ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ้อบางทีก็ทำตัวเป็นจิตจักรวาล ที่มาบอกให้รักตัวเองให้มากๆละครับ อุตส่าหนีไปตั้งไกลสุดท้ายยังไงก็ต้องกลับมารักตัวเองอยู่ดี ก็แล้วแต่ชอบครับจะพุทธเกษตร หรือจิตจักรวาล
    แต่ยังไงมีชีวิตอยู่กับตัวเองไว้ก่อนครับเรียนรู้ไว้อะไรก็ได้ ซักวันอาจจเจอ คนมีเข็ม มีด้าย เจอช่างเย็บผ้าพร้อมๆกันก็ได้ครับ
     
  2. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    แตกต่างกันอย่างหรอ! ค่ะ พุทธเกษตร กับ จิตจักรวาล เนี๊ยะ
    พุทธเกษตร ก็เป็นหนึ่งในจิตจักรวาล มิใช่เหรอค่ะ
    จิตวิญญาณก็แบ่งภาคมาจากจิตจักรวาล
    แล้วดวงจิตธรรมญาณ หรือ จิตปัญญาญาณ ก็เป็นสิ่งเดียวกัน
    แล้วสุดท้ายปลายทางที่สุญญตามิใช่เหรอค่ะ
    มีสิ่งที่สูงกว่านี้อีกหรือค่ะ..สงสัยจริง ๆ ค่ะ
     
  3. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    สำหรับผมมองว่าพุทธเกษตร เป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่มากๆๆรวมวิทยากรความรู้ไว้มากมายทั่วจักรวาล ย่อมมีศรีอารยะ และผู้ประเสริฐ คอยสอนธรรมต่างๆครับดูแล้วเป็นทางที่อบอุ่นเลยครับ
    จิตจักรวาล อันนี้ท่านดอกไม้เคยกล่าวไว้แล้วครับลองดู
    ก็เคยเขียนไว้แล้วละครับ ต่อจากศรีอารยะซึ่งรวมธาตุเสร็จสิ้นแล้วยังก้าวต่อไป ก็เป็นระดับผู้ประเสริฐในเครือข่ายจักรภพ ก็ยังทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เพิ่มอีก ก็เป็นผู้ประเสริฐนอกเครือข่ายจักรภพ ต่อไปก็เป็นชั้นทองคำ แล้วก็แดนศักดิ์สิทธิ์ครับ ก็จะมีความละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งที่กล่าวมาคืออยู่ในขอบเขตของธรรมชาติครับซึงจะมองเห็นท่านเหล่านั้นยากครับเพราะความละเอียดเราไม่ถึงแต่ใจเราถ้าบริสุทธิ์พอก็สัมผัสได้ครับ เพราะท่านเหล่านั้นจะคอยชี้นำแต่จะไม่แทรกแทรงครับ
    ฟังสนุกๆนะครับอย่าไปสนใจมากเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าปัจจุบันที่เรากำลังกระทำหรอกครับ
     
  4. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ***ก็เป็นระดับผู้ประเสริฐในเครือข่ายจักรภพ

    ***ก็ยังทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เพิ่มอีก ก็เป็นผู้ประเสริฐนอกเครือข่ายจักรภพ

    ***ต่อไปก็เป็นชั้นทองคำ แล้วก็แดนศักดิ์สิทธิ์ครับ ก็จะมีความละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ

    จากระดับทั้งสามที่กล่าวมา ...
    จิตยิ้มไม่ได้สัมผัสกับรูปธรรมโดยตรงหรอกนะคะ

    สิ่งที่สัมผัสได้ ของการมีความรักระดับสูงสุด ที่ไร้ตัวตน ไร้มายา อิสระ โล่งโปร่งบาง ดุจว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล พลังงานที่ว่านี้จะไร้ตัวตนแต่เปรียบเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล สุขลึกล้ำมาก ๆ ๆ ๆ ค่ะ


    แต่...จะแตกต่างกันกับ...

