ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    บอกอยู่เสมอ แต่เขาไม่เชื่อเอง
    บอกว่าอย่าทำเลย เขาก็ไม่ฟัง
    เสร็จแล้วก็พัง เจ๊ง ...

    ไม่พูด ก็หาว่ามีความลับ
    บอกไป ก็ไม่เชื่ออีก

    นี่และ คน ...
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ไม่เคยมีระบบความคิดที่ว่า ...


    ฉันตรัสรู้ "ธรรมะอันสูงส่ง" ที่ไม่มีใครเอื้อมถึงได้
    เพราะจริงๆ ธรรมะ มันเป็นเรื่องธรรมดา พื้นๆ เอง

    หรือคิดว่าคนอื่นโง่หมด บอกไปแล้วจะไม่ดี เลยปิด
    แบบพระสมณโคดมทำ เพราะคิดว่าคนเราทุกคน
    เท่าเทียมกัน ไม่ต่างกันด้วยความโง่ความฉลาด
    แต่ต่างกันที่ใจต่างหากว่าจะ "เปิดรับ" เมื่อไร?

    หากใจเขาพร้อมรับ "ความจริง" เมื่อไร เราก็บอกได้เมื่อนั้น
    เช่นนี้ "ดอกบัวเหล่าบน" ของเรา ไม่ใช่คนที่ฉลาด
    แต่เป็นคนที่มีใจสูง พร้อมเปิดใจรับธรรมครับ
     
  3. tantawan

    tantawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +1,756
    ....................................
    อ่านแล้ว..ได้ข้อพิจารณาไปอีกแบบ
    ขอ COPY... ไปแปะที่อื่นหน่อย นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2016
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระสมณโคดม ไม่ได้ตรัสรู้ "ธรรมบัวบาน"


    แต่ทรงตรัสรู้ "ธรรมพิณสายกลาง" ของพระอินทร์ แม้ว่าจะทรงนั่งพิจารณาบัวสี่เหล่าแล้ว แต่ก็ไม่ตรัสรู้จึงทรงแสดงปริศนาแห่ง "ธรรมบัวบาน" ด้วยการชูดอกบัวบานให้แก่พระมหากัสสปะ ทว่า พระมหากัสสปะก็ไม่ได้ตรัสรู้ธรรมบัวบานอีก ตามบันทึกของนิกายเถรวาท กล่าวว่าท่านยังต้องไปปฏิบัติอะไรหลังจากนั้นอีกมาก จึงจะบรรลุธรรมครับ ธรรมบัวบานจึงยังเป็นแค่ "ปริศนาธรรม" (โกอาน) ที่ยังไม่เคยมีใครบรรลุได้เลย แต่พระสมณโคดมก็ได้แสดงไว้ว่ามีธรรมนี้อยู่จริง ใน "สัทธรรมปุณฑริกสูตร" ซึ่งจะมีผู้ตรัสรู้ธรรมนี้และแสดงธรรมนี้ ใน "ยุคกึ่งกลางพุทธกาล" เป็นต้นไป ซึ่งธรรมบัวบานนี้เป็นธรรมที่จะใช้จริง ณ ปัจจุบันสมัย คือ ยุคของพระศากยมุนีนี้ แม้แต่ "ท่านติช ณัช ฮันห์" ก็ได้รับปริศนาธรรมนี้ ด้วยคำว่า "ปัจจุบันขณะ" แต่ท่านก็ตีปริศนาธรรมนี้ไม่แตก ไม่ทราบว่าธรรมที่เหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบันคือธรรมอะไร? ท่านก็สอนคนต่อไปให้เป็น "ปัจจุบันขณะ" ด้วยลมหายใจเข้าออกแทน ซึ่งการฝึกจิตแบบนี้เป็น "วิถีโยคะตันตระ" ของสายตันตระ มิใช่เซน มิใช่ธรรมบัวบานครับ ทั้งนี้ พระศากยมุนีจึงทรงให้ปริศนาธรรมนี้ลงมาสู่พระสมณโคดม เสียดายตอนนั้นยังไม่มีใครบรรลุถึงได้ครับ อาจเพราะยังไม่ถึงเวลา "กลางพุทธกาล" นั่นเอง พระสมณโคดมจึงใช้อุบายเลือก "คนฉลาด" ไปโปรดก่อน ซึ่งคำว่า "บัวเหล่าบน" นั้น ไม่ได้หมายถึงคนฉลาดหรือคนโง่เลยครับ

