อภิญญา พลังจิต เปิดใช้ได้ด้วยคลื่นเสียง จากวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน

เขียน ๑๐.๐๒


มีด้วยหรือครับ เพลงที่ฟังแล้วอยากฆ่าคน ไม่เคยเจอแฮะ
แต่ก็อาจจะเพราะว่า ระบบออโต้ของเราเค้าเลือกให้ มั้ง
เพลงที่ไม่เข้าท่า ก็ไม่ฟัง จิตไม่ต้องรับรู้ เค้าจัดให้อ่ะ

เพลงไทยเดิม ฟังไม่ค่อยได้หรอกครับ ช้าเกินไป
ระบบประมวลผลของเรา มีหลายคอร์มากมาย
ซีพียูในตลาด ล่าสุดแค่หกคอร์รึป่าวหว่า
แต่คอเรามากกว่า มีคอหมูย่างด้วยนะ
เลยไม่ค่อยชอบเพลงไทยเดิมนัก
แต่ก็ได้บ้างบางครั้ง บางเพลง

ส่วนเรื่องโค๊ตลับนั้นน่ะนะ แกะได้สบายบรื๋อ ไม่มีปัญหา
แม้จะเป็นโค๊ตหลากมิติ ซ่อนความหมายได้สารพัน
จะกี่สิบก็แก้ได้หมดแหละครับ ตามเงื่อนไขเวลา
หรือสถานการณ์รอบด้านเปลี่ยน เราก็พริ้วไป
บางทีก็กลิ้งเอา พริกแพงก็ไม่ต้องกินเผ็ด
เฮ้ย..ออกทะเลแล้วเว้ยเฮ้ย เข้าฝั่งเร้ว

เพลงที่ชอบ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในยุคที่กะลังฟังเพลง ช่วงวัยรุ่นอ่ะ
ก็รุ่นยี่สิบสามสิบปีแล้วโน่นแน่ะ แต่ก็ไม่ได้จำกัดนะ ใหม่ก็ได้ สวยดี
อย่างเช่น ม้าเหล็ก ของไมโคร ก็ได้ใช้งานบ่อยๆ บางช่วงที่ต๊อแต๊ มืดมน
หรือเพลง wipe out ของเต่าทอง ก็เคยใช้ชำระล้างรมณ์เสียบ่อยๆ ตอนโน้น
หรือแม้แต่ Bad Romance ของเลดี้ กาก้า ก็เอามาใช้งานได้นะ จะบอกให้
เคยใช้โวยใส่พระเจ้ามั้ง หรือใครหว่าที่เคี่ยวเข็ญเรา ตอนรมณ์ไม่ดี หึหึหึ
ยอดฝีมือน่ะ เค้าต้องรับได้ทุกท่าครับ จะของดีของเสีย เอาอยู่หมด
ด้วยเทคนิค แทคติก ตุกติก ทริค และแถ ห้ากระบวนท่าเด็ด


กระต่ายป่า เคยบ้าเคยหาย / แถไปได้ ตลอดตลอด
.

 

เมื่อก่อนเคยฟังเล่นๆอยู่นะ (ไม่รู้แบบเดียวกับ จขกท กล่าวเปล่า)
แบบคลื่นเสียงแต่ละช่วงความถี่ไรแบบนี้ เช่น
174, 285, 396, 417, 528, 639, 741, 852, 963 Hz

 

ใช้แล้ว ก็คลื่นพวกนี้แหละ ฟังแล้วเป็นไงบ้าง ปวดหัวป่าว?

 

คงไม่มีใครทำอะไรกับ Iron Man ได้ ขอนับถือในจิตที่มั่นคงของท่านจริงๆ

 

เขียน ๒๑.๓๙


ขยายความหน่อยดีไม๊อ่ะ ชาวบ้านเค้าจะได้รู้เรื่องด้วย
ว่า ส่วนไหนที่นับถือ และที่ว่ามั่นคง มั่นคงต่อสิ่งใด
จะชมก็ชมให้ชัดๆ หน่อยดิ ปลื้มใจไม่ถูกเลยอ่ะ


หุ่นอนัตตา / ยังมีความโง่ ก็ยังฉลาดขึ้นได้
.