    ธรรมชาติที่เร้นอยู่ในธรรมชาติของโลกอีกที ธรรมชาตินี้ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ได้ แม้แต่ธรรมชาติของโลก เพราะธรรมชาติของโลกก็เป็นสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นมา ไม่มีอยู่จริง ค่ะ จึงเรียกว่าธรรมชาติที่เร้นอยู่ ...สิ่งนี้ว่า..แดนสุญญาตาค่ะ

    แต่ตนเองไม่เข้าใจหรอกนะคะว่า..สองสิ่งแตกต่างกันอย่างไร?

    เพราะสิ่งแรกเป็นพลังงานในจักรวาล
    ส่วนสิ่งที่สอง ...เหนือขึ้นไปอีกค่ะ...และไม่รู้จะบรรยายอย่างไร มันไม่ใช่ตัวตนนะคะ ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรจริง ๆ ค่ะ

    ก็เลยสงสัยพุทธเกษตรหน้าตาเป็นอย่างไร ที่ว่าอบอุ่นนะคะ
     
  5. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    คุณ คนโง่โง่ ค่ะ

    ขอถามอะไรหน่อยค่ะ สิ่งที่มากระทบกับเราทำให้เรารู้สึกได้ต่อกับทุกคน ทั้ง ๆ ที่ทุกคนไม่มีใครรู้เรื่องกับเราเลย แต่ทำไมเราต้องอาศัยเขาเพื่อแก้กรรมของเราเอง นั่นหมายความว่าอย่างไรค่ะ ในขณะนี้ที่ตนเองเป็นอยู่ค่ะ
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เราตั้งจิตเชื่ออย่างไร พลังแห่งความเชื่อมันจะขับดันเราไปทางนั้น


    เชื่อทางพุทธเกษตรก็ไปทางพุทธเกษตร เชื่อทางจิตจักรวาลก็ไปทางจิตจักรวาล
    ไม่มีใครผิด ใครถูก ไม่มีใครหลง ทุกคน ทุกจุด มีความสำคัญ และมีหน้าที่ของมัน
    ขาดคนหนึ่งคนใดไม่ได้ ขาดใครไปไม่ได้ สำหรับพุทธเกษตรนั้นเป็นดาวดวงหนึ่งที่
    เรียกว่า "พุทธเกษตรโลกธาตุ" เป็นภพภูมิๆ หนึ่ง มีแต่สวรรค์ ไม่มีโลกมนุษย์และ
    นรก (มีภพเดียว) ไม่เหมือนโลกธาตุนี้ที่ได้ชื่อว่า "ตรีสหัสสโลกธาตุ" เพราะมีสาม
    ภพ การดำรงอยู่ในโลกธาตุนั้น เป็นการดำรงอยู่แบบในระบบ ในภพภูมิ จึงเรียกว่า
    "การเข้ารีต" ก็ได้ อยู่ในรีต ไม่ได้นอกรีตไปไหน ส่วนการอยู่แบบไม่จำกัดภพภูมิก็
    มีเหมือนกัน ดวงจิตบางดวงจรไปไหนก็ได้ในจักรวาลนี้ ไม่มีภพภูมิเป็นขอบเขตกั้น

    พุทธเกษตรอยู่นอกจักรวาลนี้ ไม่ได้อยู่ในจักรวาลนี้ จิตจักรวาล คือ จิตที่ดูแลอยู่ใน
    จักรวาลนี้ เป็นดวงจิตที่จะออกไปจากจักรวาลนี้ไม่ได้ จึงเรียกว่า จิตจักรวาล ประจำ
    จักรวาลนี้ เมื่อคุณเดินทางออกนอกจักรวาลนี้แล้ว ไปสู่จักรวาลอื่น จะมีทั้งดวงดาวมี
    ทั้งที่ว่างมากมาย ถ้าคุณอยู่ประจำดวงดาวเรียกว่า "มนุษย์ต่างดาว" ถ้าคุณอยู่ประจำ
    พุทธเกษตร ก็เรียกว่า "ชาวพุทธเกษตร" ซึ่งมีหลายลักษณะ เช่น โพธิจิต, พุทธะ
    ข้อมูลนี้จำเป็นต้องบอกคุณ เพราะบางคนถอดกายทิพย์ได้ แต่ถอดออกไปแล้ว ก็หา
    พุทธเกษตรโลกธาตุไม่เจอ เหมือนพระโมคคัลลานะนั้น คุณจะต้องออกจากจักรวาลนี้
    ไปก่อน และอาศัยแสงธรรมของพระพุทธเจ้าแห่งพุทธเกษตรนั้นนำทางไป จึงจะถึง

