ ปี จนมาวันหนึ่ง..มีผู้คนเดินเรือสำเภาเพื่อไปทำการค้าขาย แต่เกิดพายุฝนอย่างหนักทำให้เรือแตกอับปาง ผู้คนจำนวนมากมาย จึงติดอยู่บนเกาะแห่งนี้เป็นเวลานาน จนกระทั่งอาหารบนเกาะมีน้อยลง ต่อมาด้วยความอดอยากทำให้คนบนเกาะหันมาเข่นฆ่ากันเพื่อเอาเนื้อหนังของอีกฝ่ายมากินเป็นอาหาร เพื่อประทังชีวิต

พญาเต่าเรือน ได้เห็นเหตุการณ์โดยตลอด เกิดความสลดสังเวชใจ และจิตปรารถนาจะช่วยเหลือ เพื่อสืบสานบารมีแห่งพระโพธิญาณ พญาเต่าเรือนจึงได้ไต่ขึ้นไปบนยอดเขา จากนั้นได้กลิ้งตัวเองลงมาทำให้กระดองที่หุ้มตัวแตกออก เนื้อหนังฉีกเป็นชิ้นๆและได้สิ้นใจลง บรรดาผู้ที่เรือแตกจึงได้อาศัย..กินเนื้อของพญาเต่าเรือน หรือว่าเนื้อของพระโพธิสัตว์ เป็นอาหารและเสบียงกรังสำหรับเดินทาง จากนั้นบรรดาผู้ที่เรือแตก จึงได้นำเอากระดองของพญาเต่าเรือน ที่มีขนาดใหญ่เท่ากับบ้านหลังหนึ่ง มาทำเป็นเรือสำเภาออกเดินทางรอนแรมในมหาสมุทรใหญ่ จนกระทั่งกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย พบหน้าลูกเมียของตน ชาวเรือเหล่านั้น..ได้ระลึกถึงพระคุณของพญาเต่าเรือน ที่ได้ให้เนื้อเป็นอาหาร ให้กระดองทำเป็นเรือสำเภา จึงได้วาดภาพของพญาเต่าเรือน ไว้บูชาสักการะเพื่อระลึกถึงพระคุณอันใหญ่หลวง

... ... ...

ดังนั้นพระเกจิอาจารย์ในสมัยโบราณ จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นรูปพญาเต่าเรือน บ้างแกะจากงาช้าง เขาสัตว์ กระดูกสัตว์ หินบางชนิด บ้างหล่อจากเนื้อโลหะสืบทอดต่อกันมา เพื่อระลึกถึงพญาเต่าเรือน ซึ่งเป็นชาติหนึ่งของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน ได้สละเลือดเนื้อชีวิตเพื่อเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยากไร้ พระเกจิอาจารย์ยุคเก่าจึงมีการทำเครื่องรางของขลัง เป็นรูปพญาเต่าเรือน เพื่อระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลดุจดั่งมหาสมุทร ของพระโพธิสัตว์เมื่อครั้งเสวยชาติเป็นพญาเต่าเรือน

พระพุทธคุณ ของพญาเต่าเรือน เด่นทางทำมาค้าขาย กิจการต่างๆซื้อง่ายขายคล่อง เงินทองไหลมาเทมา อยากมีโชคลาภ ต้องลองบูชาพญาเต่าเรือน พระพุทธคุณอีกอย่างหนึ่งที่คนยุคใหม่ไม่ค่อยรู้

นั่นคือ ทางด้านคดีความ หากถูกใส่ร้ายป้ายสีถูกใส่ความ โบราณว่า เมื่อมีเหตุดังกล่าว ให้บูชาเต่าเรือน พร้อมท่องคาถาพญาเต่าเรือนไปด้วย คดีความจะดีชึ้น จะประสบชัยชนะในชั้นโรงชั้นศาลในที่สุด

พระคาถา พญาเต่าเรือน ให้ท่านทำจิตให้มีสมาธิ ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วว่า พระคาถาตามข้างล่าง..ครับ

นะมะพะทะ นาสังสิโม สังสิโมนา
สิโมนาสัง โมนาสังสิ
นะอุทะกะ เมมะอะอุอะ

 