 

ชื่นชมในอารมณ์จิตสร้างสรรค์อ่ะดิ แกะโค๊ตแฝงก็ได้ ยินดีด้วย มีแกะเลข หวยได้ไหมอ่ะ มาบอกกันมั่งสิ

 

เขียน ๑๙.๓๗

ขอบคุณแทนเพื่อน "ฝั่งโน้น" ด้วยครับ ในคำชมเชย
ไม่รู้ใครบ้าง มาช่วยคิดให้ คิดคนเดียว คงมั่วไม่ได้ขนาดนี้
โค๊ตแกะได้ ถูกผิดก็ช่างหัวมัน แกะผิด เค้าก็ส่งตัวใหม่ให้อ่ะ ๕๕๕
พวกเลข หรือหวย มันเด็กๆ ไม่ใช่รึ ใครๆ เค้าก็ว่างั้น เราโตแล้ว ไม่รู้หรอก


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

Hello

 

เคยฟังเสียง 543 ไรนี่แหละ กำลังสบายหู ถ้าต่ำกว่ามันจะเสียงแหลม ประสาทกิน

 

ขอเสริมเพิ่มเติมวิธีการปฏิบัติ อภิญญาพลังจิต อีกแบบหนึ่งค่ะ ที่น่าสนใจที่เกี่ยวกับเรื่องสมองเหมือนกันค่ะ

จิตวิญญาณติดตั้งไว้ที่สมอง ตรงต่อมพิทูอิทารี่.... สมองของมนุษย์จึงเปรียบเสมือนเป็นตัวเทนของจิตวิญญาณ

สมองของมนุษย์มีสองซีกซ้ายและขวา....

สมองซีกซ้าย เป็นสมองที่ใช้งานกันโดยอัตโนมัติ จะเป็นการคิดรู้สิ่งใหม่ ๆ ภายใต้กรอบวัตถุ

สมองซีกขวา อันให้หมายถึง การคิดรู้และสร้างความสัมพันธ์กับจักรวาลได้ แม้สิ่งใด ๆ ที่เกินสติปัญญาของจิตวิญญาณ ในการสัมผัสรู้ทางกาย ผ่านช่องทางประสามทสัมผัสทั้งห้า ทีเรียกว่า "สัมผัสที่6" สามารถค้นคว้าพัฒนาจิตวิญญาณของตน เพื่อให้แสวงหาพลังอำนาจให้ตนเองให้เข้าถึงสติปัญญาสูงสุดในการคิดรู้สรรพสิ่งในระดับจิตจักรวาล ไม่ใช่การคิดรู้แบบจิตมนุษย์แบบจิตหยาบ ๆ ตามสมการเส้นตรงอย่างผู้เชี่ยวชาญการใช้สมองซีกซ้ายนำขาวเขาคิดรู้กัน

หลักปฏิบัติในทางศาสนาตะวันออก ใช้แนวทางการทำสมาธิและวิปัสสนา หยุดยั้งการทำงานของจิตภาคแรกของสมองซีกซ้ายที่เป็นอัตโนมัติ

ด้วยวิธีการ กำหนดรู้ ด้วยการกดระงับหรือการปิดกั้นกระบวนการทางอารมณ์ใด ๆ ของตนไว้ เพื่อให้กระบวนการนี้หยุดนิ่ง ซึ่งจิตจะเข้าสู่สภาวะสุขสงบเพราะสมองซีกซ้ายกำลังถูกกระทำให้ไร้สำนึกชั่วคราว ตราบเท่าที่มีสมาธิอยู่ หากสมองซีกซ้ายถูกกดให้ไร้สำนึกได้เช่นนี้ การคิดรู้ด้วยจิตที่บริหารสมองซีกขวาก็จะแสดงบทบาทเปิดเผยตนเองออกมาได้ทันทีเช่น