    เล่าให้ฟังเล่นๆ อย่าไปซีเรียสอะไรเลยครับ อย่าไปเองเพราะอันตรายมาก จะหลงได้
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พุทธเกษตรของพระอามิตภะ
    เป็นพุทธเกษตรที่ใกล้ที่สุด
    ส่วนพุทธเกษตรแห่งอื่นๆ นั้น
    ห่างไกลออกไปอีกมากนัก
     
  8. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มันก็คือการจัดสรรของธรรมชาติให้เรารู้เราเห็นถึงสิ่งที่เรามีเราเป็นไงครับมันก็เหมือนการทำข้อสอบละครับ ข้อสอบนี้ก็จะมาเรื่อยๆโดยผู้รับมีเหตุปัจจัยภายใน ถูกกระตุ้นโดยสิ่งเร้าภายนอกโดยธรรมชาติจัดสรรมา มันก็จะแสดงตัวตนออกมาละครับ ถ้าข้อนี้ผ่านแล้วคุณก็จะไม่ต้องทำข้อสอบอีกครับ
    ธรรมชาติไม่ได้สนใจว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรหรอกครับ เขาทำตามหน้าที่ มีแต่คุณหรือคนทีึ่ทำข้อสอบเท่านั้นจะรู้สึกครับ
     
  9. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อย่าไปสงสัยอะไรมากมายเลยครับเกิดขึ้นบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินไปเอง อย่าไปพยายามเหนี่ยวรั้งอะไรให้อยู่กับตัวเลยครับ ผ่านแล้วก็ผ่านไป
    ก็ไม่แปลกครับสำหรับพวกที่มาจากด้านนนอก
    ผ่านข้อแรกบ่อยๆ เดี๋ยวข้อ 2 ก็จะมาเป็นระยะครับ หรือสงสัยก็ถามตัวตนข้อ 2 เลยครับท่านน่าจะรู้จักเขาดี กล่าวเลยครับขอนอบน้อมต่อทุกสิ่งและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลข้าพเจ้าได้กรุณาเปิดญานรู้ให้ข้าพเจ้าด้วย เวลาคุยใช้ใจนะครับเวลาขอก็ใช้ใจเช่นกันอย่าใช้ความคิด คำตอบมันจะออกมาเองละบ่อยๆก็จะชำนาญเองครับ
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระโพธิสัตว์แท้ๆ ทุกองค์จะมีคู่เสมอ


    จะปรากฎอยู่ขวาและซ้ายของพระพุทธเจ้า หรือพระยูไลนะครับ ไว้คอยคานดุลยภาพซึ่งกันและกัน ซึ่งคู่ของพระโพธิสัตว์นั้น อาจไม่ใช่คู่แบบปุถุชนก็ได้ บางครั้งอาจไม่ได้แต่งงานกันก็ได้ครับ แต่ก็จะบำเพ็ญบารมีทั้งคู่ และบำเพ็ญบารมีมาเจอกันครับ เช่น พระกวนอิมท่านก็มีคู่รักของท่าน (ตอนหลังท่านก็หนุนให้คู่รักของท่านได้เป็นฮ่องเต้หลังพระราชบิดาตายลงแล้ว ตามตำนานกล่าวว่าอย่างนั้นครับ) ที่เป็นแบบนี้ เพื่อให้เราคอยคุมกันและกัน ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีใครเตือน ไม่มีใครหยุดยั้งได้ เอาแต่ใจตัวเองอย่างเดียว