ตะกรุดมหาโสฬสมงคล หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง

ตะกรุดมหาโสฬสยุคต้น ลาย ๗ เสา ยาว ๓ นิ้วเต็ม

ปิดการขายครับ
ดอกนี้ถักแบบลาย 7 เสา ลงรักนำเกลี้ยง..เพื่อรักษาเชือกถักตะกรุดเอกลักษณ์ ของตะกรุดสายวัดตะพานสูงอันลือลั่นปฐพี คงเป็นหัว ~ ท้าย ของตะกรุดนั่นเองครับ ดอกนี้เจ้าของเดิมว่าเป็น ของหลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูงยุคต้น ส่วนตัวผมเองนั้นลึกๆ แล้ว มองว่าน่าจะเป็น ตะกรุดมหาโสฬสมงคล ของหลวงปู่กลิ่น วัดสะพานสูง ที่สร้างในยุคปลายๆของท่านซะมากกว่าครับ

. .

พุทธคุณ ควรค่าแก่การคู่เคียงกายชายชาตรี เป็นที่สุดครับ คงไม่ต้องบรรยายให้มากความกระมั้งครับ พูดง่ายๆว่าถ้าท่านเป็นคนรักตะกรุด ควรมีตะกรุดวัดสะพานสูง จะเป็นของใครก็ได้...ติดกายไว้สัก 1 ดอก...ครับ

 

ตั้งแต่มาทำห้องพระในเวปพลังจิต มีเพื่อนฝูงมากมาย ถามว่าในสภาวะอย่างทุกวันนี้ ห้อยพระหลวงพ่ออะไรดี

ขออ้อมแอ้มตอบว่า...ห้อยพระที่ท่านมีวัติปฎิบัติดีปฎิบัติชอบทั้งต่อหน้าและลับหลัง ห้อยพระที่คนท้องที่ยังหาห้อยคอกัน ไม่ใช่ดังระเบิดระดับประเทศ แต่คนท้องที่กลับเมินเฉยไม่ใส่ใจ ห้อยพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างเป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป

เพราะหลายครั้งพระที่โด่งดังไว ชื่อเสียงมักซบเซาเลือนหายไว และในหลายๆครั้ง กระแสนั้นจะไม่หวลกลับคืนดั่งเดิมอีกเลย

จริง ~ เท็จ เป็นเพียงมุมมองของชายชรา คนหนึ่งเท่านั้นเองครับ

 

จองครับ

 

ตะกรุดดอกนี้...เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว กว่าได้มาเหนื่อยมากเลยครับ เจ้าของเดิมเป็นช่างทาสี พื้นเพเป็นเด็กนนทบุรี ตามตื้ออยู่นานนับเดือน จนในที่สุดเจ้าของตัดใจขายให้ในราคา 8,000 บาท ถือว่าแพงมากๆ สำหรับผมในสมัยนั้น จนแทบหมดปัญญาซื้อในที่สุด หลังจากต่อรองราคาอยู่เกือบ 1 อาทิตย์ จึงได้มาในราคา 4,900 บาท แต่ต้องตัดใจซื้อเพราะผมอ่านว่าเป็นตะกรุด ของหลวงปูกลิ่นในยุคปลายๆของท่าน



การหาของในสมัยก่อนโน้น เหนื่อยมากกว่าสมัยนี้มากมายครับ กว่าจะได้มาแต่ละชิ้น ต้องใช้การสืบเสาะหาจากหลายๆคนไม่มีปุมให้กดหา ไม่มีตัวช่วย...เฉกเช่นดั่งในทุกวันนี้ครับ แต่...ผมว่าถึงจะเหนื่อยกว่า แต่สนุกตื่นเต้นเร้าใจมากๆ บางครั้งถูกสุนัขเฝ้าสวนไล่กัด จนแทบต้องปีนป่ายต้นมะพร้าวหนี ก็เคยมีมาแล้วครับ..สวัสดี

 

ในศุภวารดิถีขึ้นปีใหม่ พ.ศ ๒๕๖๑ ​

ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

จงดลบันดาลให้ทุกท่าน พร้อมทั้งครอบครัว ประสบพบแต่

ความสุขความเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย สมบูรณ์พูนผล

ในสิ่งที่พึงปรารถนาทุกประการ ครับ

 