    แต่ "บัวเหล่าบน" หมายถึง "ผู้มีใจสูง พร้อมเปิดรับธรรม" ตะหากครับ
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    โอเคคับ
     
  6. ไอ้นอกโลก

    ไอ้นอกโลก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    572
    ค่าพลัง:
    +72
    ยิ่งอ่านยิ่งรับยิ่งเข้าใจ.
    โอ้.พระเจ้า.เธอมาถูกทางแล้ว ยินดีๆ..:cool:
     
  7. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ่าครับไม่รู้ดีหรือไม่ดี โดน2-4 มาละครับ ก็ค่อยๆแก้ไปละครับจริงๆเขาก็แสดงออกมาเรื่อยๆละครับก็รู้อยู่แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรกัน ก็รู้ว่าเขาแฝงอยู่ก็ต้องเชิญออกละครับติดกันแบบนี้เขาก็ไม่ได้ก้าวไปไหนซะที ก็ซักตัวเองอยู่ละครับตอนนี้แสบๆนิดหน่อย
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    แหง๋อยู่ละ เล้งหูชง ซะอย่างนี่

    [​IMG]
     
  9. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    การเดินทางที่ไม่รู้อะไรเลยนี่มันสนุกๆจริงๆนะครับ เจออะไรมากมายเหมือนกับการเล่นเกมแล้วค่อยๆเก็บเลเวลเลย เพราะความไม่มีทำให้เรามีอะไรมากขึ้นจริงๆ ครับท่านดอกไม้
    เข้าบทโหดรู้สึกเหมือนกายเปลี่ยนสภาพไปเลยครับ
    แต่ข้างในยังต๊อกต๋อยเหมือนเดิมครับ อ้วกลมไปหลายรอบเลยท่านดอกไม้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2016
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    มหาปราบต์สุริยันจันทรา


    ครั้ง คุรุปัทมสมภพ ก่อตั้งนิกายวัชรตันตระในทิเบตนั้น ท่านต้องผจญกับลัทธิบอน
    ซึ่งมีสัญลักษณ์คือ "พระอาทิตย์กับพระจันทร์" ท่านต้องเคลียร์ความเชื่อเก่าเพื่อ
    สอนสิ่งใหม่ สุดท้ายก็สำเร็จ เฉกเช่น เล้งหูชงในเรื่อง "กระบี่เย้ยยุทธจักร" ก็ต้อง
    ผจญพรรคสุริยันจันทรา เช่นกัน

    ในประเทศไทยเรามีพลังของสุริยัน (เสื้อแดง) และจันทรา (พวกที่จะหนุนผู้หญิง
    ขึ้นเป็นกษัตริย์) พลังสองอย่างนี้ ปะทะกัน ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ธรรมบัวบาน เป็น
    ธรรมใหม่ที่จะนำมาลงหลักปักฐานในเมืองไทย ซึ่งดีกว่าวัชรตันตระของทิเบต ถาม
    ว่าดีกว่ายังไง? ง่ายคือ มันเป็นธรรมที่ใช้โปรดสัตว์ยุคปัจจุบันนี้ครับ เป็นธรรมที่พระ
    ศากยมุนีมอบให้มา แต่ยังไม่มีผู้สำเร็จจนกว่าจะถึงกึ่งกลางพุทธกาล ก็จะเปิดเผยได้