    ชายเองก็มีคู่ครับ แต่คู่ของชายเป็นผู้ชายเท่านั้นเอง
     
  11. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ก็ตรงนั้นไม่มีเพศมาเกี่ยวข้องอะไรมากมายอยู่แล้วครับ กัลยาณมิตรผมมีร่างเดิมเป็นหญิง แต่มาทำหน้าที่ก็เกิดเป็นผู้ชาย เวลาซื้อของให้ภรรยาก็จะซื้อเองให้ภรรยาใส่เลยครับ
     
  12. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จิต 4 แบบ


    1 จิตจักรวาล
    จะไม่มีภพภูมิรองรับ แต่จะอยู่ภายในจักรวาลนี้ไปภพภูมิไหนก็ได้อย่างอิสระ พวกเขาจะเป็นพวกอยู่นอกเหนือระบบภพภูมิ นอกรีต ไม่เอาภพภูมิอะไรทั้งนั้น จะเห็นแต่ "ความว่าง" เพราะจักรวาลเต็มไปด้วยความว่างเปล่า และจะไม่มีคู่ จะไม่เอาใครเหนือตัวเองทั้งนั้น คือ ไม่ยอมมนุษย์คนใดในโลกนี้เลย ยั้งไม่หยุด ฉุดไม่กลับ หลุดไปเลย

    2 จิตต่างดาว
    จะมีภพภูมิรองรับ แต่ไม่ใช่โลกนี้ จะเป็นโลกธาตุอื่น ดาวอื่น เรียกว่า "มนุษย์ต่างดาว" พวกเขาจะอยู่ในระบบภพภูมิ อยู่ในรีตของดาวนั้นๆ แต่ละดาวมีจารีต (ข้อปฏิบัติ, ข้อห้ามปฏิบัติ) ไม่เหมือนกัน พวกเขาจะนับถือ "ดาวแม่" หรือ ยานแม่, ยานพ่อ เป็นสำคัญ ซึ่งก็คือ เทพเจ้าผู้เป็นใหญ่สูงสุดในดาวนั้นๆ พวกนี้จะมีคู่แต่ไม่ใช่มนุษย์โลกอยู่ครับ

    3 จิตพุทธเกษตร
    จะมีภพภูมิรองรับ และไม่ใช่โลกนี้ แต่เป็นโลกธาตุๆ หนึ่ง ที่เรียกว่า "พุทธเกษตร" พวกเขาจะอยู่ในระบบภพภูมิ อยู่ในรีตของพุทธเกษตร ซึ่งจะมีข้อวัตร (ข้อปฏิบัติ, ข้อห้ามปฏิบัติ) เฉพาะในแบบของตัวเอง พวกเขานอกจากจะมี "พระพุทธเจ้าหรือพระยูไล" เป็นเหมือนผู้เป็นเจ้าสูงสุดแล้ว ยังมี "คู่" ซึ่ง "ไร้เพศ" (หรือมหาบุรุษเพศ) อีกด้วย

    4 จิตปุถุชน
    จะมีภพภูมิรองรับ ซึ่งก็คือ "โลก" นี้เอง แต่จะมีสามภพ แล้วแต่จะไปสู่ภพไหนเรียกว่า "ตรีสหัสสโลกธาตุ" พวกเขาจะอยู่ในระบบภพภูมิหรือเข้ารีตในแบบของโลกนี้ หากไม่ยอมเข้ารีต หลงออกนอกระบบ ก็จะกลายเป็นจิตวิญญาณแอบแฝง ซ่อนตัวอยู่ในโลกนี้ เช่น ซาตาน ครับ พวกนี้จะมีครอบครัว มีคู่ และทำตัวเหมือนปุถุชนทั่วไป อย่างที่เห็นกัน

    คุณละ มี "จิต" เป็นแบบไหน?
     