สอบถามราคาครับ

 

ราคาเช่าบูชา..อยู่ในข้อความ pm แล้วครับ

 

พระกริ่งหน้าตั๊กแตน พิมพ์อุ้มบาตร เนื้อสัมฤทธิ์

พระกริ่งองค์นี้ สร้างในยุคกลาง

ปิดการขายครับ
พระกริ่งหน้าตั๊กแตน สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ซึ่งเป็นยุคที่ชนชาติขอมขึ้นมาเรืองอำนาจ (ขอม นะครับ ไม่ใช่เขมร ) ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖ ซึ่งพระกริ่งตั๊กแตน ที่สร้างในยุคนี้จะเป็นเนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อจะกลับดำสนิท และสร้างต่อมาจนถึงสมัยอยุธยายุคต้นๆ ในยุคนี้้เนื้อพระกริ่งตั๊กแตน ยังเป็นสัมฤทธิ์ แต่จะไม่กลับดำสนิทเช่นยุคต้น ยุคสุดท้ายของพระกริ่งหน้าตั๊กแตน จะอยู่ในช่วงกรุงรัตนโกสินทร์ ถือว่าเป็นยุคสุดท้ายของพระกริ่งตั๊กแตน เนื้อที่สร้างในยุคสุดท้าย จะเป็นเนื้อทองเหลืองขันลงหิน เนื้อทองเหลืองธรรมดา เท่านั้น

พระกริ่งหน้าตั๊กแตนองค์นี้ เป็นพระในยุคกลาง สร้างด้วยเนื้อสัมฤทธิ์กระแสแดง อุดกริ่งตรงสะโพกด้านขวา ด้วยผ่านกาลเวลามาช้านานทำให้มีสนิมจับด้านใน เสียงกริ่งยังคงดังอยู่เล็กน้อยแต่พองามครับ พระกริ่งหน้าตั๊กแตนนั้น บางท่านเรียกว่าพระกริ่งเขมร จริงๆแล้วผมว่าน่าจะเรียกว่า พระกริ่งขอม น่าจะถูกต้องมากกว่า

. .

พุทธคุณเน้นหนักเด่นทางอิทธิปาฎิหาริย์ เเละอยู่ยงคงกระพันชาตรี คนเก่าๆเคยเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง ยังมีพระกริ่งตั๊กแตนพกติดย่ามของท่านไว้ตลอดเวลา ภายหลังได้อาศัยเค้าโครงของพระกริ่งตั๊กแตน มาสร้างพระของท่านเพื่อแจกให้ลูกศิษย์ลูกหาตลอดจนประชาชนโดยทั่วไปเช่น พระชัยวัฒน์ รุ่นสร้างเขื่อน พระกริ่งบัวฟันปลา พระกริ่งเขมร วัดหนัง เป็นต้น

 

ผมโอนค่าบูชาตะกรุดหลวงพ่อตาด วัดบางวันทอง ให้แล้วครับ

 

ลูกอมผงใบลานยุคต้น (เนื้อพุทรากวน) หลวงพ่อพริ้ง

ปิดการขายครับ
ลูกอมยุคต้นของท่าน เต็มไปด้วยของวิเศษ มวลสารต่างๆมากมาย ของกายสิทธิ์มีคุณวิเศษผสมอยู่ ไม่ว่าจะแร่เหล็กน้ำพี้ แร่เกาะล้าน ข้าวตอกพระร่วง ทรายเสกเสก ผงขึ้ธูปบูชาพระ ผงใบลานจารคาถา พระเวทย์ต่างๆที่ชำรุด นำมาเผาไฟนำผงใบลานนั้นมา ผสมพระบ้าง ลูกอมบ้าง ปูนแดงเสก สมัยโบราณคนที่เป็นฝีเม็ดใหญ่ จะไปให้พระเกจิอาจารย์ที่เก่งทางวิทยาคม เสกปูนแดงทาสูญฝีให้ ในไม่ช้านักฝีนั้นจะยุบลง หรือใช้ปูนแดงทาคาดคอ เพื่อผลทางอยู่ยงคงกระพัน ผงพุทธคุณที่ท่านได้ทำการลบ วัตถุที่เป็นของวิเศษ ของกายสิทธิ์อีกมากมายที่ตาเราเห็น..แต่แยกไม่ออกว่าเป็นอะไรครับ