    ท่าน "นิชิเร็น" เองก็เกือบจะได้ธรรมนี้ และถ่ายทอดธรรมนี้แล้ว แต่เพราะยังไม่ถึง
    เวลา ทำให้การทำกิจของท่านถูกขัดขวาง ถึงขั้นถูกไล่ฆ่าเลยทีเดียว ปัจจุบัน ชาย
    ต้องใช้ธรรมพระจันทร์ เพื่อเคลียร์พลังธรรมสายสุริยันจันทรา โดยไม่ต้องปราบ
    ทำลายล้าง แต่ดึงเอาพลังของเขามาใช้เป็นเครื่องช่วยเผยแพร่ธรรมบัวบานอีกที
    ครับ เพราะโลกยังไม่ถึงเวลารุ่งอรุณของมัน ยังอยู่ในยุคมืดอยู่เลย นั่นเอง

    จึงเป็นที่มาของ "มหาปราบต์สุริยันจันทรา" ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 11 มิถุนายน 2016
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ปล่อยให้ถลำลึกเข้าไปเองโดยไม่รู้อะไร
    ดีกว่าบอกก่อน แล้วเขาไม่ยอมเดินไป ใช่ไหม

    พอเขาถลำลึกเข้าไปแล้ว อาจทุกข์ใจ เราค่อยเฉลย
    ปลอบประโลมให้เขามั่นใจในเส้นทางที่เขาเดินอยู่นั้นๆ
     
  12. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    เขียน ๒๑.๓๒


    แหม..เหมือนแผน "ขุดบ่อล่อปลา" เลยนะนั่นน่ะ
    แสดงว่าทางเดินต้องลำบากโคตรๆ เลยล่ะสิ
    ถ้าเค้ารู้ก่อน ต้องไม่ยอมเดินลุยเดี่ยวแน่
    หน่วยหนับหนุน ก็ได้แต่โม้อยู่ห่างๆ
    แม้จะอย่างห่วงๆ เอาเปรียบจัง


    คุยคนละเรี่องเดียวกัน / จับแก๊ะชนแผะ

    .
     
  13. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ยังไงก็ขอบคุณตัวตนที่แฝงทุกตัวนะครับทำให้เข้าใจอะไรเยอะเลยธรรมชาตินี่จัดสรรได้ดีจริงๆ
    จริงๆผมว่าธรรมบัวบานที่ท่านกล่าว บานได้ไม่ยากครับเพราะถ้าถึงเวลาเหมาะสม สิ่งที่ต้องบานยังไงก็ต้องบานครับ อยู่ที่เขาจะเปิดใจหรือเปล่าท่านดอกไม้คอยสะกิดบ่อยๆเดี๋ยวก็บานเองละครับ
    เพราะผมมองว่าบัวบานใช้ความรักเป็นสะพานใช้เป็นกระบี่ใช้เป็นเข็ม ใช้เป็นค้อน เป็นตัวอักษรแล้วแต่ความถนัดของแต่ละบุคคลครับ(แต่จะใช้ได้ต้องมีรักก่อน) คือใช้ความรักเป็นสภาวะโดยคนคนนั้นต้องมีความรักจริงๆมีความปารถนาที่จะให้จริงๆจากภายในครับ เมื่อส่งไปแล้วใครรับได้ ความรักนั้นก็จะเติบโตขึ้นภายในใจของเขาเอง รอเวลาที่จะบานเท่านั้นครับซึ่งใครได้รับก็จะถูกบีฑาธรรมอย่างที่ท่านดอกไม้กล่าว แม้ถูกกระทำอย่างไรในใจก็ยังมีรักอยู่ ความรักย่อมเติบโตขึ้นเองครับ แต่ถ้าใครไม่ผ่านความรักนั้นก็อาจจะค่อยๆหายไปครับบัวก็จะหุบไปรอโอกาสบานในรอบหน้ามั้งครับ ผมจึงมองว่าบัวบานบานด้วยความรักเต็มไปด้วยความรักที่บริสุทธิ์จริงๆครับ แต่ก็อาจจะมีหลายสีนะครับแต่บานเต็มที่ก็คงเป็นสีขาว
    ขอโทษครับนี่ในมุมมองของผมเองครับ
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    คนเราทุกคนอยากทำงานกันทั้งนั้นแหละ
    ไม่มีใครอยากเอาเปรียบใครหรอก