  13. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    มีแต่จิตเสื่อม แก้ไงดีครับ มีแต่ความคิดด้านลบ
    ต้องเข้าใจผมนะโดนตบหัวบ่อยจนเบลอหมดแล้ว
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมบัวบานเกิด เมื่อคุณเห็น "คุณค่าของคน" อย่างเท่าเทียมกัน


    เมื่อใดที่หัวใจของคุณเบ่งบานออกด้วยพลังแห่งรักแท้ รักที่บริสุทธิ์ เพราะคุณได้เห็น "คุณค่าของคนที่เท่าเทียมกัน" ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร สูงต่ำ, ดำขาว, เชื้อชาติ, ศาสนาอะไร ทำอะไรหรือไม่ทำอะไรอยู่ ทุกคนก็ม่ีคุณค่าไม่แตกต่างกัน นี่ไม่ใช่คิดไปเอง หรือปรัชญาเลื่อนลอยกล่าวให้สวยหรูอะไรนะ แต่คุณจะต้องได้ญาณหยั่งรู้ รู้ได้ถึง "คุณค่า" ของคนทุกคน แม้คนที่ดูไร้ค่าที่สุด คุณก็เห็นคุณค่าในตัวเขาได้ คุณรู้ได้ว่าเขากำลังทำกิจสำคัญใดอยู่ แม้ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรให้คุณเห็นเลย มันไม่แตกต่างกันระหว่างคนที่ทำอะไรให้คุณเห็น กับคนที่ไม่ได้ทำอะไรให้คุณเห็น เหมือนก้อนหิน, กรวดทราย, ต้นไม้, ภูผา ฯลฯ ที่อยู่นิ่งๆ อยู่เฉยๆ ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไร หรือไม่มีคุณค่า ไม่มีความหมาย ก็หาไม่ ตรงข้าม พวกเขาก็มีคุณค่า มีความหมายและมีภารกิจสำคัญไม่ต่างจากผู้เคลื่อนไหว เช่น สายลม, สายน้ำ ฯลฯ ทุกอย่างทำหน้าที่ของมัน ในแบบของมันเอง และไม่มีใครแทนที่ใครได้ ทุกจุดมีความสำคัญ ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือคนหนึ่งคนใดไปไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าใครสำคัญกว่าใคร ไม่ได้แปลว่าสิ่งที่เคลื่อนไหวจะสำคัญหรือมีคุณค่ากว่าสิ่งที่หยุดนิ่ง แลทุกสิ่งล้วนเป็นเช่นนั้นเอง

    เมื่อนั้นคุณจะเห็นความเสมอภาคในธรรม ความเป็นหนึ่งเดียวกันของธรรม และสรรพชีวิต สรรพจิตทั้งหลาย ล้วนเป็นไปในกฏนี้ พวกเขาล้วนมีความเสมอภาคกันโดยธรรม มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และมีกำเนิดมาจากพุทธะไม่ต่างกัน พวกเขาล้วนเป็นองค์นิรมาณกายแห่งพุทธะ เป็นมหากรุณาในรูปนามแบบใหม่ๆ เป็นมหาปัญญาที่ซ่อนเก็บไว้รอวันเปิดเผย เพียงแต่เรายังไม่ได้เห็นธรรมเหล่านี้ปรากฎต่อหน้าเรา และมันจะเกิดขึ้นได้ เมื่อดอกบัวแห่งรักบริสุทธิ์ เบิกบานขึ้นในใจของเรา ไม่มีความแตกต่างกันในพระและฆราวาส คุณสามารถทำบุญให้กับพระก็ได้ ฆราวาสก็ได้ ไม่ต่างกัน ไม่แตกต่างกันในการปฏิบัติของนักบวชและผู้ไม่ถือบวช ทุกคนล้วนปฏิบัติอยู่ใน "เส้นทางของพวกเขาเอง" ไม่มีใครหลง ไม่มีใครผิด ทุกอย่างล้วนเป็นเพียง "เหตุปัจจัย" ปรุงแต่งไปสู่การเรียนรู้และเข้าใจสิ่งใหม่ๆ ขยายองค์มหากรุณา ขยายพรหมแดนแห่งพุทธะ ขยายอาณาจักรแห่งพระเจ้า ให้กว้างไกลออกไปอย่างไร้ประมาณ ไม่มีที่สิ้นสุดเท่านั้นเอง แลเมื่อนั้นพุทธเกษตรก็เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน สรรพสิ่งรอบตัวของคุณกลายเป็นพุทธเกษตร ไม่มีความแตกต่างกันไม่ว่าโลกนี้แลโลกไหน โลกก่อนนี้หรือโลกหน้า