เมื่อได้หลวงปู่พริ้ง ผู้เรืองวิทยาคมขั้นสูง มีกฤตยาคมอันเกรียงไกรเป็นผู้ปลุกเสกให้ ลูกอมของท่านจึงมีพระพุทธคุณครบทุกด้านไม่ว่าจะเป็นคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาเสน่ห์ ป้องกันโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคห่า ลมเพลัดพัด เสกของร้ายใส่ตัวเรา

..

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกอมผงใบลาน ของท่านเป็นที่เสาะแสวงหากันมาช้านานแล้ว ด้วยเสียงบอกกล่าวต่อๆกันมา ด้วยประสบการณ์ที่มีผู้คนได้ประจักษ์กันมากมาย จึงทำให้ลูกอมของท่าน ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้า ของลูกอมที่มีพุทธคุณ อันดับต้นๆของประเทศ พูดง่ายๆว่า ลูกอมผงใบลาน ไม่ว่าจะเนื้อขาว ดำ เทา ชมพู ของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพริ้ง แห่ง..วัดบางปะกอก ถูกจัดอยู่ในชุด เบญจภาคีลูกอม ของประเทศไทย

บรรทัดข้างล่างนี้...นำมาจากข้อเขียนของ คุณ ประยุทธ ศรีสวัสดิ์
สงครามมหาเอเชียบูรพา วัดบางปะกอกได้เป็นที่พักหนีภัยอันตรายของประชาชนมาอยู่เป็นร้อยๆ ซึ่งหลวงพ่อก็ได้ให้ความร่มเย็นโดยทั่วกัน โดยเฉพาะเจ้าจอมต่าง ๆ ที่อยู่ในรั้วในวังก็พากันมาพึ่งบารมีของท่านหลายต่อหลายคนภัยอันตรายต่าง ๆ ไม่เคยแผ้วพาลแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่วัดอยู่ห่างอู่ต่อเรือของญี่ปุ่น ไม่ถึงกิโลเมตร มองเห็นลูกระเบิดหย่อนลงมาทำลายนับสิบ ๆ ลูก แต่ด้วยบุญบารมีของท่าน ได้ปัดเป่าภัยอันตรายต่างๆ ที่จะมีแก่ชาวบางปะกอก จนปลอดภัยต่อเหตุการณ์ในครั้งกระนั้น ยากที่ชาวบางปะกอก และผู้ที่มาพึ่งบุญของท่านจะลืมได้

 

ได้รับตะกรุดหลวงพ่อตาดและตะกรุดหลวงพ่อกวยเรียบร้อยแล้วครับ

 

ตะกรุดหัวใจโลกธาตุ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี

(สุดยอดอาจารย์ ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง)

ปิดการขายครับ
สุดยอดพระอาจารย์ ของพระเกจิอาจารย์ คือปรมาจารย์นั่นเองครับ คำกล่าวนี้ไม่ได้เกินความจริงเลยครับ ถ้าจะกล่าวถึงหลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว แห่ง..ต้นลุ่มน้ำแม่กลอง เรื่องราวความเก่งกล้าสามารถทางไสยศาสตร์ เรืองพระเวทย์วิทยาคมชั้นสูง ถูกบอกกล่าวมานานหลายชั่วคนแล้ว ในความขลังความศักดิ์สิทธิ์ มากไปด้วยปาฎิหาริย์ ของ...วัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง ที่หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ได้สร้างและปลุกเสก...ไว้ให้ลูกศิษย์หลานศิษย์เหลนศิษย์ ได้ใช้ปกป้องค้มครองตัว ให้ปลอดภัยจากภยันตรายต่าง บนโลกมนุษย์

หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ท่านเป็นจ้าวตำหรับ...ตะกรุดหัวใจโลกธาตุ ซึ่งเป็นตะกรุดที่สร้างค่อนข้างยากมาก เพราะผู้ที่จะสร้างตะกรุดนี้ได้ต้องมีตะบะบารมีที่สูงล้ำยิ่ง และ..ต้องสำเร็จวิชาเดโชกสิณขั้นสูงสุด อย่างชนิดที่ว่าสามารถเพ่งใส้เทียนให้ขาดกลางได้เท่านั้น จึงสร้างหรือถ่ายทอดวิชาตะกรุดหัวใจโลกธาตุได้สำเร็จ ซึ่งในประเทศไทยนี้มีเพียงไม่กี่ท่าน ที่หลวงปู่เฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว ซึ่งเป็นเจ้าของตำหรับ ยอมถ่ายทอดสรรพวิชาในการสร้างตะกรุดหัวใจโลกธาตุให้

. . .