ในสภาวะสมองซีกซายไร้สำนึก หลักการที่สำคัญคือ มนุษย์ต้องหยุดยั้งกระบวนการทางอารมณ์รายวันของตนให้ได้ จิตภาคแรกที่ควบคุมกระบวนการนี้จะหยุดทำงาน กระบวนการคิดรู้ในสิ่งใดๆ จะไปกระตุ้นให้จิตภาคสอง ซึ่งบริหารสมองซีกขวาที่ไร้สำนึกอยู่ให้ตื่นขึ้นมาทำงานทันที (ข้อมูลสื่อคลื่นความคิดจิตจักรวาล อ.ปริญญา)

ที่ผ่านมามนุษย์ไม่สามารถมีอภิญญา พลังจิตได้ เพราะมนุษย์เคยชินกับการใช้งานของสมองซีกซ้ายกันอัตโนมัติ ที่ไม่สามารถหักห้ามอารมณ์ความคิดความรู้สึกความต้องการแบบหยาบ ๆ ได้ นี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะต้องฝึกระงับอารมณ์เหล่านี้ เพื่อให้มันไร้สำนึกหรือหยุดทำงาน แล้ว ความมหัศจรรย์ของจิตที่บริหารสมองอีกซีกก็จะทำงานขึ้นมาแทน

และที่การเปิดใช้ด้วยคลื่นเสียงนั้น ความเป็นไปได้ที่ได้รู้มาที่ศึกษาคลื่นความโน้มถ่วง ในสนามความโน้มถ่วงมีคลื่นเสียงอยู่ในสนามพลังงานจักรวาล

เสียงของจักรวาล นาที 2.44 ค่ะ

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/BflgW66Ap3c" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

คลื่นนี้สามารถทำให้เดินทางทะลุมิติได้ มีรายละเอียดเบา ๆ มาให้ค่ะ

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/y7ctq2gzGxw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เมื่อฝึกสมองซีกซ้ายให้ไร้สำนึกแล้ว สมองซีกขวาจะสร้างความมหัศจรรย์ ..จิตจักรวาลกล่าวไว้อย่างไร เดี๋ยวมาดูรายละเอียดค่ะ เพราะจะสามารถสื่อสารภาษาสากล ภาษาที่สาม ภาษาจักรวาลได้ค่ะ

 

ปกติแล้วในสภาวะไร้สมาธิ หรือ สมาธิไม่เที่ยง แม้มนุษย์จะมีความสนใจและใส่ใจอย่างจดจ่ออยู่กับเรื่องใดสิ่งใดอยู่ในขณะนั้นก็ตาม ธรรมชาติของจิตมนุษย์จะสามารถแบ่งแยกการรู้สึกนึกคิดจากเรื่องนั้น ๆ ไปรู้สึกไปคิดเรื่องอื่น ๆ ที่ผ่านแวบเข้ามาในสมองพร้อม ๆ กับการจดจ่ออยู่กัลความคิดรู้สึกหลัก ๆ ในขณะนั้นได้เสมอ มันไม่เคยหยุดนิ่งได้อย่างแท้จริงเลย จิตมนุษย์มันจะสามารถจับกระแสการได้ยิน ภาวะการมองเห็น การรับสัมผัสทางกาย เพื่อสร้างคลื่นการคิดเป็นอารมณ์และความรู้สึก พร้อมกันได้หลาย ๆ ทางในขณะเดียวกันได้เสมอ พลังอำนาจในการคิดรู้ของมนุษย์จึงมีอยู่ในระดับต่ำ เพราะมีคลื่นการคิดรู้สับสน ไร้ระบบ ยิ่งไร้สมาธิมากเท่าใด มนุษย์จะได้รับการผลึกแห่งการคิดน้อยมากขึ้นเท่านั้น

ผลึกแห่งการคิดรู้ในทุกสรรพสิ่งที่อยากรู้ มันมิได้ถูกเก็บข้อมูลไว้ในก้อนสมองส่วนใดส่วนหนึ่งของตนเลย ถ้าเป็นประสบการณ์จากอดีตและประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในช่วงชีวิตนั้น จิตใต้สำนึกจะทำหน้าที่เก็บรักษาคุณสมบัติของข้อมูลเหล่านั้นไว้ เป็นทั้งข้อมูลทางอารมร์ของจิตที่เกิดขึ้นและประสบการณ์ที่เป็นเรื่องราว ข้อมูลเหล่านี้มนุษย์จะต้องรู้วิธีนำมันออกมาให้ได้ในยามที่ต้องการ หรือยามคับขัน จิตใต้สำนึกมันจะทวนสัญญาณข้อมูลสู่จิตสำนึกให้แก่มนุษย์เองอยู่แล้ว