    ทุกอย่างก็บริบูรณ์อยู่แล้วโดยไม่ต้องแสวงหาหรือไม่แสวงหาเลย
     
  15. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    แม้กรวดทรายเล็กๆ ก็มีคุณค่าในตัวมันเองเสมอ!

    บางคนอาจนิ่งเฉย เหมือนไม่ทำงานการอะไรเลย
    แต่ใครจะรู้บ้างว่าภูเขาที่นิ่งเฉย ไม่ทำอะไรเลยนั้น
    มีหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ เพราะหากภูเขาไม่นิ่งเฉยแล้ว
    ย่อมเกิดภัยพิบัติ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดได้


    อย่าตัดสินคุณค่าของคนต่ำ เพียงเพราะเห็นเขาไม่ทำอะไร
     
  16. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    แล้วทนทำไม...ทำไมไม่สวนบ้าง
    หรือเอี้ยวตัวหลบฉากถ้าเป็นผู้มีพระคุณ

    หรือจะเป็นแค่ผู้ให้ความมันส์มือแก่คนอื่น
     
  17. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    บอกตรงๆนะครับท่านดอกไม้ผมไม่เคยเลือกเลยว่าจะมีจิตแบบไหนและก็ไม่เคยรู้ด้วย ความรู้โดยส่วนใหญ่ที่ได้มาเกิดจากการเรียนรู้ธรรมชาติ เรียนรู้ตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองเกือบทั้งหมด และผมอาศัยธรรมของท่านดอกไม้ ทำความเข้าใจตัวเองสัมผัสสภาวะต่างที่เกิดขึ้นในการคุยกับท่านในแต่ละครั้งพูดตรงๆผมไม่มีทฤษฎีใดเลยผมใช่สัญชาติญานล้วนๆครับ และสิ่งที่ผมเชื่อมั่นก็คือธรรมชาติและผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติผมจึงปล่อยให้ธรรมชาติจัดสรรไปตามแต่เขาต้องการครับท่านดอกไม้
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    การปฏิบัติใน "โลกียภูมิ" ยังมีความเสื่อมได้


    ก็ต่อเมื่อบำเพ็ญธรรม, ปฏิบัติธรรมใน "โลกุตตรภูมิ" แล้ว จึงจะพ้นจากความเสื่อมได้ ส่วนใหญ่พระที่บวชตลอดชีวิต มักก้าวข้ามเรื่องโลกียะมาได้ระดับหนึ่ง แต่หลายรูปยังหวนกลับไปสู่โลกียะต่อ ด้วยลาภสักการะ เป็นของทางโลก เดี๋ยวเขาเอามาล่อกันเยอะ ทั้งการยกย่อง, สรรเสริญ, ตำแหน่ง, ตาลปัตร, พัดยศ, ฐานันดรศักดิ์ ฯลฯ มันเยอะ อันนี้เป็นโลกียะหมดนะ พอเขาเอาของโลกียะมาล่อแล้ว ทีนี้ พระท่านก็เผลอกลับเข้าไปในโลกียะ จิตถลำเข้าไปในโลกียภูมิแล้ว ทีนี้ อะไรที่เคยบำเพ็ญได้มาก็เสื่อมได้หมด ฌาน, ญาณ อะไรก็เสื่อมได้หมดนะ ส่วนฆราวาสทรงธรรมนี่ทรงธรรมให้หลุดพ้นจากความเสื่อมได้ยาก หลายคนไปฝึกไปปฏิบัติได้มโนมยิทธิ ได้อะไรกัน ต่อมาก็เสื่อมอีก มันเสื่อมกันได้ เพราะยังเกี่ยวข้องอยู่ในโลกียะ ยากที่จะไม่เสื่อมนะ พวกเราๆ ท่านๆ ทั้งหลายนี่ หลายคน "เคยได้" แต่เดี๋ยวนี้ต้องลองตรวจดูดีๆ นะ หลายท่านเสื่อมไปแล้ว ไม่ได้เช่นเดิมแล้ว แต่เปลือกนอกมันเหมือนยังมีอยู่แบบปลอมๆ ยกตัวอย่าง เช่น