เรื่องพุทธคุณ ของตะกรุดหัวใจโลกธาตุ เนื้อทองแดงดอกเล็กๆนั้นพุทธคุณมากมีสุดจะบรรยาย ที่แน่ๆเด่นทางคงกระพัน แคล้วคลาดเป็นหลักใหญ่ใจความ คนรุ่นเก่าๆบอกต่อๆกันมาว่า ถ้ามีสมาธิดีพอ มีความเชื่อมีศรัทธาแท้จริง สามารถล่องหน กำบังกายหายตัวได้ ทั้งสิ้นทั้งปวงนั้น..เป็นคำเล่าขานที่บอกกล่าวกันต่อๆมา..ครับ

 

ขอจองครับ

 

รับจองไว้แล้วครับ สภาพอาจไม่สวยงามมากนัก แต่..แลกกับความดูง่ายมากๆ ผมว่าคุ้มค่า

ขอบคุณมากครับ

 

ลูกอมผงพรายกุมาร เนื้อชมพู หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่

( ลูกอมตัวจริง ลูกเท่านิ้วก้อย..เท่านั้นเองครับ )

ปิดการขายครับ
เช่าบูชามานานนักหนาแล้วครับ แล้วก็หายสาบสูญไป 20 กว่าปี ช่วงก่อนปีใหม่ รื้อค้นบ้านหาสมบัติเก่าๆอยู่ครึ่งเดือน จึงได้พบลูกอมผงพรายกุมาร เนื้อสีชมพู สภาพผ่านศึกมาอย่างโชกโชน หย่อนสวยไปมาก แต่..แลกกับความดูง่ายมาก ถือว่าคุ้มค่าครับ

. .

 

นางพญา แกะจากไม้โพธิ์หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

ปิดการขายครับ
แกะมาจากไม้ต้นโพธิ์ ที่หลวงพ่อเงินท่านปลูกเสี่ยงทาย ก่อนสร้างวัดบางคลาน บางชิ้นที่มีขนาดหนาพออาจแกะเป็นรูปเหมือน ของหลวงพ่อเงิน ส่วนชิ้นไหนที่บางไม่หนาพอ แกะเป็นพระนางพญา เป็นพระสมเด็จ บ้างแกะเป็นเหรียญจอบ ก็มีแต่หายากมากๆครับ

..

ข้อความด้านล่างทั้งหมดเป็นของ...โดยพระเล็ก

อภินิหารของหลวงพ่อเงิน นั้นยังคงความเข้มขลังอยู่ ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ของหลวงพ่อเงิน ได้แก่ต้นโพธิ์ที่หลวงพ่อเงินได้หักกิ่ง มาปักไว้ริมน้ำหน้าพระอุโบสถ วัดวังตะโก ก่อนจะนำมาปักหลวงพ่อได้อธิษฐานจิตขอเสี่ยงทายไว้ว่า หากวัดท่านจะเจริญรุ่งเรืองก็ขอให้กิ่งโพธิ์กิ่งนี้จง แตกกิ่งก้านกว้างใหญ่ไพศาลด้วยเถิด ต่อมาไม่นาน กิ่งโพธิ์นั้นก็ออกรากหยั่งลึกลง และงอกงามเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับวัดของท่านที่ท่านได้สร้างขึ้นมา เมื่อตอนที่ท่านอยู่ที่วัดแห่งนี้ ท่านได้ทำแคร่ไม้ไว้ใต้ต้นโพธิ์เพื่อไว้พักผ่อนอิริยาบทของท่าน แต่เมื่อท่านได้สิ้นชีวิตลงแล้ว