การคิดรู้ในเรื่องใด ๆ ที่ไม่เคยเป็นประสบการณ์ในชาติปัจจุบันมาก่อน คิดในสิ่งที่ไม่เคยรู้ แต่อยากรู้อยากเห็น ถ้าเป็นการคิดรู้เกี่ยวกับศาสตร์สองมิติแห่งกาลเวลาบนโลก คลื่นการคิดรู้ที่จิตบริหารสมองซีกซ้าย มันจะแผ่ออกมาภายนอกในลักษณะของวงกลมที่สมบูรณ์อย่างต่อเนื่องจากจุดศูนย์กลางของการสั่นสะเทือนนั้น คลื่นการคิดจะมีอนุภาคอันเล็กละเอียด อันเกิดจากกระบวนการทางจิตใต้สำนึก ซึ่งเกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณของมนุษย์นั้นช่วยเหลือ จะแผ่ผ่านไปตามสนามพลังงานแม่เหล็กโลกออกไปรอบ ๆ ตนเอง มีพลังสามาธิมากเท่าใดก็แผ่ออกไปได้ไกลมากเท่านั้น คลื่นการคิดเหล่านี้จะมีคุณสมบัติของข้อมูลที่ต้องการติดไปกับอณูของคลื่นด้วย ทันทีที่มันค้นพบสารจิตอันเป็นคุณสมบัติของข้อมูลที่ต้องการ มันจะรับเอาคุณสมบัตินั้น ส่งคลื่นข้อมูลสะท้อนกลับเข้าหากสู่ศูนย์กลางการสั่นสะเทือนคือ จิตของเราในทันที เพื่อนำมาใส่รหัสเป็นผลึกแห่งการคิดรู้ แปลเป็นภาษาพูดภาษาเขียนกันต่อไป

สารจิตที่กล่าวนี้ รอบ ๆ กายมนุษย์ บนโครงข่ายสนามแม่เหล็กโลก จะเต็มไปด้วยสารจิตของมนุษย์คนอื่น ๆ ที่เกิดจากกระบวนการคิดรู้ และคิดได้อยู่มากมายเต็มไปหมด การที่มนุษย์รู้สึกเหมือนว่าบางสิ่งตนคิดได้เป็นคนแรกในโลกจึงอาจจะเป็นความหลงผิดไปก็ได้ ถ้าการคิดรู้นั้นเกิดจากกระบวนการของสมองปกติ หรือในขณะที่เราคิดได้ อาจมีมนุษย์คนอื่นๆ คิดได้พร้อมกันกับตัวเรา แม้จะอยู่ในสถานที่อื่นบนโลกใบนี้เช่นกัน การซิงโครไน้ซ์ทางความคิดบนโลกมนุษย์จะเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

ถ้าจะบ่งให้ชี้ชัดเจนขึน อาจกล่าวได้ว่ากระบวนการคิดรู้ใด ๆของมนุษย์ คือ การแลกเปลี่ยนคุณสมบัติของพลังงานจากคลื่นการคิดของแต่ละคน กับมนุษย์คนอื่น ๆ ในมิติที่สามแห่งกาลเวลานั้นเอง (คลื่นความคิดจากจิตจักรวาล)

และภาษาที่สามนั้นจะต้องใช้จากสมองซีกขวา ที่จะต้องทำให้สมองซีกซ้ายไร้สำนึก คือ สามารถยับยั้งกระบวนการทางอารมณ์ของตนได้ และมีสมาธิในการใช้คลื่นที่จัดเรียงตนเองอย่างเป็นระบบเป็นอย่างไร เดี๋ยวมาต่อค่ะ

 

.
เขียน ๒๑.๕๓

แหม..เขียนอ่านยากจังแฮะ ขอแปลเป็นนิทานนะ ว่า
สิบกว่าปีก่อน ก็เคยตามอ่าน อ.ปริญญา มาด้วยนะ
คิดว่าซักหกเจ็ดเล่มกระมัง ที่อ่านแบบตามติดๆ
แล้วก็หมดความสนใจ หลังกินของดีๆ หมด