    แต่คนที่อยากทำ อาจไม่ได้ทำ หรือถูกแย่งทำ
    และคนที่ไม่ควรจะกระทำ กลับทำ ไม่ยอมให้คนอื่นเลย


    สุดท้าย ผมมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ผมเองยังงงๆ บ่องตง ไม่ได้เจตนาครับ
     
  15. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ครับผม คล้ายกับเดินไปไม่รู้จริงๆ เหมือนตกเหว แล้วเจอสัตว์ประหลาดเยอะมาก จะตายแหล่ไม่ตายแหล่ แต่ก็รอดมาได้แบบงงๆ ถ้ารู้ล่วงหน้าไงก็ไม่กล้าทำครับ
    เมื่อก่อนทุกข์ใจทุกข์กายก็นอบน้อมขอบคุณที่ให้ได้เรียนรู้ในหลายๆอย่างครับ
    ตอนนี้ทุกข์ใจ(ถ้ามีนะครับ)เหรอช่างมันไม่ตายหรอกเดี๋ยวก็หายทุกข์ไปหลายๆรอบมันก็ไม่ทุกข์เองละครับ
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    มูลเหตุอันเป็นที่มาของพระสูตรสำคัญ 3 พระสูตร


    ดังที่ทราบกันว่าพระสมณโคดมตรัสรู้นิพพาน หลังขันธปรินิพพานโดยรอบแล้วปรากฎ "จิตประภัสสร" ขึ้น พร้อมจุติจากร่าง ขณะที่จะทรงปฏิบัติต่อไปเพื่อให้ถึง "พระธาตุนิพพาน" (มโนธาตุนิพพานหรือจิตนิพพาน นั่นเอง) ก็มีพระอินทร์มาดีดพิณบอกปริศนาเสียก่อนถึง "ความพอดี" พระองค์จึงทรงหยุดไว้ก่อนเพียงเท่านั้น เพื่อโปรดสัตว์อื่นก่อน แล้วจึงค่อยกระทำพระธาตุนิพพานในช่วงปิดท้ายพุทธกาลแทน เหตุนี้ พระมหากัสสปะจึงถ่ายทอดเรื่องนิพพานไว้ในนิกายเถรวาท และเรื่องจิตประภัสสรไว้ในนิกายเซน (จิตสู่จิต) เพื่อให้ผู้ปฏิบัติที่อินทรีย์ยังอ่อน ปฏิบัติให้ได้นิพพานก่อน อย่าเพิ่งไปอยากได้ธรรมะขั้นสูง จนกลายเป็นเร็วลัดขั้นตอนเกินไป และถ้าได้นิพพานแล้ว มีกำลังจิต กำลังใจไปต่อได้อีก ก็จะศึกษาต่อได้ในนิกายเซน ก็จะทราบเรื่องจิต, โพธิจิต มากขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ระหว่างโปรดสัตว์นั้น เกิดปัญหาขึ้นมากมาย พระศาสดาจึงได้แสดงธรรมสำคัญ อันมิใช่สัจธรรมโดยตรง แต่เกี่ยวข้องกับสัจธรรม พระสูตรทั้งสาม จึงไม่ได้ถูกสังคายนามาไว้ในอภิธรรมของเถรวาท แต่นำไปไว้ในฝ่ายมหายานแทนเพราะเป็นอุบายธรรม