พระครูพิบูลธรรมเวท (หลวงพ่อเปรื่อง) เจ้าอาวาส ได้ทำการสร้างพระอุโบสถขึ้นใหม่แทนหลังเดิม ซึ่งเก่าแก่มากแล้ว แต่กิ่งก้านของต้นโพธิ์ของหลวงพ่อได้มาปิดบังหน้าพระอุโบสถ ทำให้ขาดความสวยงามไปมาก ท่านพระครูพิบูลธรรมเวท จึงได้ว่าจ้างให้ชาวบ้านมาทำการตัดกิ่งเหล่านั้นออกไป แต่ไม่มีชาวบ้านคนไหนที่กล้าจะเสี่ยงกับงานที่กระทบกระเทือนของหลวงพ่อชิ้นนี้เลย

ในที่สุด พระครูพิบูลธรรมเวท จึงได้นำดอกไม้ ธูป เทียน มาจุดบอกกล่าวขอความกรุณาจากหลวงพ่อเงิน โดยการที่ทำการตัดกิ่งโพธิ์ในครั้งนี้ก็เพื่อจะทำให้วัดสวยงามขึ้น มิใช่เป็นการดูหมิ่นลองดีอะไรกับหลวงพ่อ และขอให้หลวงพ่อหักให้ด้วย จากนั้นมาเพียงไม่กี่วัน กิ่งโพธิ์กิ่งนั้นก็หักครืนลงมาเองโดยไม่มีลมพายุ หรือว่าสิ่งผิดปรกติจากภัยธรรมชาติใดๆ เลย เมื่อกิ่งโพธิ์ใหญ่หักลงมาเอง โดยไม่ต้องตัด ต้องไปรบกวนผู้ใด ให้มาช่วยตัดเช่นนั้น ท่านเจ้าอาวาสได้ให้นางจันทร์ ชาวบ้านในย่านนั้นมาจัดการเลื่อยเป็นท่อนๆ แล้วเผาถ่านแบ่งกันคนละครึ่งกับทางวัด หลังจากจัดการเลื่อยเรียบร้อยแล้วก็นำมากองรวมจุดไฟเผาแต่มันช่างน่าอัศจรรย์ที่ว่า จะเอาอะไรมาทำเชื้อไฟ ไม้โพธิ์นั้นก็ไม่ยอมติดไฟตรงกันข้ามตัวนางจันทร์เองกลับมีรอยไหม้พองไปทั้งตัว หูตาก็ดับมืดมองอะไร ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง มีอาการทรมานเป็นที่สุด จากนั้นเพียงไม่กี่คืน หลวงพ่อเงินก็มา ดุกล่าวนางจันทร์ในฝันว่า "กูให้ของดีมึงไว้ใช้ มึงกลับไม่รู้คุณค่าเอาไปเผาเสียอีก" เมื่อนางจันทร์ตกใจตื่น ทบทวนความฝันดีแล้ว ก็นำดอกไม้ ธูปเทียน เท่าอายุ ของตนเอง มาขอขมาลาโทษ ต่อหน้ารูปหล่อของหลวงพ่อเงิน เพียงไม่กี่วัน อาการต่างๆ ของนางจันทร์ก็คืนสู่ปรกติ

เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ต้นโพธิ์ของหลวงพ่อเงินก็มีอันต้องแตกดับลง คราวนี้ไม่ใช่กิ่งหักเช่นครั้งก่อน หากแต่หักลงมาทั้งต้น โดยไม่มีลมพายุ หรือฝนฟ้าคะนองเลย อยู่ดีๆ ก็หักลงมาเอง บทเรียนที่เกิดขึ้นกับนางจันทร์ในครั้งก่อน เตือนใจให้ชาวบ้านได้ดีทีเดียว ทุกคนต่างพากันนำกิ่งโพธิ์เล็กบ้างใหญ่บ้างไปแกะเป็นพระไม้โพธิ์ หรือวัตถุมงคลอื่นๆ กัน จนกระทั่งไม่มีอะไรเหลือให้เห็นอีก จึงเป็นอันว่า แม้แต่ต้นโพธิ์อธิษฐานของหลวงพ่อก็ยังไม่พ้น "อนิจจัง"