เรื่องการหาคำตอบจากทฤษฎีนี้นั้น เราสรุปในจิตไว้สั้นๆ
ว่าจิตของใครๆ ที่คิดไว้อย่างเข้มข้น คงขี้นไปปนกัน
อยู่กะสนามแม่เหล็กโลก และคงอยู่เช่นนั้นมั้ง นะ
รอให้ใครที่แจ๋วมากพอ ส่งจิตไปเชื่อมเอามาใช้

และเราก็คิดว่าคงส่งขึ้นไปเยอะแยะ มากกว่าเก็บเข้ามานะ เนอะ
แถมยังมโนเอา ว่าน่าจะเชื่อมต่อข้ามจักรวาล ถึงกาแลคซี่อื่นๆ ได้ด้วย
ทำให้เวลาสงสัยอะไร ถ้าตั้งจิตได้มั่นคงพอ ก็มักจะมีคำตอบกลับมาอย่างไว
อาจมีผิดบ้าง ตามค่าความคลาดเคลื่อนแห่งจิตและกระแสพลังงาน เป็นเรื่องปกติ

ว่าแต่ ท่านจิตแย้มทำได้บ้างป่าวอ่ะ หรือ
ได้แค่อ่าน คิด และนำมาโพสท์แจก
เอ..น่าจะได้บ้างนะ เคยอ่านเจอ
แต่ชั่วโมงบินน่าจะไม่พอ
พลังก็ยังไม่เข้ม นะ
ท่านไม่แข็งอ่ะ


กระต่ายป่า แห่งสุริยะจักรวาล / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
.

 

มาต่อค่ะ...

ที่จิตจักรวาลได้กล่าวถึง หลักการปฏิบัติศาสนาตะวันออก ที่ใช้วิธการกำหนดรู้ให้สภาวะสมองซีกซ้ายไร้สำนึก ด้วยการกดระงับหรือปิดกั้นกระบวนการทางอารมณ์ใด ๆของตนไว้ เพื่อให้กระบวนการนี้หยุดนิ่ง ซึ่งจิตจะเข้าสู่สภาวะสุขสงบเพราะสมองซีกซ้ายไร้สำนึกชั่วคราว ตราบเท่าที่มีสมาธิอยู่ เมื่อจิตภาคแรกที่ควบคุมสมองซีกซ้ายหยุดยั้งอารมณ์รายวันของตนได้ การคิดรู้ในสิ่งใด ๆ จะหยุดทำงาน ก็จะไปกระตุ้นให้จิตภาคสองสมองซีกขวาที่ไร้สำนึกอยู่ปลุกเร้าให้ขึ้นมาทำงานแทนทันที

เมื่อกดปุ่มกระบวนการนี้ได้แล้ว ต้องปฏิบัติดังนี้ จงมีสมาธิคิดสิ่งนั้นแต่เพียงเรื่องเดียว

เคยกล่าวไว้แล้ว สมองซีกซ้าย ถ้าการคิดรู้ในเรื่องใด ๆ ที่เคยเป็นประสบการณ์ในชาติปัจจุบัน คิดในสิ่งที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น แต่อยากรู้ อยากเห็น เป็นการคิดรู้เกี่ยวกับศาสตร์สองมิติแห่งกาลเวลาบนโลก

แต่สำหรับกระบวนการคิดรู้ ด้วยจิตภาคสองที่บริหารสมองซีกขวาแล้ว กลับมีข้อแตกต่างออกไป