    พระสูตรสำคัญทั้งสามได้แก่ ปรัชญาปารมิตาสูตร ซึ่งเป็นอุบายแก้อวิชชา, ความหลง จากการศึกษาธรรมะผิดๆ ไม่บรรลุธรรม จนเกิดเป็นขยะสะสมในใจมากมาย ท่านจึงให้ใช้ปรัชญาปารมิตาสูตรเป็นเครื่องแก้ เครื่องล้าง "มิใช่เป็นสัจธรรม" จึงมิต้องไปหลงยึดติด ถ้าหากเป็นสัจธรรม จะต้องปรากฎมีในอภิธรรมของฝ่ายเถรวาทแน่ๆ นี่ไม่ใช่ นี่เป็นเพียงอุบายเครื่องล้างพิษ เครื่องแก้พิษธรรมะเท่านั้น อนึ่ง เรื่องมหาสุญตากับนิพพาน เป็นคนละสิ่งกัน หากนำมาผูกมั่วให้เป็นอันเดียวกัน ก็จะทำให้เกิดปัญหาทันที เหตุนี้ เถรวาทจึงต้องแยกจากมหายาน ใช้คำสอนเดียวกันไม่ได้ พระสูตรต่อไป คือ พระสูตร "อวตังสกสูตร" ซึ่งเป็นเครื่องแก้ เครื่องล้าง พิษของสุญตาอีกที บางคนคลั่งใคล้ความว่าง หลงสุญตามากไป ท่านจึงต้องแสดงธรรมนี้ขึ้นมา แต่ในยุคนั้นยังไม่ถึงวาระเปิดเผย จึงได้นำไปซ่อนไว้ในเมืองบาดาล ก่อนจะเปิดเผยมาในภายหลัง พระสูตรสุดท้ายก็คือ "สัทธรรมปุณฑริกสูตร" พระสูตรนี้เป็นธรรมสำคัญ ที่ใช้โปรดสัตว์ในกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป ในเนื้อหาพระสูตรยังเป็นเพียงการกล่าวถึงธรรมอย่างหนึ่ง เป็นปริศนาธรรมอยู่ รอให้มีผู้บรรลุธรรมนี้ ก็จะใช้ธรรมนี้ในการโปรดสัตว์ต่อไป นี่คือ สาเหตุและที่มาของพระสูตรสำคัญทั้งสาม ซึ่งท่านต้องไม่สับสน ใช้ให้ถูกครับ

    เพราะหากใช้ผิด กรรมจะตกแก่ท่าน มิใช่น้อย เป็นกรรมหนักครับ
     
  17. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    ความรักก็ดี ธรรมทั้งหลายก็ดีล้วนมีการแสดงในทางของมัน ความรักย่อมเป็นส่วนประกอบในการใช้ธรรมขับเคลื่อนธรรมต่างๆ เมื่อมีรักย่อมใช้รักกับธรรมอะไรก็ได้ เช่นกันก็สามารถ ใช้โทสะ โลภะ เคลื่อนธรรมได้ไม่ต่างกันหรืออาจจะผสมธรรมต่างให้เหมาะสมกับกาลอยู่ที่ผู้ตีความธรรมนั้นเป็นเช่นไร แต่กระทู้นี้เป็นเรื่องของบัวบานซึ่งใช้ความรักเป็นเชื้อก็เลยกล่าวในแนวนี้ ถ้าวันใดท่านดอกไม้มากล่าวธรรมขวานผ่าซุงผมก็ยังคงเชื่อถือท่านอยู่ดีเพราะผู้ที่จะเข้าพุทธเกษตรย่อมมีธรรมดาให้เรียนรู้
    ใครจะมองเรื่องอัตตาอนัตตา ผมไม่ได้สนเลยเพราะตัวตนของท่านดอกไม้ได้แสดงไว้ดีแล้วถึงได้เชื่อถือครับ
     
  18. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    เพราะได้ให้อภัยแล้วซึ่งความไม่รู้ของผู้อื่น เพราะได้ให้อภัยแล้วซึ่งความไม่รู้ของตัวเอง เธอกับฉันถึงรักกันได้ เพราะเราโง่เหมือนกันนี่หว่า......
    ก่อนถึงรักเอาทีละขั้นนะครับผม
    ขอโทษที่มาตอบในกระทู้นะครับ และขอโทษทุกๆคน แค่อยากบอกว่าเราทุกคนรักกันได้ด้วยเหตุนี้
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ขอตัวพักก่อนนะครับ
    รู้สึกเหมือนกำลังสลายอีกแล้ว

    เหมือนกำลังเข้าสู่การกำเนิดใหม่อีกรอบครับ
     
  20. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    แรกๆก็หนักหน่อย พอเกิดบ่อยๆก็สบายตัวแบบบอกไม่ถูกหรือเปล่าครับท่านดอกไม้
     

แชร์หน้านี้

Loading...