    1 ศรัทธาอินทรีย์เสื่อม
    คือ ศรัทธาใครไม่เป็น บางคนถึงขั้นไม่ศรัทธาใครเลย ต่อให้มีคนมีธรรมมาแสดงธรรมตรงหน้า จิตที่เคยน้อมรับ ศรัทธา ก็ไม่มีอีกเลย

    2 วิริยะอินทรีย์เสื่อม
    คือ วิริยะผิดๆ ไม่ตรงทาง ขยันในเรื่องที่ไม่ควรจะทำเป็นต้น แทนที่จะขยันลด, ละ, วาง, เลิก ก่อกรรมทำเข็ญ กลายเป็นขยันก่อกรรม

    3 สมาธิอินทรีย์เสื่อม
    คือ สมาธิเสื่อมไป ฌานเสื่อมไป เคยทำสมาธิได้ ทำไม่ได้ เคยมีจิตสงบระงับ ก็ไม่มี เคยอยู่คนเดียวได้ ก็อยู่ไม่ได้ เหงา อยากม่ีคู่

    4 สติอินทรีย์เสื่อม
    คือ สติที่เคยฝึกได้ เคยมี เสื่อมลงไป เคยระลึกเท่าทันได้ ก็ระลึกไม่ได้ ไม่เท่าทัน หลง, เผลอเพลินไป มีแต่ความหวาดระแวงแบบผิดๆ

    5 ปัญญาอินทรีย์เสื่อม
    คือ เคยมีปัญญาก็ไม่มี เสื่อมไป ไม่รู้ว่าปัญญาที่แท้คืออะไร? กลายเป็นมีความรู้มากแทน รู้เยอะแยะไปหมด แต่ไม่มีปัญญาญาณจริงๆ

    ลองตรวจสอบดูตัวเองนะครับว่าท่านเสื่อมไปเพราะโลกียะแค่ไหน
     
  19. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ครับท่านดอกไม้ ผมยังต้องเรียนรู้อีกมากมายเพราะผมเองก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษอันใด เพราะถึงรู้แล้วเข้าใจถ้าทำผิดก็ยังผิดอยู่ดี
    ความเข้าใจในธรรมหลายๆอย่างยังคงห่างจากท่านดอกไม้มากมายครับ
     
  20. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ท่านดอกไม้เคยเป็นป่ะ เวลาเจอคำถามยากๆ
    จิตมักจะคิดหาคำตอบไปเรื่อย ไม่ได้ก็หาไปอีก คิดจนหัวร้อนลืม
    วันต่อมาไปนึกคำถามเดิมใหม่ ก็วนหาคำตอบใหม่ หาไม่ได้ คิดมากลืม
    ที่โพสออกมาของผมจึงมาจากการเดาทั้งนั้น
    เรื่องที่ผมคิดก็ จักรวาล โลก ดวงดาว ความตาย จนไม่มีเวลาหาเงินแล้วเนี่ย
    เพราะมันอจินไตย ถ้าแต่งนิยายก็พอได้ แต่ความคิดมารัวไม่เบรกเลย หัวร้อนลืม แล้วตรูจะเขียนไรดี
    กินยาแป๊ป สงสารทั้งพ่อ แม่ และตัวเอง พระเยซูจะหาเพื่อนรึไง ถึงมาลงที่ผมนักหนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...