(ถ้ามนุษย์สามารถยับยั้งกระบวนการทางอารมณ์ของตนได้และมีสมาธิในการคิด โดยคลื่นความคิดจัดเรียงตนเองอย่างเป็นระบบ ทุกความถี่ของคลื่นที่เกิดจาการสั่นสะเทือนของจิตสำนึก มันจะเรียงตัวกัน แล้วถูกผลักดันออกมาภายนอก ผ่านช่องทางตาที่สามในลักษณะคล้ายลำแสง ไม่ใช่ลักษณะของวงกลมที่สมบูรณ์เหมือนการคิดรู้ปกติ คลื่นการคิดรู้ในระบบนี้ เรียกว่า "สารธารแห่งการรู้แจ้ง" ก็ได้ ซึ่งเมื่อมันถูกผลักดันออกมาภายนอก ด้วยอาศัยแนวเส้นแม่เหล็กโลกเส้นใดเส้นหนึ่ง หรือ ทั้งระบบโครงข่าย คลื่นการคิดรู้นั้นจะพุ่งผ่านออกไปตามแนวเส้นแรงนั้นได้อย่างเร็วเร็วยิ่งกว่าความเร็วแสง )

ที่ควรเรียกว่า เป็นการเรียนรู้ด้วยวิธีสังเคราะห์ ที่สามารถใช้กลไกนี้เรียนรู้ได้ทุกสรรพสิ่งรอบตัว รอบโลก และ ทั้งจักรวาล เรียนรู้ได้ทั้งภายในและภายนอก ทั้งที่อยู่ห่างต่างสถานที่ในเวลาเดียวกัน ทั้งที่เป็นคุณสมบัติอยู่ในจิตผู้อื่น ทั้งทีก่อนเคยรู้ให้ได้รู้มากขึ้น และไม่เคยรู้ให้รู้แจ้งมากขึ้น เป็นการรู้ด้วยวิธีการสังเคราะห์ มนุษย์จะต้องผลักดันพลังงานการคิดรู้เข้าไปเป็นส่วนหนึงของสรรพสิ่งเป้าหมายนั้นให้ได้ ทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ทั้งที่มนุษย์เห็นตัวตนหรือมองไม่เห็น ล้วนเป็นรูปธรรมที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เมื่อถูกยึดเหนี่ยวไว้เป็นหนึ่งเดียวกับของสิ่งนั้นได้แล้ว คลื่นการคิดจะรับเอาคุณสมบัติต่าง ๆ ของพลังงานจากสิ่งนั้น แล้วทวนสัญญาณกลับคืนสูจิตอีกทอดหนึ่ง ขณะที่สารธารการรับรู้ถูกสังเคราะห์ด้วยกระบวนการของสมองซีกขวา จนเกิดเป็นการผลึกแห่งการคิดรู้เป็นนัยหรือเป็นภาพหลายมิติเป็นภาพเชิงซ้อนหรือเคลื่อนไหวที่ตรงกับคุณสมบัติจริงของสรรพสิ่งนั้นได้ทันที

ถ้าหากมนุษย์ต้องการวิเคราะห์นัยที่ได้รับ หรือ ถ่ายทอดต่อบุคคลอื่น ข้อมูลทั้งหมดจะส่งผ่านไปยังสมองซีกซ้าย เพื่อช่วยเหลือในการวิเคราะห์และอธิบายความเป็นภาษาพูดหรือภาษาเขียนต่อไป

นี่คือข้อมูลพื้นฐาน ที่อยากให้มนุษย์เข้าใจ และใช้เป็นแนวทางในการฝึกฝนตนเองเตรียมตัวสู่การเป็นมนุษย์ที่ทันสมัยบนโลกยุคพลังงานใหม่ อันเป็นยุคแห่งการรู้แจ้ง

จงมีความมุ่งมัน มีความเชื่อมั่น และ ประกอบด้วยศรัทธา

ความมุ่งมั่น คือ อุปสรรคของการเริ่มต้นฝึกฝน คือ การเผชิญกับความรู้สึกท้อแท้ เบื่อหน่าย เพราะเหตุว่าไม่มีความมานะพยายายาม ขาดความอดทนที่จะรอคอยผลึกแห่งการคิด ล้มเลิกการคันเสียก่อน ทำให้สายธารแห่งการรู้แจ้งของตนถูกปิดกั้นตามไปด้วย เพราะว่า กว่าคลื่นการคิดของตนจะเคลื่อนไหลไปตามสนามพลังงานเพื่อค้นหาคำตอบที่ต้องการให้พบไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะมันมีองค์ประกอบร่วม พลังสมาธิสูงสุดเพียงไร การจัดเรียงตัวของคลื่นการคิดมีระเบียบมากน้อยเท่าใด สถานที่นั้นมีพลังงานจากสนามแม่เหล็กโกลเข้าถึงได้เต็มที่หรือไม่

ความเชื่อมั่น ที่เกิดขึ้นจะช่วยกระตึ้นให้จิตสำนึกเกิดการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องและรุนแรงยิ่งขึ้น อันเป็นผลไปกระตุ้นระบบประสาท ซิมปาเทติกซึ่งเป็นอวัยวะของจิตใต้สำนึก ให้ทำงานตื่นตัวอย่างเต็มที่ ผลักดันออกมาภายนอกสามารถพุ่งผ่านไปได้ไกล ๆ

ด้วยความศรัทธา จะช่วยประคับประคองคลื่นการคิดรู้ของเราไม่ให้แตกซ่านและช่วยค้ำจุนคลื่นความถี่ของสายธารแห่งการรู้แจ้งให้ยกตัวอยู่ในระดับคงที่ได้อย่างยาวนาน ตราบเท่าที่กระบวนการนี้ยังดำเนินอยู่ ควรจัดเป็นความรู้ใหม่อันควรพิสูจน์รู้แล้วลงมือค้นคว้าหาแก่นแท้ของสิ่งนั้น ความมีจิตใจเปิดกว้างไม่หลงยึดติดกับสิ่งใด ๆ ความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงตนเองสู่สิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม เยี่ยง"นักรบแสงสว่าง" เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายแห่งการรู้แจ้ง หากไม่ยอมเสียเวลาเพื่อการรู้แจ้งในสิ่งใหม่บ้าง มนุษย์นั้นย่อมไม่มีวันค้นพบสัจธรรมที่จริงแท้ได้เลย

อณาบริเวณที่แสงสว่างตกกระทบนัน สามารถเปลี่ยนความมืดให้เป็นความสว่างได้ก็จริงอยู่ แต่มันจะมีบางจุดเท่านั้นที่จะมีความเข้มของแสงสว่างสูดสุด จะต้อแสวงหามันให้พบ เพราะมันคือที่ตั้งแห่งการรู้แจ้ง ซึ่งเรียกว่าความจริงที่แท้ มิใช่ค้นหากันแต่เพียงแค่ ความมืดกับความสว่าง ดังเช่น การพิจารณาหาเพียงความถูกความผิด ในการคิดแบบจิตมนุษย์

 

เคยอ่านข้อความของนักเขียนชื่อดัง เคยเขียนบอกว่า ยุคนี้มีคำตอบรออยู่มากมาย ขาดเสียเพียงอย่างเดียวว่า จะมีคำถามที่ดีพอหรือเปล่านะคะ

งั้นต่ออีกนิดค่ะ จิตจักรวาลได้สื่อไว้หนังสือว่า การเข้ากรรมฐานสมาธิ จะเป็นวิธีที่เหมาะสมต่อการรับคลื่นสัญญาณ จากจิตจักรวาลอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่นอกเอกภพได้โดยไม่ต้องร้องขอ ทันทีที่ได้รับคลื่นสัญญาณมนุษย์อย่าตื่นกลัวเพราะนั่นเป็นสัญญาณแท้จริงไม่ใช่มายาเป็นสัญญาณภาษาสากล สามารถโต้ตอบกับจิตจักรวาลได้ด้วยตนเอง จงสอบถามในสิ่งที่ต้องการรู้แล้วจะรู้ว่าจิตจักรวาลมีจริง เพียงรู้จักปฏิบัติสมาธิให้ถูกต้องให้ได้เท่านั้น สํญญาณที่ได้รับ อาจจะเป็นเสียงกังวานในสามาธิ หรือ ฟังด้วยจิตไม่ใช่ฟังด้วยหูแล้วจะรู้เข้าใจความหมายได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกมหัศจรรย์แต่อย่างไร สำหรับการติดต่อกับจักรวาลด้วยตนเองของมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ในยุคพลังงานใหม่นี้

กฎแห่งแรงดึงดูด

มิติสนามพลังงาน ความคิดทั้งหลายมีคลื่นความถี่เฉพาะตัวของมันเอง และจะดึงดูดคลื่นความถี่ที่เหมือนกันเข้าหากัน

 

เคยทำได้ค่ะ:VO

 

เผื่อใครสนใจลองฝึกดูก็ได้ค่ะ...ดูแล้วใจนิ่งดีค่ะ

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/EEUk3CFGCWk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

รายละเอียดและแนวทางในการฝึกค่ะ ....ตาที่สาม ค่ะ

<iframe width="640" height="360" src="https://www.youtube.com/embed/guHxGMxXfjM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

ได้อ่านพยายามจดมาจาก ยูทูป จาก ผู้ฝึกปฏิบัติผู้หนึ่งนะคะ...น่าสนใจดีมากเลยคะ

เป็นประสบการณ์ที่ท่านนั้นสำเร็จมาได้อย่างไร..รายละเอียดคร่าวๆ ค่ะ

วิธีการฝึกทิพยจักขุญาณ

ผู้ฝึกกินข้าวมื้อเดียว ฝึกวันละ 1 รอบ ตั้งแต่ ตี1 ถึง 11 โมงเช้า รวดเดียว 11 ชม.
ไม่ต้องภาวนาอะไร หรือ จับอะไรเป็นอารมณ์ทั้งสิ้น
ไม่ต้องนึกคิดพิจารณาอะไร
ไม่ต้องเพ่งอะไรทั้งสิ้น
เรียกว่า รู้ เฉย ๆ

อาศัยวิริยะบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี อดทนต่อทุกขเวทนา นั่งอย่างนี้ทุกวันจึงจะสำเร็จวิชานี้

ครั้งแรกที่เห็นเหมือนสัญญาณไฟส่องสว่างมา ณ ที่รถยนต์ และ แสงสว่างก็เข้ามาใกล้ ๆ เห็นทั้งลืมตาและหลับตา

ต่อมาจึงให้ทดสอบวิชชา ตรงตามความจริงทุกประการ จึงมั่นใจ ....

บางคนทนฝึกไม่ไหว ขันติบารมีไม่มี...

การจะได้ของวิเศษต้องใช้ชีวิตเข้าแลก...เลือดตาแทบกระเด็น....

*************

ปลุกใจดีค่ะ ถ้าพยายามอย่างไรก็คงต้องสำเร็จสักวัน...

ถ้าเป็นยุคพลังงานใหม่นี้...ฝึกง่ายกว่ายุคก่อนมาก เพราะว่า คลื่นความถี่สนามแม่เหล็กโลกยกระดับสูงขึ้น มีผลต่อการฝึกได้ง่ายกว่า....

 

มีเพลงที่ฟังแล้วอยากฆ่าตัวตายอยู่ ชื่อ gloomy sunday อยากลองฟังตามลิ้งข้างล่างไปเลย
"gloomy sunday" บทเพลงแห่งความตาย เพลงที่ทำให้ผู้ฟังฆ่าตัวตายกว่า 200 รายทั่วโลก - Pantip

 

มองว่ายังเป็นเรื่อง metaphysics ในเรื่องการ activate ความสามารถพิเศษอะไร พวกอภิญญา ง่ายๆ ในทางวิทยาศาสตร์ แต่ฝรั่งเริ่มหันมาสนใจในเรื่องของการเจริญสติ, mind fullness กันมากขึ้น ได้มีการทำวิจัย ทดสอบว่าการรู้อยู่กับปปัจจุบันจะช่วยแก้ไขปัญหายากๆได้หรือไม่ อย่างเช่น ทำอย่างไรให้ผู้ ติดเหล้าหรือบุหรี่ ทำการเลิกนิสัยพวกนี้ แทนที่จะบอกให้เลิก นักวิจัยลองให้ ทดสอบ สูบบุหรี่อย่างมีสติ ให้กำหนดจิตอยู่กับปัจจุบันตอนควันบุหรี่ผ่านปอดเข้าไป ผล คือ เลิกกันไป ได้เยอะ 555

ฟังต่อที่ tedtalk นี้ครับ

https://www.ted.com/talks/judson_brewer_a_simple_way_to_break_a_bad_habit?language=en

ปล ปัจจุบันสั้นนิดเดียวเนอะ